เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ! โตเกียวตำนานคู่ ม.ขอนแก่น ขายมานานกว่า 35 ปี

“โตเกียวหน้า คณะวิทยาการฯ” (ปัจจุบันเป็นคณะบริหารธุกิจและการบัญชี) หลาย ๆ คนใน ม.ขอนแก่น ต้องคุ้นหูกัน อาจจะเรียกว่าโตเกียวในตำนานกันเลยก็ยังได้ เพราะโตเกียวเจ้านี้ขายมานานกว่า 35 ปี ตั้งแต่รุ่นพ่อกันเลยทีเดียว ถ้าหากใครเป็นลูกค้าประจำตั้งแต่สมัยคุณลุงโต ( ลุงโตเกียว ) ที่นักศึกษา มข. หลายคน จะต้องได้ลิ้มลองฝีมือจากคุณลุงมานานกว่า 20 ปี แต่ปัจจุบันคุณลุงได้ปลดเกษียณตัวเองจากการขายโตเกียว และมาเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ให้ลูกชายและลูกสะใภ้เข้ามารับตำแหน่งขายโตเกียวแทน และตัวคุณลุงเองก็จะเข้ามาช่วยบ้างในช่วงเปิดเทอม ทีมงาน Wongnai ขอนแก่น เลยขอตามมาโดนกันหน่อย

“พี่แนน” ลูกสะใภ้คุณลุงโต กลับมาจากกรุงเทพเพื่อมารับช่วงต่อจากคุณลุงโต มาได้เกือบ 10 ปีแล้ว พี่แนนเล่าให้ฟังว่า ช่วงแรก ๆ ที่มาขายคนถามหาคุณลุงโตเยอะมาก บางคนแทบจะไม่กินเลยถ้าหากคุณลุงไม่มาขาย จะรอซื้อกับคุณลุงเท่านั้น จนทำให้พี่แนนต้องมาช่วยคุณลุงขายก่อนที่จะออกขายคนเดียว ช่วยเอาโตเกียวใส่ถุง เวลาคุณลุงพัก พี่แนนก็จะมาทำขายเองเลย ทำให้คนเริ่มคุ้นเคยกับพี่แนนมากขึ้น และกลับมาซื้อโตเกียวเหมือนเดิม

เริ่มแรกที่คุณลุงโตได้สูตรมา ก็นำมาปรับไปเรื่อย ๆ ให้รสชาติที่ดีสุด จนกลายเป็นสูตรเฉพาะของคุณลุง หลัก ๆ ของร้าน จะมีโตเกียวรังนก แซนด์วิช ไส้เค็ม ไส้หวาน คุณลุงเล่าให้พี่แนนฟังว่า น้อง ๆ ที่คณะเป็นคนคิดเมนูให้ เพราะเบื่อที่จะกินโตเกียวเเบบธรรมดา ๆ แล้ว ลุงลองเลยทำดู เลยได้มาเป็นเมนูต่าง ๆ ในร้าน

การพับเเซนด์วิช — การกินแซนด์วิชอย่างมืออาชีพ

“พิซซ่า” (15.-) ทำแป้งให้เป็นวงกลม ใส่ไข่ ไส้กรอก ตามด้วยหมูสับ ไข่ตีกระจายให้ทั่ว ๆ เพราะเวลากลับด้านมันจะได้ไม่หล่น พอสุก หั่นเป็น 4 ชิ้น เหมือนกับพิซซ่า “แซนด์วิช” (15.-) ทำเเป้งเป็นวงกลม 3 แผ่น ไข่ดาวตรงกลางประกบกับอีกสองแผ่น โดยทุกเมนูจะใส่ทุกอย่างเหมือนกัน แค่คนละรูปแบบ ** เคล็ดลับในการกินเเซนด์วิช จะต้องพับจานกระดาษครึ่งนึง และเอาแซนด์วิชไว้ตรงกลาง จะทำให้กัดกินได้อย่างมืออาชีพ

มาถึงพระเอกของร้าน ถือว่าท็อปฟอร์มสุด ๆ ขายดีมากค่ะ คือ “โตเกียวรังนก” (15.-) นำเเป้งมาทำเป็นตาข่าย แล้วใส่ไข่ไก่ลงไป ตามด้วย หมู ไส้กรอก แล้วซอสต่าง ๆ พอสุกก็พับให้เป็นเหลี่ยม มีลายตาข่าย คล้าย ๆ รังนก ชิ้นใหญ่มาก ๆ กัดตรงไหนก็เจอแต่ไส้กับไข่ไก่ฟองใหญ่ ๆ สองชิ้นก็แทบจะไม่ต้องกินข้าวแล้วว

วัตถุดิบแต่ละอย่างก็ไม่ธรรมดาเลย หมูสับ ใช้หมูบดที่ต้องบดละเอียด บดจนถึงสามรอบ เพื่อเวลาไปผัดจะได้ไม่มีน้ำมัน เป็นหมูสับผัดแห้ง เพราะถ้าหากมีน้ำมัน เวลาเอามาใส้แล้วเยิ้ม ทำให้ถุงกระดาษที่ใส่เปียกและไม่น่ากิน ไส้กรอกเป็นไส้กรอกไก่ เพื่อนักศึกษาที่มาจากใต้ บางคนไม่กินหมู แต่อยากกินโตเกียว เลยเลือกใช้ไส้กรอกไก่ และมาถึงตัวแป้งที่เป็นสูตรเฉพาะ โดยเมื่อก่อนคุณลุงเป็นคนตีแป้ง แต่ปัจจุบันคุณลุงก็ได้ถ่ายทอดสูตรให้ลูก ๆ ได้มาทำต่อ ไม่ใช่แค่เพียงอ่านจากสูตร แล้วจะมาทำได้เลย แต่ยังต้องใช้น้ำหนักมือ หรือการตวงส่วนผสมให้พอดีในปริมาณแต่ละวัน

เมื่อมีพระเอกแล้ว ก็ต้องมีนางเอก อย่าง “โตเกียวไส้หวาน” (7.-) ที่ทางร้านกวนไส้เอง ใช้นม เนย และน้ำตาล ใช้ไฟอ่อน ๆ เป็นเทคนิคพิเศษ คนมากินส่วนมากจะชอบ กินไส้หวาน เพราะไส้หวานร้านนี้ไม่เหมือนร้านอื่น กินแล้วจะหลงรักโดยไม่รู้ตัว

รังนกกับไส้หวานจะขายดีเป็นพิเศษ ถ้าเวลาเปิดเทอม จะทำเรียงกันไว้เลย ช่วงพีค ๆ ทำไว้ก็ยังขายไม่ทัน ใช้เเป้งเกือบ7 กิโลกันเลยทีเดียว พี่แนนบอกว่าขายดีจนไม่มีเวลาจะกินน้ำเลย จะหันหน้ามากินน้ำก็เสียเวลาทำโตเกียว ใจพี่ร้อนกว่าไฟอีก! กลัวทำไม่ทัน

เคยมีลูกค้าที่จบไปแล้ว พอได้กลับมา จะพาญาติมากิน ลูกค้าพยายามตามหา ถ้ากลับมาทุกครั้งจะต้องมากิน บางคนจบไปแล้วก็พาพ่อกับแม่มากิน บอกว่ากินตอนเรียนมาตลอด 4 ปี เลยนะ เป็นความประทับใจที่พี่แนนเล่าให้เราฟัง ระหว่างทำโตเกียว พี่แนนบอกกับเราอีกว่าการขายโตเกียวไม่ใช่เพียงแค่การขายเท่านั้น แต่เหมือนการได้พบปะผู้คนใหม่ๆ เป็นญาติพี่น้องกัน บางคนที่จบไปแล้วหรือไม่มากินนาน พี่แนนก็ยังคิดถึง ถ้าหากได้มาที่ขอนแก่น ก็สามารถมาพูดคุยกันให้พี่แนนหายคิดถึงได้เด้ออ :)