ที่บ้านวาฬเนี่ยทำกับข้าวทุกวันเลยค่ะ ทั้งผัด ทั้งทอด เหลือน้ำมันทำอาหารก็เยอะอยู่ แต่จะเก็บมาใช้ซ้ำบ่อย ๆ ก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพอีก แบบนี้จะมีวิธีไหนอีกไหมน้าที่จะช่วยรีไซเคิลเจ้าน้ำมันใช้แล้วนี้ และแล้ววาฬก็ได้คำตอบจากพี่ชายใจดีที่ชวนวาฬมาร่วมเวิร์กช็อปวิธีทำสบู่ โดย ASAI ในคลาส "Waste to Worth : Soap Making by Recycling Cooking Oil" กับ Ms. Maria Kalita ผู้สอนชาวยูเครนและผู้ก่อตั้ง Bangkok Soap Opera คอมมูนิตีที่ตั้งใจแชร์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการทำสบู่ น้ำหอม และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ โดยเป็นสูตรใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติมากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมี และเพื่อเป็นการรักษาสุขภาพของโลกใบนี้ให้ยังคงงดงามอยู่เสมอนั่นเองค่ะ
ก่อนจะเริ่มคลาส คุณมาเรียก็ได้เล่าให้ฟังว่าทำไมถึงอยากเชิญชวนให้เพื่อน ๆ ได้ลองใช้สบู่จากน้ำมันใช้แล้วนี้ ซึ่งเหตุผลก็คือ เพราะเป็นการจัดการวัสดุเหลือใช้ที่แทบไม่เหลือประโยชน์นำมาแปรสถาพให้กลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งส่งผลดีกับตัวเราและโลกด้วย โดยทุกผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบมักจะย้อนกลับมาหาเราเสมอไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง โดยเฉพาะสบู่ที่ใช้ล้างตัวเราทุกวัน ก็จะไหลลงสู่แม่น้ำที่ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูก และจะวนเวียนมาสู่อาหารที่เรากินในที่สุด อึ๋ยแค่คิดตามก็เห็นภาพชัดเจนแล้วค่า งั้นเรามาเริ่มลงมือกันเลยยย
คุณมาเรียจะแนะนำอุปกรณ์และวัตถุดิบของสูตรสบู่ก่อนค่ะ ก็จะมีที่ชั่งน้ำหนักขนาดเล็ก เบลนเดอร์ (สำหรับปั่นส่วนผสม) หม้อต้มสบู่ (ควรแยกจากหม้อที่ใช้ทำอาหารปกติ) ที่กรอง ที่ตี และแว่นป้องกัน ขั้นตอนแรกเริ่มจากนำน้ำมันใช้แล้วไปอุ่น และหากใครชอบกลิ่นสโมก จะใช้เป็นน้ำมันจากเบคอนก็ได้ อาบไป หิวไป ได้ฟีลแปลกใหม่อีกแบบ จากนั้นตวงน้ำต้มสุกหรือน้ำดื่ม แล้วค่อย ๆ เทโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) สารละลายน้ำเพื่อทำสบู่ลงไป ใช้ที่ตีคนให้ละลายจนน้ำกลายเป็นสีนมในที่สุด
เมื่อส่วนผสมทั้งสองพร้อมแล้วก็ค่อย ๆ เทน้ำที่มีสารละลาย KOH ทั้งหมดลงไปในน้ำมันอุ่น ๆ ผ่านตัวกรอง แล้วใช้เบลนเดอร์คน จากนั้นใส่แอลกอฮอล์ลงไป โดยจะใช้เป็นเอทิลแอลกอฮอล์หรือวอดก้าก็ได้! นำ้มันกับสารละลาย KOH จะกลายเป็นเนื้อคัสตาร์ดครีมช้า ๆ แล้วก็เอาไปอุ่นอีกรอบค่ะ อุ่นไป ใช้เบลนเดอร์คนไป เนื้อจะกลายเป็นเจลลีเอง!
