ครัวลุงหนวด

ร้านอาหารแถวๆสะพานพระนั่งเกล้า – รัตนาธิเบศร์ มีให้เลือกหลายแบบหลายร้านเชียวครับ บริเวณสะพานพระนั่งเกล้าก็มีร้านอาหารดังๆอยู่เกือบๆ 10 ร้านได้มั๊งครับ เมื่ออาทิตย์ก่อนไม่มีโปรแกรมจะไปไหนก็เลยไปหาร้านอาหารใกล้ๆบ้านทานกลางวันกัน ก็เลยเลือกสุ่มร้านนี้ครับ ร้านครัวลุงหนวดริมน้ำ สะพานพระนั่งเกล้า นนทบุรี วิธีการมาร้านครัวลุงหนวดริมน้ำก็ไม่ยากเลยครับ จากถนนรัตนาธิเบศร์จากทางแยกแครายมุ่งหน้าบางบัวทองนะครับ พอเลยห้างเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ทางขวามือก็ให้ออกมาวิ่งคู่ขนานลอดใต้สะพานลอยเลี่ยงเมือง แล้วขับตรงไปเรื่อยๆผ่านร้านนิตยาไก่ย่างสาขารัตนาธิเบศร์ทางซ้ายมิอ ผ่านแยกพระนั่งเกล้าจนข้ามสะพานพระนั่งเกล้าสะพานเดิม (สะพานที่เล็กกว่า) พอขาลงสะพานให้ชิดซ้ายเอาไว้ จะมีช่องทางให้ยูเทิร์นให้ไปวิ่งเลียบข้างสะพานครับ เลี้ยวขวาเข้าซอยขวามือที่เป็นซอยร้านแดรี่ควีน ผ่านร้านแดรีควีนทางซ้ายมือ ร้านครัวแม่น้องหนุนทางซ้ายมือ วิ่งไปตามถนนซึ่งเป็นโค้งหักศอก 2 ครั้ง จะเห็นร้านครัวลุงหนวดอยู่ทางซ้ายมือใกล้ๆกลับโค้งหักศอกที่สองครับ ตัวร้านอยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าร้านมีที่จอดรถกว้างขวางเชียวครับ อย่างที่บอกไปร้านลุงหนวดริมน้ำตัวร้านจริงๆจะอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ทางร้านเค้าเอาศาลาไม้ไผ่หลังคามุงจากเป็นหลังๆมาตั้งไว้แทนโต๊ะครับไอเดียดีครับแต่พื้นศาลากับหน้าโต๊ะเป็นไม้ไผ่ลำเล็กเอามาต่อๆกันพื้นศาลาก็เลยไม่เรียบเวลาเดินก็ระวังๆหน่อยนะครับ อีกอย่างศาลามีทางเข้า – ออกทางเดียวครับถ้าคนที่นั่งข้างในต้องการจะลุกออกไปทำธุระละก็ .... จะต้องลุกออกมากันทั้งครึ่งโต๊ะเลยครับ แต่ศ่าลาที่อยู่ตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยาบรรยากาศดีมากๆเชียวครับ แต่มักจะมีคนจองอยู่ตลอดเวลาเลยครับ เมนูที่ร้านครังลุงหนวดริมน้ำก็เน้นพวกอาหารรสจัด กับแกล้ม อาหารป่าครับ เมนูแรกที่สั่งมาเหมือนจะเป็นเมนูทานเล่นแต่อิ่มจริงๆ ปีกไก่ยัดไส้ ราคา 100 บาท เมนูนี้เป็นปีกไก่เลาะกระดูก ยัดไส้ที่ทำจากเนื้อไก่สับหยาบๆปรุงรสปรุงปกลิ่นด้วยรากผักชี กระเทียม พริกไทย จนเต็ม (น่าจะ) เอาไปนึ่งให้สุกซะทีนึงก่อนแล้วจึงเอาไปทอดเพื่อให้สีสวยน่าทานครับ พูดถึงรสชาติของเมนูนี้ อาจจะเป็นเพราะร้านครัวลุงหนวดริมน้ำเค้าเน้นอาหารรสจัดเพื่อเป็นกับแกล้มนะครับ เมนูนี้กเลย “ถึงเครื่อง” มากๆ รสรากผักชี กระเทียม พริกไทย ล้นปากมากๆครับ ทานเล่นเจ้าของบล็อกว่าเผ็ดเกินไปครับ แต่ถ้าทานกับข้าวสวยรสชาติจะพอดีๆมากๆ แต่ตินิดนึงครับ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องปรุงที่ใช้หมักหรือเปล่า