ใกล้วันไหว้พระจันทร์เข้าไปทุกที เหล่าคนรุ่นใหม่คงอยากหาขนมไหว้พระจันทร์ดี ๆ ไปให้ญาติผู้ใหญ่ให้ท่านชื่นใจสักครั้ง เรามีร้านขนมไหว้พระจันทร์ชื่อดังที่ตระกูลของเราต้องกินสืบทอดกันมาทุกปีอย่างร้าน แต้เล่าจิ้นเส็ง ร้านขนมจีนแท้ดั้งเดิมที่เริ่มจากการขายเป็นแผงลอยในซอยเยาวราชเล็ก ๆ แต่ด้วยรสชาติที่ดีงามและเครื่องที่อัดแน่นแบบที่ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ที่ไหน ทำให้ร้านแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และขยายร้านเป็นห้องแถวใหญ่ใจกลางเยาวราชในเวลาอันสั้น ในวันเปิดร้านเหล่าคนใหญ่คนโต และผู้คนมากมายมาที่ร้านกันอย่างหนาแน่น จน “คุณเสริมชัย ตฤติยศิริ” บอกว่า ขายดีจนต้องมีการปิดถนนขายมีอยู่จริง

“ผมเป็นรุ่นที่ 4 ของการสืบทอดสูตรขนมร้านนี้ ตระกูลผมเป็นคนจีนแท้ เดินทางมาที่ไทยแบบไม่ได้มีอะไรเลย แต่อาศัยว่าทำขนมอร่อย บ้านเราทำขนมอร่อยมาก จากตั้งวางขายในซอยแถวเยาวราช เราขายหลายอย่าง คนก็มาเหมา ๆ จนร้านผมกลายเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนที่มาเยาวราชอย่างรวดเร็ว เราใช้เวลาไม่นานในการเก็บเงินก้อนมาสร้างหน้าร้านให้ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้นถ้ารวมเวลาการทำร้านก็ประมานร้อยกว่าปีได้แล้ว”

กลิ่นขนมอบยังคงกรุ่นในใจลูกค้าหลายต่อหลายคนไม่มีเปลี่ยน เวลากว่า 100 ปี ไม่ได้ทำให้กรรมวิธีอันล้ำค่าของการทำขนมประจำตระกูล แต้เล่าจิ้นเส็ง หายไป
“เรายังใช้วิธีการทำมือทุกอย่างเหมือนเดิม ใช้สูตรเดิม ๆ มันอาจจะเสียเวลาหน่อย แต่ความอร่อยจะต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ขนมทุกชิ้นมันมีรสชาติและราคาของมันที่เราต้องให้เวลา เชฟที่ทำขนมให้เราตอนนี้ ก็เป็นรุ่นเก่า ๆ ที่อยู่กับเรามานานแล้วทั้งนั้น บางคนอยู่มาถึง 60 ปี เราให้ความสำคัญกับเชฟคนทำมาก เพราะถ้าเปลี่ยนนิดเดียว รสชาติก็เปลี่ยนได้ และการทำขนมด้วยมือทุกชิ้นเราจะได้เห็นรายละเอียดมันอย่างชัดเจนก่อนส่งถึงมือลูกค้า ทำให้ทุกชิ้นคุณภาพไม่มีตก”


จากเฟื่องฟูสู่วันที่เลือนลาง วัฒนธรรมและความดีงามที่ค่อย ๆ จางหายไปตามเวลา
“เมื่อก่อนเราทำขายวันละเป็นหมื่น ๆ ลูก ทำเท่าไรก็ทำไม่ทัน จนจองกันข้ามเดือน เปิดขายหน้าร้านที่คนมุงอย่างกับมาดูคอนเสิร์ต ผมยังเก็บภาพพวกนั้นไว้เลย เราว่าตระกูลเราทำไว้น่าประทับใจมาก ๆ แล้ว เราไม่คิดว่าขนมเราจะไปได้ไกลขนาดนั้น จนกระทั่งทุกอย่างค่อย ๆ หายไป เดี๋ยวนี้เราทำวันละไม่กี่พันชิ้น ก็ยังขายไม่ค่อยหมด ร้านใหม่ ๆ เกิดขึ้น และคนไหว้พระจันทร์น้อยลง ทำให้ร้านเราไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่เราก็ยังยืนยันจะขายต่อไป”

เนื่องจากสาขาที่เรามาคือสาขาตลาดน้อย เป็นสาขาหลักในการผลิต ทำให้ได้ขนมร้อน ๆ ออกจากเตา ในส่วนของขนมไหว้พระจันทร์ร้านนี้มีหลากหลายไส้ หลากหลายรูปแบบ โดยที่เราได้ลิ้มลองวันนี้คือ “ขนมไหว้พระจันทร์ ไส้ทุเรียนไข่เค็ม” (120 บาท) ทุเรียนกวนเน้น ๆ ไม่ผสมแป้ง เนื้อหวานหอมกำลังดี “ขนมไหว้พระจันทร์ โหงวยิ้ง” (120 บาท) เป็นไส้ที่ประกอบด้วย ไข่เค็ม และเมล็ดผลไม้ 5 ชนิด ไส้เน้น ๆ ชิ้นใหญ่ เนื้อเนียนเหนียวนุ่ม อัดเเน่นเต็มปากเต็มคำค่าคุ้มราคาแน่นอน “ขนมไหว้พระจันทร์ ไส้พุทราจีน ถั่วพิสตาชิโอ” (130 บาท) ตัวนี้มีความคล้ายคลึงกับโหงวยิ้ง แต่จะเพิ่มความกรอบ และรสชาติด้วยถั่วพิสตาชิโอ ที่หลาย ๆ คนชอบ



ต้องบอกว่ารสชาติตั้งแต่ตัวแป้งไปจนถึงไส้ของที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมาก ๆ หั่นไปไส้แน่นทะลักชิ้นเครื่องเต็มคำ เรารู้สึกประทับใจมาก หนึ่งชิ้นกินได้แบบเต็มอิ่ม ไม่แปลกใจที่ทำไมร้านแห่งนี้สามารถอยู่มาได้ถึง 100 ปี

หากใครสนใจอยากลิ้มลองขนมไหว้พระจันทร์ที่เคยสร้างปรากฏการร์คิวยาวทะลักถนนอย่างร้าน แต้เล่าจิ้นเส็ง ก็สามารถไปลิ้มลองได้ที่ 927-929 ถ.เจริญกรุง กรุงเทพมหานคร (อยู่ขวามือ ตรงข้าม ป้ายรถเมล์) หรือโทร 022-364661 เทศกาลแบบนี้หนึ่งปีมีครั้งเลือกกินทั้งทีต้องดีและถูกใจ หรือถ้าบ้านอยู่ไกลสามารถสั่ง LINE MAN ได้ ที่นี่ ขนมดี ๆ ก็พร้อมไปอยู่ในมือคุณ