ระหว่างอุ่น เรามาทำขั้นตอนที่สนุกที่สุดกันเลยดีกว่า นั่นก็คือ การผสมกลิ่นต่าง ๆ เป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเรานั่นเอง โดยใช้สารสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผงสมุนไพร สมุนไพรอบแห้ง และน้ำมันสกัดต่าง ๆ ซึ่งจะมีคุณประโยชน์ต่อผิวอีกด้วย ของวาฬเลือกเป็นโกโก้และกลิ่นมินต์ พอผสมรวม ๆ กันแล้วกลิ่นน่ากลิ่นมากเลยยย ~ ตอนนี้เพื่อน ๆ หลายคนในคลาสก็ผสมกลิ่นเฉพาะของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน มีทั้งกลิ่นสับปะรด ลิ้นจี่ กุหลาบ หญ้าฝรั่น ขมิ้น ต้นมินต์แห้ง และอื่น ๆ อีกเพียบ เรียกได้ว่าสามารถผสมกลิ่นที่ไม่เหมือนใครในโลกได้เลย พอผสมกลิ่นจนเป็นที่พอใจแล้ว ในที่สุดสบู่จาก Cooking Oil ก็กลายเป็นเนื้อแยม!!
คุณมาเรียทะยอยเทสบู่เนื้อแยมลงในภาชนะที่เราผสมกลิ่นเอาไว้ เมื่อได้มาแล้วให้ค่อย ๆ คน จนส่วนผสมทั้งหมดนั้นเข้ากัน กลิ่นโกโก้มินต์ที่หอมกรุ่นน่ากินของวาฬถูกกลิ่นสบู่กลบไปเล็กน้อย แต่ยังพอได้กลิ่นจาง ๆ ของโกโก้กับมินต์อยู่บ้าง และพอได้ลองไปใช้จริง ถึงแม้เนื้อสบู่จะล้างออกยากกว่าปกติ แต่ความชุ่มชื้นที่ได้มากลับเยอะกว่าสบู่ที่ใช้ทั่วไป นี่สินะมหัสจรรย์จากธรรมชาติ ไม่น่าเชื่อเลยว่าน้ำมันจากอาหารใช้แล้วจะนำกลับมารีไซเคิลเป็นสบู่ได้
ยังค่ะ ความสนุกยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะมีเกมตอบคำถามสนุก ๆ ชิงหมอนสามเหลี่ยมสีครามสวย ๆ จาก ASAI โดยเป็นคำถามเกี่ยวกับการทำสบู่นี่แหละค่ะ เพื่อน ๆ ในคลาสยกมือตอบกันใหญ่เลย ส่วนวาฬนี่ช้าเป็นเต่ายกมือตอบไม่ทันเขาหรอกค่ะ
เวิร์กช็อปวิธีทำสบู่โดย Bangkok Soap Opera นี้ไม่ยากเลยนะคะเนี่ย จริง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงหนึ่งก็ได้สบู่จากน้ำมันเหลือใช้แล้ว แถมยังแต่งกลิ่นได้ตามใจเราชอบอีก ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดี ๆ จาก ASAI (อาศัย) แบรนด์โรงแรมไลฟ์สไตล์น้องใหม่ในเครือโรงแรมดุสิตธานีเลยล่ะ ซึ่งทางโรงแรม ASAI จะเน้นไปที่คอนเซปต์ Circula Economy (การขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยพลังงานหมุนเวียน) และยังเป็นทั้งที่พักผักหย่อนใจของนักเดินทางยุคมิลเลนเนียล พร้อมทั้งนำเสนอคู่มือเที่ยว - กิน - จุดเช็กอิน ที่มีเฉพาะแต่คนท้องถิ่นเท่านั้นที่รู้จัก! ใครที่อยากไปพักผ่อนชิก ๆ อดใจรอหน่อยนะคะ เพราะโรงแรม ASAI จะเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2562 นี้ ที่ทำเลดีใจกลางตลาดนัดสวนจตุจักร ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก ASAI เว็บไซต์ ASAIHOTELS
