beanila cafe -

ด้วยความที่หน้าร้านมีโมเดลไอศกรีมตั้งอยู่ ทำให้หลายคนเข้าใจว่า Beanila คือร้านไอศกรีม แต่แท้จริงแล้วที่นี่ไปไกลกว่านั้นเพราะมีผลิตภัณฑ์ทุกอย่างจากถั่วเหลือง โดยเฉพาะน้ำเต้าหู้ที่เป็นสารตั้งต้นของร้านนี้ จริงจังแค่ไหนให้ดูเครื่องทำน้ำเต้าหู้ของร้านว่าอลังการขนาดไหน . เราว่าเราชอบร้านนี้ไปแล้วในฐานะคาเฟ่น้ำเต้าหู้ที่ต่อยอดกลายเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง น้ำเต้าหู้ ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟเต้าหู้ เต้าฮวย พุดดิง หรือแม้แต่เต้าหู้อ่อนที่ซื้อกลับไปทำอาหารได้ โดยน้ำเต้าหู้ที่เป็นสารตั้งต้นผลิตมาจากเจ้าเครื่องทำน้ำเต้าหู้ของร้านในห้องข้าง ๆ ที่หลายคนอาจจคิดว่าเป็นเครื่องคั่วกาแฟ หรือเครื่องทำซอฟต์เสิร์ฟ แน่นอนว่ามันเป็นสูตรน้ำเต้าหู้ของครอบครัว . ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Soft Opening เลยเปิดให้บริการเฉพาะชั้นล่างก่อน แน่นอนว่าด้วยความเป็นคาเฟ่น้ำเต้าหู้ ทำให้เมนูกาแฟทั้งหมดใช้เบสของน้ำต้าหู้ในการทำ เรียกว่าไม่ต้องแอดออนของน้ำเต้าหู้แทนนมวัวให้วุ่นวาย . มาครั้งแรกเราอยากแนะนำให้ลองน้ำเต้าหู้แบบดั้งเดิมก่อน แต่เราเผลอแอดวานซ์เป็น Matcha Latte and Black Sesame เนื่องจากสื่อสารผิดและกลายเป็นว่าเมนูนี้ถูกสั่งเป็นครั้งแรก แต่มันดีมาก ด้วยรสของน้ำเต้าหู้ที่ดีอยู่แล้วผสมกับมัทฉะที่ออกขมนิด ๆ แต่ได้รสหวานธรรมชาติจากน้ำเต้าหู้ แถมยังมีงาดำเข้ามาเสริม กินแล้วดีเลย . ส่วน Soft serve Soy ปกติทางร้านจะทำไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟวันละ 2 รส มีน้ำเต้าหู้เป็นตัวหลัก และมีโกโก้ มัทฉะ และโฮจิฉะ หมุนเวียนกัน วันนี้มีมัทฉะ Soft serve Soy Matcha ทางร้านแนะนำให้กินกับโคนที่ร้านทำเอง เราว่าความนวลของน้ำเต้าหู้กับมัทฉะไปกันได้ดี ส่วนเมนูพิเศษของเดือนนี้เป็น Soft serve Soy Banoffee เลือกรสได้ เราเลือกน้ำเต้าหู้ เพราะนึกรสชาติของมัทฉะไม่ออกในเมนูนี้ มีกล้วย ครัมเบิล อัลมอนด์ และซอสคาราเมล เราว่าซอฟต์เสิร์ฟรสน้ำเต้าหู้คือดีมาก ที่หลายคนบอกว่าดีแบบตะโกน แถมได้ความมันหอมของอัลมอนด์คั่ว ยิ่งดี . เราไม่แน่ใจว่าจอดรถได้ที่ไหนบ้าง แต่แนะนำว่าสามารถเดินทางมาด้วย BTS ลงสถานีพหลโยธิน 59 ก็คือถึงเลย ใกล้กับร้าน Vibrant