เรือนไม้ ชายน้ำ

รีวิวของผมช่วงนี้จะพามาเที่ยวและรู้จักร้านอาหารต่างๆในจังหวัดชุมพรกันนะครับ ตามติดควันหลงช่วงเทศกาลหยุดยาววันแม่ที่ผ่านมาครับ ก่อนหน้านี้ได้พาไปรู้จักศูนย์อาหารขนาดใหญ่ประตูสู่ภาคใต้กันมาแล้วนั่นคือ “คุณสาหร่าย” กับสถานที่ท่องเที่ยวที่อาจจะเป็น Unseen สำหรับหลายๆคนนั่นคือ “น้ำตกโพธิ์สาลี” คราวนี้ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศ หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองหลวง พามาเที่ยวสัมผัสวิถีแห่งธรรมชาติ และก็ยังคงไม่พ้นเรื่องกินๆตามคอนเซปท์ของวงในเช่นเคยครับ กินอาหารบรรยากาศริมลำธารสายน้ำ ชื่อร้านอาหารว่า “เรือนไม้ชายน้ำ” เรือนไม้ชายน้ำ บริเวณพื้นที่ของเค้าประกอบด้วยร้านอาหารและที่พักสไตล์รีสอร์ท ตั้งอยู่ริมลำธารน้ำ (ผมเข้าใจว่าไหลมาจากตรงน้ำตกโพธิ์สาลีครับ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 4 กิโลเมตร) บริเวณโดยรอบนั้นจึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบรีสอร์ทซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติทั่วๆไปครับ หรือบางทีก็รองรับกลุ่มคนที่มาเที่ยวที่น้ำตกโพธิ์สาลี (เหมือนกลุ่มครอบครัวผมนั่นเอง) นอกเหนือจากนั้นที่นี่มีบริการรับจัดเลี้ยงภายในสถานที่ 50-200 คน พร้อมบริการคาราโอเกะ [การเดินทาง:] ขับรถจากสี่แยกปฐมพรลงไปทางสุราษฎร์ประมาณ 23 กิโลเมตร เลยสี่แยกวิสัยไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นทางเข้าทางขวามือเขียนว่า น้ำตกโพธิ์สาลี และร้านอาหารเรือนไม้ชายน้ำ (ฝั่งตรงข้ามแขวงการทางสวี) ต้องไปยูเทิร์นกลับมา ขับเลี้ยวเข้ามาเล็กน้อยจะเห็นทางเข้าร้านอยู่ฝั่งขวามือ เลี้ยวตรงเข้ามาเลย ถนนจะเป็นแบบลูกรังเลนเดียว ต้องคอยระวังครับ เข้ามาประมาณ 100-200 เมตร ก็เจอทางแยกทางขวาเลี้ยวเข้ามาจะเจอบริเวณร้านริมน้ำเลยครับ [บรรยากาศบริเวณร้านอาหาร:] แบ่งออกเป็น 3 โซน คือ 1.บนเรือนไม้ใหญ่ (มีเวทีสำหรับขึ้นร้องเพลง) 2.โซนโต๊ะที่นั่งข้างล่างด้านนอกติดริมน้ำ 3.โซนศาลาไม้ริมน้ำ มีทั้งหมด 4 หลัง มีพัดลม (สำหรับกลุ่มที่ต้องการส่วนตัว กลุ่มผมก็นั่งที่ศาลานี้ครับ) [เมนูอาหาร:] เมนูอาหารก็จะเป็นประเภทอาหารไทยทั่วไป (ออกแนวอาหารป่า) มีพวกของทะเล และอาหารพื้นบ้าน หรือจะสั่งเป็นอาหารจานเดียวก็ได้ครับ ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับมานั่งชิลๆ กินดื่ม ซึมซับบรรยากาศดีๆริมน้ำ เมนูเด่นๆที่เป็น Signature และพนักงานเค้าแนะนำ มี 2 เมนูคือ กุ้งผัดซอสมะขาม (220 บาท) ปลากระพงเผาอบสมุนไพร (350 บาท) เมนูนึงที่ชื่อฟังดูน่าสนใจแปลกดีคือ “ปลาฉุดอารมณ์” ผมถามพนักงานเค้าว่ามันคืออะไร ก็ได้คำตอบว่ามันคือ ปลาอินทรีย์ดิบเอามาราดน้ำปลากินกับน้ำจิ้มแซบๆ เป็นเมนูกับแกล้มสำหรับคอดื่มครับ คล้ายๆกับกุ้งแช่น้ำปลานั่นเอง แต่เปลี่ยนเป็นปลาดิบแทนครับ เมนูอาหารที่สั่งกัน (ผู้ใหญ่ 5 เด็ก 1) • ปลากระพงเผาอบสมุนไพร [350 บาท] หน้าตาเมนูนี้อาจจะดูขี้เหร่ ไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ (เพราะเป็นปลาเผาห่อใน foil และเติมเต็มไปด้วยสมุนไพรต่างๆสีเขียวท่วมตัวปลา) แต่เห็นอย่างนี้อร่อยดีนะครับ เนื้อปลานุ่มและหอมสมุนไพรเข้าเนื้อดี และแห้งหน่อย ไม่มันเลี่ยนเกินไป แต่ผมว่าแปลกดีที่ทางร้านเค้าใช้ปลากระพงแทนที่จะเป็นปลาสำลีเหมือนทั่วๆไป คงเป็นสูตรของร้านเค้า แต่สรุปอร่อยดีครับ แนะนำสั่ง • กุ้งผัดซอสมะขาม [220 บาท] กุ้งที่ใช้เป็นแบบที่มีเปลือกหุ้มทั้งตัว ตัวขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว ปริมาณค่อนข้างเยอะสมราคา ส่วนซอสมะขามที่ปรุงและราดมาผมว่ารสชาติออกหวานนำ รสเปรี้ยวแซมๆ กลมกล่อมดี นอกเหนือจากกุ้งที่เป็นวัตถุดิบหลักจานนี้ก็มีเผือกทอดใส่เข้ามาด้วย ทำให้สีสันดูตัดกัน น่าทานดี โดยรวมผมว่าก็โอเค อร่อย ผ่าน แต่ผมขอเสริมนิดนึงว่าตัวซอสมะขามน่าจะราดเพิ่มมานิดนึง ดูแห้งไปหน่อย (ผมเข้าใจว่าทางร้านต้องการให้กุ้งกับเครื่องต่างๆในจานคงความกรอบไว้ได้นานๆ) • ข้าวผัดปูจานใหญ่ ผมว่าผัดมารสชาติกลางๆ เน้นออกจืด ให้มาปรุงเติมพริกน้ำปลา บีบมะนาว ตามความชอบเอง ส่วนเนื้อปูเป็นแบบฉีก ไม่ใช่เป็นก้อนๆ ผมว่าปริมาณปูไม่เยอะเท่าไหร่ • กุ้งชุบแป้งทอด มีอย่างอื่นนอกเหนือจากกุ้งที่ชุปแป้งทอดมาด้วยอย่างถั่วฝักยาว มีกุ้งอยู่ 3 ตัว (เท่าที่นับ) ส่วนตัวผมว่าเค้าทอดมานานเกินไปหน่อย เป็นสไตล์ที่ผมไม่ค่อยชอบ ส่วนตัวจะชอบเป็นแบบแป้งพองๆนุ่มๆ ไม่กรอบเกรียมเกินไป เมนูนี้ผมไม่ค่อยแนะนำครับ ค่าเสียหายทั้งหมดรวมเครื่องดื่ม มื้อนี้ทั้งหมดประมาณ 900 บาทครับ ถือว่าอิ่มแปล้ เพราะก่อนหน้านี้มีกินส้มตำที่ริมน้ำตกมากันบ้างแล้วครับ สรุปโดยรวมผมให้ 4 ดาวครับ อาหารถือว่าอร่อยใช้ได้ บางอย่างไม่ค่อยและไม่แนะนำ บริการดีครับ มีพนักงานเฝ้าคอยมาเติมน้ำ อาหารออกค่อนข้างไว (ตอนไปถือว่าลูกค้าเยอะเหมือนกันครับ ช่วงเย็น 18:00-19:00) จุดเด่นที่ประทับใจจริงๆคือเรื่องบรรยากาศโดยรวมรอบๆร้าน ได้มาสัมผัสธรรมชาติและริมลำน้ำ สูดอากาศบริสุทธิ์หนีความวุ่นวายในเมืองหลวงครับ