เกาะเกร็ด (Kret Island)

วันนี้พามาชิมขนมหวานกันถึงถิ่นขนมหวาน นั่นคือที่ เกาะเกร็ด หลายคนที่เคยมาเกาะเกร็ดจะทราบดีว่าที่นี่เป็นสวรรค์ของคนรักขนมหวานเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งเกาะเต็มไปด้วยร้านขนมหวานหลากหลายเจ้า กระจายตัวตั้งอยู่ทั่วเกาะ อีกทั้งยังมีของดีอีกอย่างหนึ่งคือหน่อกะลา ตอนแรกเราคิดว่าเป็นหน่อของมะพร้าวที่งอกออกมาจากกะลา แต่ที่ไหนได้มันเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งต่างหาก เขานิยมเอามาทำทอดมัน ผัดฉ่า ต้มยำ รสชาติก็อร่อยแบบแปลกๆดี 55 แต่หน่อกะลาไม่ใช่ประเด็นของเราในวันนี้ เพราะเราจะขอนำเสนอขนมหวาน ที่เป็นขนมมงคลของไทย หากินได้ไม่ง่ายนัก หน้าตาของขนมชิ้นเล็กๆที่ทำออกมาอย่างประณีต ทำเอาเราแทบไม่กล้ากินเพราะเสียดายของ แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ารสชาติจะอร่อยเหมือนหน้าตารึเปล่า เลยขอลองชิม และก็ไม่ผิดหวัง ชิมคำเดียวฟินไปสามวันเจ็ดวัน เรียกได้ว่า สวยทั้งรูปยิ่งจูบยิ่งหอมเลยหล่ะ อิอิ เริ่มด้วยชิ้นแรก จ่ามงกุฎ อันนี้หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ หน้าตาของขนมก็น่ารักน่าชัง เป็นลูกกลมๆสีเหลืองทอง ด้านบนเป็นสีน้ำตาล หน้าตาเหมือนมงกุฎ สวยซะจนเรามองอยู่นานกว่าจะได้กิน ชิ้นเล็กๆพอดีคำ รสชาติไม่หวานมากจนเลี่ยน กินแล้วรู้สึกตัวลอยขึ้น 1 เลเวล ชิ้นต่อมาเป็นขนมชั้นที่หน้าตาไม่ได้เป็นแบบที่เราเคยกินกัน ขนมชั้นที่นี่เขามีเป็นรูปดอกไม้หลายชนิด เราเลือกเป็นรูปดอกกุหลาบ รสชาติก็เหมือนขนมชั้นทั่วไปนั่นแหละ แต่เพราะหน้าตาที่สะสวย เลยทำให้อร่อยขึ้นกว่าเดิมเป็น 100 เท่า ต่อมาเป็นกระทงทอง อันนี้หน้าตาน่ารักมาก เหมือนรังนกที่มีไข่อยู่ข้างใน เห็นแล้วก็ชื่นชมในความพิถีพิถันของคนทำ ส่วนรสชาติก็ออกแนวทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หอม หวาน มัน ต่อมาเป็นกระเช้าสีดา นี่ก็ยิ่งน่ารัก เพราะเค้าทำกระเช้าออกมาได้เหมือนจริงมาก เพียงแต่ย่อส่วนให้เหลือชิ้นพอดีคำเท่านั้นเอง รายละเอียดอย่างอื่นครบครัน ด้านในเป็นคล้ายๆฝอยทอง ด้านนอกเป็นแป้ง ที่อบควันเทียนออกมาได้หอมมากๆ ต่อกันที่ สำปันนี อันนี้หน้าตาอาจไม่ได้โดดเด่นเท่าชิ้นอื่น เพราะหน้าตาคล้ายๆคุกกี้ แต่รสชาติต้องบอกเลยว่ากินขาด เพราะเค้าอบควันเทียนออกมาได้หอมมาก หอมทุกอณูตั้งแต่ด้านนอกจนถึงด้านใน สัมผัสนุ่ม ละมุนลิ้น ปิดท้ายด้วยขนมทองเอก อันนี้โดดเด่นกว่าใครเพราะด้านบนปิดด้วยทองคำเปลว แม่ค้าบอกว่าอันนี้เป็นทองคำแท้ กินได้เลยไม่ต้องแกะออก เราเลยจัดมาลอง รสชาติก็คล้ายๆกับจ่ามงกุฎ