เคยเป็นไหม รับออร์เดอร์อยู่ดี ๆ หันมาอีกที “ของหมด” ขายดีขายเพลินจนลืมตรวจดูว่าวัตถุดิบมีเพียงพอสำหรับเมนูที่ลูกค้าต้องการสั่งหรือเปล่า บางทีต้องรีบวิ่งออกไปซื้อหามาทำให้ทัน แต่หลายครั้งก็ไม่ทัน จำใจต้องปฏิเสธลูกค้าไป เสียโอกาสในการขายไปอีก เพราะไม่รู้วิธีจัดการสต๊อกแบบมืออาชีพ
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าเรามีผู้ช่วยเก่ง ๆ ที่คอยตรวจสอบวัตถุดิบแพร้อมแจ้งเตือนเราว่า วัตถุดิบรายการไหนกำลังจะหมด ให้รีบไปซื้อมาตุน ขอแนะนำ Wongnai POS ระบบขายหน้าร้านที่ช่วยให้ร้านสามารถจัดการสต๊อกได้อย่างมืออาชีพ
ไม่ต้องเจอปัญหา หมูหมด แบบป้าร้านลาบยโสธร ในคลิปนี้
Wongnai POS ช่วยจัดการสต๊อกให้ร้านได้ยังไงบ้าง?
- ช่วยตัดสต๊อกวัตถุดิบในร้านอัตโนมัติ ร้านสามารถกำหนดสูตรเครื่องดื่มและอาหารและผูกเข้ากับเมนู ทุกครั้งที่มีออร์เดอร์ ระบบจะตัดวัตถุดิบออกให้เอง
- แจ้งเตือนวัตถุดิบใกล้หมดทันที ร้านสามารถตั้งปริมาณขั้นต่ำของวัตถุดิบแต่ละประเภทเพื่อให้เครื่องอ POS แจ้งเตือนว่า ถึงเวลาต้องซื้อของมาตุนเพิ่มได้เแล้ว
- ควบคุมและติดตามไม่ต้องสั่งของมาเกินจำเป็น Wongnai POS จะช่วยให้ร้านเห็นว่าวัตถุดิบใดที่ใช้มากใช้น้อย ช่วยให้ประมาณการซื้อของมาตุนได้พอดี ไม่กักตุนมากเกิน ซึ่งอาจจะเกิดภาวะต้นทุนจมจากวัตถุดิบที่ตุนแล้วไม่ได้ใช้
มีข้อดีมากกว่าที่คิดของการจัดการสต๊อกด้วย Wongnai POS
- ไม่เสียโอกาสในการขายจากวัตถุดิบขาดสต๊อก แจ้งเตือนก่อนของหมดเสมอ ซื้อวัตถุดิบหรือของมาตุนขายได้ทัน หมดปัญหาของหมด ไม่มีขาย
- ลดโอกาสเกิดต้นทุนจม ซื้อวัตถุดิบมาสต๊อกเกินความจำเป็น ร้านไม่จำเป็นต้องซื้อของมาตุนขายมากเกินจำเป็น เพราะเมื่อของใกล้หมด ระบบก็จะแจ้งเตือนให้เอง
วิธีจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพด้วย บน Wongnai POS ฉบับมือใหม่
ขั้นตอนในการจัดสต๊อกแบบมืออาชีพด้วย Wongnai POS ทำได้ไม่ยาก มีเพียง 4 ขั้นตอนหลัก ที่ใช้ไม่นาน ก็ใช้งานได้คล่องแล้ว
- เปิดใช้งานระบบสต๊อก หรือ “สินค้าคงคลัง”
- สร้างวัตถุดิบและกำหนดปริมาณที่ใช้ต่อครั้ง
- ผูกสูตรวัตถุดิบกับเมนู เพื่อให้ระบบตัดวัตถุดิบจากคลัง
- ผูกวัตถุดิบกับตัวเลือกเพิ่มเติม เช่น เพิ่มข้าว ใส่/เพิ่มท็อปปิ้ง เปลี่ยนประเภทวัตถุดิบ
วิธีเปิดใช้งานระบบสต๊อก หรือ “สินค้าคงคลัง”
1. เปิดใช้งาน: เปิดเครื่อง Wongnai POS และไปที่เมนู “สินค้าคงคลัง”
2. ใส่อีเมลและกำหนดเวลาแจ้งเตือนสต๊อก อีเมลที่ใช้จะเป็นอีเมลที่ระบบจะส่งแจ้งเตือนของหมดให้ เพียงตั้งเวลาให้ระบบแจ้งเตือนประจำวัน เช็กของในคลังได้ง่าย ๆ แค่เช็กอีเมล
สร้างวัตถุดิบ
