Jukkumi Express (จุกกุมิ) -

วันนี้พาไปร้าน Jukkumi กันครับ ชื่อร้านน่ารักใช่มั้ยละครับ ทางร้านเค้าบอกว่าจุกกุมิก็คือ ปลาหมึก ตามภาษาเกาหลีนั่นเองครับ สำหรับบรรยากาศร้านก็ถือว่าตกแต่งตามสไตล์เกาหลี ตั้งแต่ประตูทางเข้า ไปจนถึงบรรยากาศในร้านที่เน้นสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูเข้ากันกับผนังสีขาว ตัดด้วยกระเบื้องทางเดินตรงกลางที่เป็นสีดำ ถือว่าบรรยากาศดีไม่เบาเลยครับ ส่วนเมนูอาหารก็จะเป็นสไตล์เกาหลีแท้ๆ ที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงนั่นแล้ว เพราะเค้ายกเมนูอาหารเกาหลี ไม่ใช่แค่เมนูอาหารนะ เพราะเชฟของที่นี่ก็เป็นชาวเกาหลีแท้ๆ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าต้องอิ่มอร่อย ถูกใจคนรักอาหารเกาหลีแน่นอน ก่อนอื่นขอเริ่มด้วยเมนูอาหารสำหรับรสา ซึ่งถือว่าน่าจะเป็นเมนูโปรดของเด็กนั่นก็คือ ข้าวผัด ที่หน้าตาแตกต่างจากข้าวผัดบ้านเราสุดๆ ตรงที่รายรอบด้วยไข่เจียวสีเหลืองทอง โรยหน้าบนข้าวผัดที่เต็มไปด้วยแฮมชิ้นเล็กๆ ด้วยไข่ปลาน่าทาน เมนูนี้รสาชอบมาก เพราะทานหลายคำเลยทีเดียว มาเริ่มเมนูหลักๆ กันบ้างดีกว่า มาที่ Jukkumi ต้องไม่พลาดที่จะสั่งเมนูกะทะร้อน ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านก็จะชื่อเดียวกับชื่อร้านซึ่งจะเป็นปลาหมึกผัดซอสเผ็ด แต่เราขอเลือกเป็น จุ-ซัมยับ (500g 580.-) เป็นเมนูกะทะร้อนที่มีปลาหมึกกรอบ เบคอน ต๊อกโบกิ เห็ดและผัก ที่นำไปผัดด้วยซอสรสเผ็ดปนหวานนิดๆ นอกจากนี้ไม่ต้องผัดเองนะครับ เพราะพนักงานจะมาผัดให้เราที่โต๊ะรอแป๊บเดียวก็อร่อยพร้อมหม่ำเต็มที่ ขอบอกว่าเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดนะครับ ส่วนตัวแล้วชอบมา ยิ่งได้ทานกับเครื่องเคียงตามสไตล์เกาหลี หรือทานกับผักสด อร่อยสุดๆ สำหรับเมนูนี้ตามแบบฉบับจะตบท้ายด้วยข้าวผัดไข่ปลากรุบกรอบ ซึ่งหากทานใกล้หมดก็เรียกพนักงานมาผัดให้อีกเช่นเคย ผัดเสร็จจะได้หอมกลิ่นกะทะไหม้เล็กน้อย ถือว่าอร่อยตามแบบฉบับเกาหลีแท้ๆ ปกติข้าวผัดไข่ปลา จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 100 บาท แต่ตอนนี้ทางร้านมีโปรแค่แชร์ภาพอาหารหรือร้านบนโซเชียลเน็ตเวิร์คก็รับข้าวผัดไข่ปลาไปฟรีๆ เลยจ้า โปรฯ ดีๆ แบบนี้จัดไปสิครับ สำหรับรายการอาหารอื่นๆ ก็มีให้เลือกอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น ซุปเกี๊ยวต็อกโบกิ (220.-) ซุปเกี๊ยวร้อนๆ ทานคล่องคอสุดๆ เมนูนี้รสาทานได้สบายๆ หรือจะเป็น แพนเค้กกิมจิ (120.-) ลักษณะคล้ายๆ พิซซ่ารสชาติจะเผ็ดเล็กน้อย ถือว่าทานเพลินเหมือนกัน ต่อด้วย จุกกุมิทอด (140.-) หรือหนวดปลาหมึกทอด เป็นอีกเมนูที่ชอบมาก เพราะทานได้เพลินๆ จริงๆ อร่อยโดยไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มเลยจ้า เกี๊ยวซ่า (120.-) ที่นี่ก็ถือว่าน่าสนใจไม่เบา อร่อยเพลินๆ รสาชอบเช่นกันครับ ปิดท้ายด้วย ข้าวโพดอบชีส (120.-) คนชอบชีสเยิ้มๆ รับรองต้องหลงรักเมนูนี้ เพราะข้าวโพดอบชีสรสชาติถือว่าอร่อย ยิ่งทานตอนร้อนๆ ชีสยืดๆ แบบนี้ฟินเลยครับ ส่วนเด็กๆ ที่ไปด้วยขอสั่ง วนิลาปั่น มาเติมความสดชื่นดูเด็กๆ ก็ชอบดีนะครับ แก้วนี้ไม่ได้ลองเลยบอกไม่ได้ว่ารสชาติเป็นยังไง แต่รสาก็ชอบอีกเช่นกัน อิอิ สำหรับร้าน Jukkumi แม้จะเป็นร้านเปิดใหม่ แต่วันที่ไปเป็นวันอาทิตย์ลูกค้าเข้าร้านตลอด มีบางช่วงต้องรอโต๊ะ ถือว่าได้รับการตอบรับดีไม่เบา ซึ่งส่วนตัวผมก็ชอบอาหารของที่นี่ เพราะถือว่าเป็นอาหารเกาหลีที่รสชาติดี แถมราคาก็ไม่แรงด้วย เอาเป็นว่าใครที่จะไปทานวันเสาร์อาทิตย์ แนะนำให้โทรจองโต๊ะล่วงหน้าก็ดีนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอโต๊ะ