เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ มีเรื่องให้หลายต่อหลายคนได้ใจหายไม่น้อย กับการประกาศปิดตัวลงของตลาดคลองสาน ที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า เพราะค่าที่ที่พุ่งทะยานจาก 1.6 ล้าน สู่ 15 ล้านบาท จึงจะไม่มีการต่อสัญญาการเช่าใด ๆ ต่อ

หากย้อนกลับไปในวันที่ย่านคลองสานไม่ได้มีรถไฟฟ้าและตึกรามบ้านช่องมากมายเช่นนี้ "ตลาดคลองสาน" คือแห่งนัดพบของชาวฝั่งธนบุรีที่จะไปชอปปิง และตะลอนกินของอร่อยมากมายในตลาด เรียกได้ว่าที่นี่คือสถานที่วัยรุ่นฝั่งธน ฯ เที่ยวกันอย่างหนาตา แต่เมื่อความเจริญต่าง ๆ เริ่มเข้ามา ท่าเรือและตลาดก็ค่อย ๆ ถูกลืมไปตามกาลเวลา
ตลาดแห่งนี้เงียบเหงาลงเรื่อย ๆ จนหลายร้านที่เรากินกันมาช้านานค่อย ๆ ทยอยกลับบ้านไปหมด เหลือเพียงร้านเก่าแก่ไม่กี่ร้านที่ยังคงอยู่ และเชื่อว่าแฟนคลับของร้านเหล่านี้คงใจหายไม่น้อยถ้าร้านเหล่านี้จะปิดตัวลงตามไป

ร้านแรกที่ไม่นึกถึงคงไม่ได้คงหนีไม่พ้น “บัวลอยคลองสาน” ร้านเติมความหวานตั้งแต่วัยรุ่นก่อนที่คาเฟ่ต่าง ๆ จะเฟื่องฟู ร้านนี้จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นที่มาเดินเที่ยวมากมาย เมื่อนับถอยหลังวันปิดตลาดร้านคู่คลองสานแห่งนี้ จะมีทิศทางไปทางไหนต่อ


“เราก็เพิ่งรู้ข่าวพร้อมคนนอกนั่นแหละ เราอยู่กับตลาดนี้มานานจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของตลาดแล้ว เราเตรียมใจกันมาสักระยะแล้ว เพราะคนเงียบลงมากตั้งแต่มีรถไฟฟ้าเข้ามา การเดินทางด้วยเรือไม่ใช่ตัวเลือกของคนสมัยนี้แล้ว เราก็ประคองร้านนี้มาตลอด แต่ตอนนี้เราเหลือเวลาไม่ถึงปีที่จะอยู่ตรงนี้ ก็จะขายจนถึงวันสุดท้ายที่ตลาดปิดนั่นแหละ ส่วนที่ใหม่ที่จะเปิดเราก็จะพยายามหาเป็นที่แถว ๆ นี้ ไม่ไปไกลจากคลองสาน แต่อาจเป็นร้านรถเข็นเล็ก ๆ เพราะเราคงสู้ค่าที่แถวนี้ไม่ไหว เดี๋ยวนี้ตรงนี้เจริญขึ้นมากแล้ว เราไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าคนจะจำร้านเราได้ไหมถ้าเราไม่ได้ขายตรงนี้”

ต่อกันที่ “ร้านน้ำจับเลี้ยง” ที่อยู่ที่ตลาดแห่งนี้มานานกว่า 40 ปี น้ำสมุนไพรหวานน้อย ที่กินแล้วเย็นชื่นใจ รสชาติไม่เหมือนใคร ขวัญใจชาวตลาดคลองสานมาช้านาน ก็อาจจะหยุดพักยาว ๆ ถ้าตลาดแห่งนี้ปิดตัวลง

“เราอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่สาว ๆ รวม ๆ ก็ 40 ปีแล้ว สมัยก่อนตรงนี้คนเต็มไปหมด ทำเท่าไรก็ไม่พอขาย คนนี่เดินแน่นเบียดกันทุกวัน เพราะเมื่อก่อนที่เที่ยวยังไม่ค่อยเยอะ คนก็ข้ามเรือมาเที่ยวที่นี่กัน แต่พอเริ่มมีรถไฟฟ้า คนก็ไปเที่ยวที่ต่าง ๆ มากขึ้น ร้านค้าแถวนี้ก็ทยอยย้ายออกกันไป คนข้ามเรือก็น้อยลงทุกวัน จนเมื่อต้นอาทิตย์เขาก็คุย ๆ กันในตลาดว่า ตลาดจะไม่ต่อสัญญานะ เราก็ใจหายอยู่ เพราะขายตรงนี้คนลูกค้าติดแล้ว บางคนกินตั้งแต่เด็กจนโตขนาดหอบลูกมาซื้อก็มี ถ้าต้องปิดตัวลงจริง ๆ เราก็คงพักยาว ๆ เพราะก็ไม่รู้จะไปขายตรงไหน อยู่แถวนี้ต่อคงไม่ไหว ค่าที่แพงเกินไปที่เราจะมานั่งขายน้ำแก้วละ 5 บาท 10 บาท แบบที่ทำอยู่ตอนนี้”


และร้านสุดท้ายที่อยู่ที่นี่มานานไม่แพ้สองร้านข้างต้นคือร้าน “อิ่วก้วย(เจ้าเก่า) ตลาดคลองสาน” ที่อยู่มาหลายสิบปี ลูกค้าเก่า ๆ จะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เมื่อรู้ข่าวร้านแห่งนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะเอายังไงต่อ


“ยังคิดไม่ออกเลย อยู่ตรงนี้มาจนชินแล้ว ก็พอเดาออกว่าต้องปิดตัวลงสักวัน เพราะมันเงียบมาก ยอดขายหายไปวันละเกือบ 70% ถ้าตลาดนี้ปิดตัวลงจริง ๆ ก็ถึงเวลาของมันแล้ว ยื้อไปก็เจ็บตัว ค่าที่ขึ้นเอา ๆ เราก็เข้าใจเจ้าของที่ที่ให้เราเช่า อะไรจะเกิดก็เกิด แก่มาขนาดนี้แล้ว ปลงกับการเปลี่ยนแปลงแล้ว เราถูกแทนด้วยร้านใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ ต้องยอมรับว่าหมดยุคสมัยเราแล้ว”

วันนี้เราได้กลับมาเดินที่นี่อีกครั้งด้วยความตั้งใจ ต้องบอกว่ามันแตกต่างจากตอนที่เรายังเด็กมาก ร้านค้าค่อย ๆ ทยอยย้ายออกจนมีล็อกว่างมากมาย ใครพอมีเวลาว่างก็อย่าลืมหาเวลาพาตัวเองมาล่องเรือข้ามฟากในวันสบาย ๆ มาเดินย้อนวันวานตามหาความทรงจำกับร้านต่าง ๆ ที่เคยมา


เมื่อความเจริญเริ่มงอกงาม สิ่งใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นตามมา แต่อย่าลืมสถานที่เก่า ๆ ที่เคยสร้างความสุขให้เรานับไม่ถ้วน