หรือว่าใช้น้ำมันเก่าทอดปีกไก่ดูดำไม่น่ากินเลยครับ เมนูที่สอง ปลาช่อนทอดสมุนไพร ราคา 390 บาท เมนูนี้ถือว่าคุ้มสุดๆครับ เพราะเป็นปลาช่อนตัวใหญ่ล้นจานทอดจนกรอบเกรียวไปทั้งตัว แต่เจ้าของบล็อกว่าเมนูน้ำราดมันเผ็ดมากเกินไปครับ น้ำราดรสเผ็ดมากกกกกกกก แล้วมีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ คลุกกับสมุนไพรมีตะไคร้ทอดกรอบ หอมแดง ขิงหั่นลูกเต๋า ถั่วลิสงทอดกรอบ กุ้งแห้ง (เครื่องคล้ายๆเมี่ยงคำนะ .... เจ้าของบล็อก) เมนูนี้เครื่องคล้ายๆเมนูเมี่ยงปลาช่อน หรือเมนูปลาช่อนโบราณ แต่ต่างกันที่น้ำราดครับ น้ำราดที่ร้านครัวลุงหนวดริมน้ำนี่จะออกเผ็ดจัดทีเดียวครับ เผ็ดจนหูดับ เผ็ดจนต้องเขี่ยกินแต่เนื้อปลาช่อนทอด เครื่องสมุนไพรนี่กินไม่ได้ทีเดียวครับ เมนูนี้สำหรับเจ้าของบล็อกแล้วไม่ผ่านอย่างแรงครับ เผ็ดเกิ๊นนนนนนนน ... เมนูที่สี่ ต้นอ่อนทานตะวันผัดไฟแดง ราคา 90 บาท ร้านนี้ผัดผักได้หน้าตาไม่น่ากินอย่างแรงครับ ดูมันดำๆยังไงก็ไม่รู้ เหมือนกับใช้น้ำมันเก่า หรือว่ามันดำเพราะกระทะเองก็ไม่รู้นะครับ เคยสั่งต้นอ่อนทานตะวันผัดแบบนี้ที่ร้านอื่นๆก็ไม่ดำอย่างนี้นะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องหน้าตาไม่ผ่านครับ มาถีงเรื่องรสชาติ ได้บอกไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าร้านนี้เน้นอาหารรสจัดสำหรับคอเหล้า – คอเบียร์ ต้นอ่อนทานตะวันผัดไฟแดงทางร้านก็เลยตบพริกขี้หนูแดงเม็ดใหญ่ใส่มาให้ 2-3 เม็ดครับ มันไม่ถึงกับเผ็ดมากจนทานไม่ได้นะครับ แต่ถ้าพูดถึงจานผักเพื่อแก้เผ็ดแล้วเมนูนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยอ่ะครับ แถมยังเป็นการเพิ่มดีกรีความเผ็ดให้กับอาหารมื้อนี้อีกทางนึงด้วยครับ เมนูสุดท้าย ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ราคา 120 บาท ถ้าพูดถึงดีกรีความเผ็ดของเมนูนี้เจ้าของบล็อกว่าผ่านอย่างลอยลำเลยครับ คงเพราะร้านครัวลุงหนวดริมน้ำขายอาหารรสจัดก็เลยทำเมนูต้มแซ่บกระดูกอ่อนได้เปรี้ยว เผ็ด แซ่บถึงใจมากๆ ทำให้ต้องเลื่อนเมนูนี้มาใกล้ๆ จะได้ซดน้ำได้ถนัดๆครับ ตัวกระดูกอ่อนของร้านนี้ก็เด็ดครับ เพราะเป็นกระดูกอ่อนมากๆ แบบที่เค้าเรียกกันว่ากระดูกแก้วทำให้กัดกร้วมๆได้โดยไม่สะดุดเลย ส่วนที่เป็นเนื้อติดกระดูกก็เปื่อยมากครับ เมนูเรียกได้ว่าไม่มีที่ติเลยทีเดียว ร้านครัวลุงหนวดริมน้ำ สะพานพระนั่งเกล้า เป็นร้านอาหารริมน้ำที่มีเมนูรสชาติแซ่บ จัดจ้านหลายเมนูมากๆ ถ้าเป็นชาวเหล้า – เบียร์คงจะถูกใจร้านนี้ ทั้งบรรยากาศและรสชาติของอาหารครับ สำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดคงบอกว่าร้านนี้รสจัดเกินไปครับ Chubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน