Banpo Korean BBQ เอกมัย

เริ่มต้นว่าจะตามหาจาจังมยอน… ไหงมาโดนร้านปิ้งย่างเกาหลีตกแทนซะล่ะะะ😆 ปิ้งย่างเกาหลีร้านใหม่ย่านเอกมัยที่เพิ่ง Soft Opening ไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง เจ้าของร้านนี้คือเจ้าของเดียวกับร้าน Bangkok Banjom ที่ป็อปท็อปฮิตแบบขึ้นชื่อเรื่องจาจังมยอน เลยรีบมาลองร้าน soon to be famous นี้ก๊อนนน🥳 Gimmick ของร้านนี้คือให้เรานั่งกินฟินกับความอร่อยของเนื้อในความหอมของฟางข้าวแบบสวยๆไม่ร้อนหน้า😆 เพราะเค้าจะย่างไฟจากเตากลางมาให้สุกระดับนึงก่อน แล้วย่างต่อด้วยฟางข้าวให้เนื้อมี aroma รมควันหอมๆ และมาย่างต่อให้ที่โต๊ะจนสุกในแบบที่ต้องการ เสิร์ฟมาให้เสริมรสชาติกันได้ถึง 8 สไตล์ด้วยเกลือ ไชเท้าดอง ปลาหมึกดอง โฮลเกรนมัสตาร์ด วาซาบิ ซานจัง โคชูจัง และกิมจิผัด กินกันเพลินๆไปกับเครื่องเคียงที่มีทั้งพริกสามสีดอง มักกะโรนี ไข่นกกระทา กระเทียมสด ข้าวโพดผัดเนย กิมจิแดง กิมจิขาว และผักยำ ขอเริ่มต้นด้วยเมนูพระเอกของวันนี้~ "Premium Chuck Flap A5"(1,300THB) กับเนื้อวากิวนำเข้าจากญี่ปุ่น เนื้อส่วนนี้เป็นหนึ่งในส่วนที่จะมาย่างแบบครั้งเดียวให้ที่โต๊ะเลย แล้วแต่ละชิ้นคือนุ่มมมละลายยย😍 เพราะเค้าย่างมาให้แบบพอดีมากๆ เลยฟินกับรสเนื้อเข้มข้น สัมผัสนุ่มที่เสริมฟิลละลายด้วยมันที่แทรกกระจายอยู่ทั่ว อันนี้ปิงกินแบบเปล่าๆเลย ไม่ขอจิ้มอะไรให้มากลบรสชาติที่ดีงามนี้ ต่อด้วย "Australian Wagyu Ribeye"(1,300THB) ที่เค้าคัด Marbling Score 8-9 มา Dry Aged เนื้อส่วนนี้จะย่างที่เตากลางมาก่อน รมควันด้วยฟางข้าว แล้วมาย่างต่อที่โต๊ะให้ได้ความสุกระดับที่เราต้องการ ด้วยสัดส่วนของมันที่น้อยกว่า ชิ้นนี้จะเป็นสัมผัสที่แน่นแต่นุ่มเพราะมีมันแทรกกระจายอยู่ เคี้ยวสบาย ที่ชอบคือความลงตัวในความนุ่มในรสชาติเนื้อที่ชัดเจน แต่เค้าไม่ได้ดีแค่เนื้อนะ หมูก็โดนนน "Pork Belly"(340THB) ของเค้าคือสามชั้นที่ถูกต้อง🤤 ชั้นมันชั้นเนื้อสลับกันอย่างลงตัว ยิ่งผ่านการย่างด้วยวิธีเฉพาะของทางร้านด้วยแล้ว กัดไปคือฟินมากกก สัมผัสแรกคือกรอบเบาๆที่ขอบนอก ตามด้วยฟิลฉ่ำๆของชั้นมันสลับกับฟิลกรึบๆแน่นๆของชั้นเนื้อ ไม่รู้คนอื่นจะกินไงล่ะ แต่สำหรับปิง ชิ้นเนื้อเพียวๆห่อด้วยผักสด นี่คือลงตัวสุด ของกินเล่นปิงจิ้มเป็น "Potato Pancake with Truffle Cream Sauce"(280THB) กับมันฝรั่งหั่นเส้นที่ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน โรยท็อปด้วยชีส Parmesan และผงปาปริก้า กินเปล่าๆก็กรอบๆเพลินๆ หรือจิ้มซอสทรัฟเฟิลก็เสริมด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆของทรัฟเฟิลที่มิกซ์มากับโฮลเกรนมัสตาร์ด อีกเมนูที่ลองแล้วคือชอบเลยกับ "Korean Cold Buckwheat Noodle"(290THB) ดูเป็นเมนูที่ไม่ได้มีไรมาก แต่หันไปกินได้ตลอด เส้นหนึบๆนุ่มๆในเบสซุปสีใสที่เสิร์ฟมาแบบเย็น ตัวซุปจะเปรี้ยวนิดๆคือตัดเลี่ยนได้ดีเลย พร้อมท็อปปิ้งที่จัดมาด้วยไข่ไก่ แตงกวาและกิมจิขาว จบมื้อนี้ด้วยไอศครีมของ Daylight Saving ที่อร่อยทั้งสองรสที่เลือกมาเลย "Pistachio Awe-mond" ก็เพลินกับฟิลกรุบๆของอัลมอนด์ที่นัวมาในเนื้อไอศครีมรสพิสตาชิโอ ส่วน "Choco Fudgetastic" ก็เข้มข้นในรสชาติของช็อคโกแลตเบลเยียม ที่เสริมรสสัมผัสมาด้วยบราวนี่เนื้อหนึบ