1. เลือกเพิ่มวัตถุดิบ ขั้นแรกให้เลือกเพิ่มวัตถุดิบที่ใช้ประกอบเมนูหรือของที่อยู่ในสต๊อก เช่น ข้าว เนื้อไก่ เนื้อขาหมู หรือวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ร้านใช้
2. ใส่ข้อมูลวัตถุดิบและปริมาณที่ใช้ ใส่รายละเอียด ปริมาณที่มีทั้งหมดที่สต๊อกไว้ เช่น มีเนื้อหมู 1 กิโลกรัม พร้อมกับกำหนดปริมาณขั้นต่ำที่อบากให้ระบบแจ้งเตือน เช่น 40 กรัม
3. ร้านสามารถปรับเพิ่มหรือลดจำนวนของวัตถุดิบภายหลังได้ เมื่อเติมสต๊อกหรือเมื่อมีเหตุให้ต้องนำวัตถุดิบหรือสินค้าออก เช่น วัตถุดิบเสียจากการเก็บรักษาไม่ได้หรือหมดอายุ ซึ่งทุกครั้งที่วัตถุดิบลด ร้านสามารถใส่เหตุผลได้ด้วย เพื่อเวลาเช็กสต๊อกหรือทำบัญชีจะได้รู้ที่มาที่ไปและหาทางปรับปรุงต่อไป เพิ่มปริมาณหรือจำนวนวัตถุดิบมาซื้อของมากักตุนเพิ่มหรือลดเมื่อต้องนำวัตถุดิบออก ระบุปริมาณหรือจำนวนวัตถุดิบที่ลดลง พร้อมระบุเหตุผลที่ต้องลดจำนวนได้ เช่น เสีย หมดอายุ หรืออื่น ๆ
ผูกวัตถุดิบกับเมนู
ขั้นตอนนี้ เราจะผูกวัตถุดิบกับเมนูเพื่อให้ระบบรู้ว่า เมนูไหนที่มีออร์เดอร์เข้ามา ระบบจะต้องตัดวัตถุดิบตัวใดออกไปบ้างในปริมาณเท่าใด ขั้นตอนแบบละเอียดทำตามได้ ดังนี้
1. กดเลือก “จัดสูตรเมนู” และเลือก “หมวดหมู่เมนู” สำหรับหมวดเมนูสามารถแบ่งได้เป็นเมนูประจำของร้าน เมนูตามเทศกาล และของหวาน
2. เลือก “เมนู” ที่ต้องการผูกวัตถุดิบ เลือกเมนูที่ต้องการผูกสูตรกับวัตถุดิบ ทั้งนี้ ร้านจะต้องสร้างเมนูของร้านไว้ก่อนแล้ว โดยร้านสามารถเพิ่มและแก้ไขเมนูได้ผ่านแอปฯ Wongnai Merchant App
3. เลือก “วัตถุดิบ” ที่ทางร้านต้องใช้ จากนั้นกด “บันทึก” หลังจากเลือกเมนูแล้ว ระบบจะแสดงหน้าสำหรับเลือกวัตถุดิบที่จะใช้ประกอบเมนูที่เลือก ซึ่งวัตถุดิบทั้งหมดที่เลือกได้จะเป็นวัตถุดิบที่ร้านใส่รายละเอียดในขั้นตอน (2) สร้างวัตถุดิบแล้ว ให้ร้านเลือกวัตถุดิบและกำหนดปริมาณที่ใช้ เพื่อระบบจะตัดปริมาณวัตถุดิบออกให้อัตโนมัติหลังจากที่ร้านรับออร์เดอร์
ผูกวัตถุดิบกับตัวเลือกเพิ่มเติม
หลาย ๆ ร้านจะมีตัวเลือกเพิ่มเติมให้กับลูกค้า เช่น เพิ่มข้าว เพิ่มเนื้อสัตว์ เพิ่มท็อปปิ้ง หรือเปลี่ยนวัตถุดิบหลักเป็นอย่างอื่น ก็ไม่ต้องกังวล เพราะ Wongnai POS สามารถผูกวัตถุดิบกับตัวเลือกต่าง ๆ ได้ แม้ลูกค้าจะเลือกตัวอย่างที่ไม่ตรงกับสูตรหลัก ระบบก็ยังตัดปริมาณได้แม่นยำ
1. ร้านสามารถตัดวัตถุดิบจากตัวเลือกเมนูได้ โดยการเลือก “จัดสูตรตัวเลือก” และเลือก “กลุ่มตัวเลือกที่ต้องการจัดสูตร” สำหรับตัวเลือก เช่น เพิ่มท็อปปิ้ง ขนาด ระดับความหวาน ฯลฯ หรือตัวเลือกเพิ่มเติมที่ร้านสามารถกำหนดเองได้ เช่น ปริมาณข้าว
