- หน้าแรก
/
- รีวิว Oops Sushi & Sake Bar Bangkok

รีวิว Oops Sushi & Sake Bar Bangkok
[SR] Oops! @ย่านเลียบทางด่วน ตรงข้าม CDC: ร้านซูชิบาร์สัญชาติอเมริกัน หลากหลายด้วยเมนูรังสรรค์สไตล์ฟิวชั่น
เริ่มต้นผมต้องออกตัวก่อนเลยว่ารีวิวนี้จะเป็นแบบ Sponsor Review สืบเนื่องจากผมได้รับคำเชิญจากทาง Wongnai ให้ไปลอง Tasting ที่ร้านนี้นะครับ ตามสัญลักษณ์ที่ผมใส่ไว้คำแรกตรงที่จั่วหัวครับ [SR] ดังนั้นรีวิวลักษณะนี้ผมจะเน้นเป็นให้ข้อมูลมากกว่าวิจารณ์ร้าน และจะให้แค่สูงสุด 3 ดาว เข้าใจตรงกันนะครับ :) “Oops Sushi & Sake Bar” เป็นชื่อเต็มๆของที่ร้าน แค่ฟังจากชื่อร้านนี้แล้วผมว่าหลายๆคนคงอยากร้องออกมาว่า “อุ๊บ” กันเลยนะครับ [ที่ตั้งร้านและการเดินทาง] • ย่านถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (หรือถนนประดิษฐ์มนูธรรม) • ร้านอยู่ในซอยประดิษฐ์มนูธรรม 15 (สังเกตง่ายๆคือซอยนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้าม CDC เลย ปากซอยมีร้านประดับยนต์) ซอยนี้อยู่ฝั่งเดียวกับโลตัสเลียบทางด่วนคือเลยมานิดเดียวให้ชิดซ้าย แต่ยังไม่ถึง Crystal Park ถ้าเจอแปลว่าเลยซอยนี้มาแล้วครับ • เลี้ยวเข้ามาในซอยประมาณ 50 เมตร จะเจอมอลล์เล็กๆมีระเบียงเปิดโล่ง 2 ชั้น ร้านนี้อยู่ชั้นล่างเด่นตรงข้างหน้า [ประวัติความเป็นมาและข้อมูลทั่วไป:] • ร้านนี้มีสาขาแรกที่ Gateway Boulevard, LA ประเทศอเมริกา โดยการรวมตัวกันของคนไทยที่นั่นผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นสไตล์ฟิวชั่นแบบอเมริกัน และได้เปิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา หลังจากนั้นได้มาเปิดสาขาที่ 2 ในเมืองไทยโดยคุณกอล์ฟซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านและเป็นเจ้าของร้านนี้ที่ไทย • ข้อความแสดงความเป็นตัวตนของร้าน (Identity Statement) จากเว็บไซด์ร้านที่ LA มีดังนี้ “Oops!-Team: They called themselves Sushi Designer, not like a Master but never stop created. It’s not only making sushi, but every dish that they hand to the customers, always have a story. Every customers mean a lot to us. As a Customer, As a Friend & As a Family.” • จากข้อความดังกล่าว จึงสามารถบอกตัวตนของร้านได้ว่า เน้นการทำซูชิออกมาให้เป็นแนวสร้างสรรค์ (Creative) และเน้นเรื่องการออกแบบหน้าตาซูชิหรือรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่และมีสไตล์เฉพาะตัว • เปิดทุกวันเวลา จ.-พฤ. เวลา 16:00-23:00 ศ. เวลา 16:00-24:00 ส.