2. เลือก “ตัวเลือก” ที่ต้องการผูกกับวัตถุดิบ เช่น เมนูผัดกะเพรา ร้านมีตัวเลือก คือ “เนื้อไก่” และ “ทะเล” สามารถเลือกตัวเลือกใหม่ที่ต่างจากสูตรหลักหรือตัวเลือกเดิมแต่มีการเพิ่มปริมาณได้
3. เลือก “ตัวเลือก” แทนวัตถุดิบหลักที่ใช้วัตถุดิบตามสูตรหลัก ตัวเลือกอาจจะเป็นวัตถุดิบเดียวกัน เพียงแต่ว่าเราจะกำหนดปริมาณใหม่ ในกรณีลูกค้าเพิ่มเนื้อสัตว์ (ระบบจะให้ใส่จำนวนหรือปริมาณวัตถุดิบที่จะใช้ภายหลัง) เมื่อเลือกเสร็จ กด “บันทึก”
4. เลือกหัวข้อ “เมนูและโปรโมชัน” จากนั้นให้เลือกเมนูที่ทางร้านทำการผูกตัวเลือกกับวัตถุดิบเอาไว้ เพื่อแก้ไขสูตรให้มีตัวเลือกเพิ่มเติม
5. เลื่อนลงมาและเลือกหัวข้อ “แก้ไขการผูกสูตร” และ “ใส่ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้กับตัวเลือก” เมื่อตั้งค่าเรียบร้อยให้กด “ตกลง”
- 5.1 กดแก้ไขการผูกสูตร
- 5.2 กำหนดปริมาณวัตถุดิบที่จะใช้ให้กับตัวเลือก
- 5.3 เมื่อใส่รายละเอียดเรียบร้อยแล้ว กด “บันทึกเมนู”
4 ขั้นตอนเหล่านี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการทำสักหน่อย สำหรับร้านที่มีเมนูจำนวนมากหรือบางเมนูมีวัตถุดิบที่ต้องใช้หลายอย่าง แต่การลงข้อมูลวัตถุดิบและผูกกับสูตรใน Wongnai POS จะเป็นประโยชน์ในระยะยาว ช่วยจัดการสต๊อกอย่างมืออาชีพ รู้ว่าวัตถุดิบใดใกล้หมด รู้ปริมาณวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไป เพื่อให้ประมาณการสั่งวัตถุดิบมากักตุนได้พอดี ที่สำคัญ ทำเพียงครั้งเดียวก็จัดการสต๊อกได้ยาว ๆ จะเพิ่มเติมหรือแก้ไขก็ง่าย
สรุปขั้นตอนจัดการสินค้าคงคลัง จัดสต๊อกกันอีกที ดังนี้
- เปิดใช้งานระบบสินค้าคงคลัง
- สร้างวัตถุดิบ โดยการใส่รายชื่อวัตถุดิบทั้งหมด เพราะปริมารที่กักตุนไว้
- ผู้วัตถุดิบกับเมนู เมนูแต่ละเมนูใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง ใช้มากแค่ไหน ระบุให้ครบ ระบบตัดวัตถุดิบออกอัตโนมัติทุกครั้งที่รับออร์เดอร์
- ผู้วัตถุดิบกับตัวเลือกเพิ่มเติม กรณีที่ลูกค้าสามารถเลือกตัวเลือกอื่น ๆ สำหรับเมนูนั้น ๆ ได้ เช่น ผัดกะเพราะ หมู/ไก่ หรือทะเล เพิ่มข้าว สั่งพิเศษ ฯลฯ
บริหารจัดการสต๊อก ลดต้นทุนวัตถุดิบด้วย Wongnai POS ร้านค้าและร้านอาหารจัดการสต๊อกได้ง่าย ๆ ด้วย Wongnai POS ทุกครั้งที่มีการซื้อหรือรับออร์เดอร์ระบบช่วยตัดของและวัตถุดิบในสต๊อกให้อัตโนมัติ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อสินค้าหรือวัตถุดิบใกล้หมด ไม่ต้องกักตุนเผื่อเหลือเผื่อขาด ให้เกิดต้นทุนจม จัดการสต๊อกได้ง่ายและเป็นมืออาชีพ ไม่ต้องห่วงปัญหาของหมด เพราะมี Wongnai POS สำหรับเจ้าของร้านคนไหนที่สนใจ Wongnai POS และอยากติดต่อพูดคุยกับพนักงาน >>คลิกที่นี่เลย<<