-อา. เวลา 11:30-14:00 และ 16:00-24:00 (วันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ เปิดแค่ช่วงมื้อเย็นถึงดึก วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เปิด 2 ช่วง มื้อกลางวันและมื้อเย็นถึงดึก) [บรรยากาศร้าน:] ร้านตกแต่งด้วยโทนสีดำและเขียว ออกสไตล์กึ่งผับ/บาร์ มุมหนึ่งเป็นบาร์เครื่องดื่ม และมีเคาน์เตอร์ซูชิสำหรับเชฟเตรียมปรุงอาหารอยู่ตรงกลางร้านด้านใน มีที่นั่งทั้งด้านในร้านและด้านนอกร้านตรงระเบียงแบบ outdoor จุดเด่นที่สังเกตได้อีกอย่างของร้านคือ มีการแขวนนาฬิกาไว้ 2 เรือนใกล้ๆกันสำหรับเทียบเคียงเวลาที่ LA และไทย เพราะร้านนี้มีอีกสาขาที่โน่นนั่นเองครับ [Signature Menu และสไตล์อาหาร:] ตามที่ผมเกริ่นไปครับ ร้านนี้สไตล์อาหารจะเป็นแบบฟิวชั่นระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา ดังนั้นซูชิที่เป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่นแท้หน้าปลาดิบต่างๆ ปั้นเสิร์ฟเป็นคำๆหรือ Nigiri จะไม่ค่อยมีนะครับ โดยมีเมนูที่โดดเด่นหรือ Signature Menu เป็นพวก Sushi Roll ต่างๆ ที่มีการตั้งชื่อเมนู (แสดงถึงความเป็นอเมริกัน) ได้แปลกแหวกแนวดีชวนให้ลองสั่งอย่างเช่น American Idol, Roll Royce, OMG, 911, Green Butterfly เป็นต้น ส่วนประกอบอีกอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่คือ “ซอส” ที่ราดหรือปรุงมาบนพวกเมนู Sushi Roll สไตล์ฟิวชั่นต่างๆ รสชาติจะเน้นออกไปทางหวานหน่อยๆแต่ก็กลมกล่อมดีครับ [รายการเมนูที่ผมได้ลอง Tasting:] • Soup Korean Style หรือซุปมิโซะสไตล์เกาหลี ซึ่งออกเผ็ดนิดๆ คล้ายซุปกิมจิ • Three Musketeer หรือสามทหารเสือ เมนูนี้คือเกี๊ยวทอดกรอบซึ่งมี topping เป็นปูและแซลมอนปรุงด้วยซอสรสเผ็ด • 911 ชื่อเหตุการณ์สำคัญของประเทศอเมริกา เมนูนี้คือโรลทูน่าปรุงด้วยซอสสูตรเผ็ดซึ่งมี topping วางด้านบนด้วยชิ้นอโวคาโดสด และราดด้วยซอสปลาไหลสีน้ำตาลกับซอสพริกสีส้ม จานนี้มีมาเสิร์ฟทั้งหมด 8 คำวางเรียงในจานเป็นรูปตัว X และตกแต่งด้วยหลอดไฟครอบตรงกลางด้วยวัสดุแสงสลัวๆ ข้างจานมีการตกแต่งด้วยซอสสองสีตัดสลับกัน ดูสวยงาม • *OMG (Oh-My-God) เมนูนี้คือโรลไส้กุ้งเทมปูระกับสลัดปูอัดปรุงรสเผ็ดและ topping วางด้านบนด้วยแซลมอน-ทูน่า-อโวคาโด และสลัดปูอัดปรุงเผ็ดอีกครั้ง วางสลับชั้นกัน ราดด้วยซอสปลาไหลกับซอสพริก จานนี้มาเสิร์ฟมีรูปแบบการนำเสนอที่เป็นโรลวางเรียงกันเป็นกำแพงรูปสามเหลี่ยมและมีโรลมีอีก 2 คำที่พันด้วยแซลมอนและทูน่าวางด้านหน้ากำแพงสามเหลี่ยม โรยทั่วจานด้วยงาขาวและงาดำ และข้างจานมีการตกแต่งด้วยซอสสองสีตัดสลับกัน ดูสวยงาม วัตถุดิบจานนี้จะคล้ายๆกับ 911 แต่มีมากกว่าและรูปแบบไม่เหมือนกันครับ • *Tic Tac Toe หรือตาราง OX เมนูนี้คือหอยเชลล์อบกับซอสไดนาไมท์วางบนเทมปูระแคลิฟอเนียโรลราดด้วยซอสปลาไหลสีน้ำตาล จานนี้มาเสิร์ฟมีรูปแบบการนำเสนอที่เป็นการวาง Roll เป็นคำๆลงในช่องตารางสี่เหลี่ยมขนาด 3 x 3 คล้ายๆการเล่น OX ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเมนูนี้ โดยใช้ซอสปลาไหลราดเขียนเป็นตาราง • **M Sushi เมนูนี้คือปลาไหลย่างราดด้วยซอสหวานวางบน gindara (หรือปลาหิมะ) ที่ทำออกมาเป็นคำๆคล้ายซูชิแบบ nigiri และมีการโรยรอบจานด้านด้วยผักโขมฝอยทอดกรอบคล้ายๆแป้งเทมปูระแต่มีสีเขียว ทำให้จานนี้ดูสวยงามคล้ายๆภูเขาที่มีต้นไม้ปกคลุมอยู่เลย • *Spicy Tuna Bite (220 บาท) เป็นเมนูที่แยกสั่งต่างหากจากที่ทางร้านเตรียมมาให้ลองทั้งหมดด้านบนครับ เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของทางร้านครับ เมนูนี้คือทูน่าปรุงเผ็ดวางเป็นหน้าซูชิบนข้าวทอดกรอบ จานนี้ให้ความรู้สึกกรุบกรอบเวลาเคี้ยว และได้รสเผ็ดนิดๆของทูน่าที่เป็นหน้า ตัดกับรสหวานของซอสที่ราด • Strawberry Cake มื้อนี้ตบท้ายด้วยของหวานเป็นเค้กมี 2 รสคือ ชาเขียวกับวานิลา ทั้งสองรสมีไส้ด้านในเป็นสตรอเบอร์รี่เป็นลูกๆและวางด้านบนด้วยสตรอเบอร์รี่อีกทีหนึ่งครับ *, ** คือสัญลักษณ์ที่แปะไว้ด้านหน้ารายการเมนูด้านบนที่ส่วนตัวผมคิดว่าอร่อยดี ความอร่อยตามจำนวนดาวครับ นอกเหนือจากเมนูซูชิที่เป็นแนวฟิวชั่นแล้ว ทางร้านก็มีเครื่องดื่มที่โดดเด่นเป็นพวกสาเกต่างๆ มีให้เลือกหลากหลาย ตามชื่อร้านนะครับ อย่างตอนที่ผมไป tasting ทางร้านก็มีเตรียมสาเกใส่ถ้วยเล็กๆที่มีเม็ดสาคูกลมๆสีม่วงใส่ในถ้วย ให้ได้ลองกันด้วยครับ เนื่องจากเป็น SR ดังนั้น 3 ดาวครับ สรุปคือส่วนตัวผมว่าร้านนี้เค้าเน้นที่ตัวซอส (ปลาไหล) ที่ใช้ราดบนเมนูโรลต่างๆเพื่อใช้ปรุงและเสริมรสชาติให้เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยสันทัดรสชาติของปลาดิบ และรูปแบบการนำเสนออาหารที่รังสรรค์มาอย่างมีจิตนาการครับ [เกร็ดความรู้ของร้าน:] เหตุผลที่ทำไมซูชิที่นี่ซึ่งเป็นแบบสไตล์อเมริกันถึงเน้นเป็นพวก Roll แบบ Fusion ทั้งหมดเพราะว่าร้านอาหารญี่ปุ่นที่อเมริกาถ้าต้องการเน้นขายกลุ่มลูกค้าชาวอเมริกันจริงๆ ส่วนใหญ่ต้องมีการปรุงและเตรียมเนื้อปลาหรือวัตถุดิบอื่นๆให้สุกก่อนหรือพยายามไม่ให้ลูกค้าเห็นเนื้อปลาดิบๆแบบเด่นชัด (เหมือนซูชิแบบ Nigiri ของญี่ปุ่นแท้) ดังนั้นจึงมีการเอาเนื้อปลาแอบซ่อนไว้ข้างในโดยการทำเป็น Roll นั่นเอง เพราะว่าวัฒนธรรมการทานของคนอเมริกาจะไม่ค่อยกล้าทานของดิบๆเหมือนทางเอเซียบ้านเราครับ

ตัวกรอง
เรียงตาม
ร้านซูชิดังใน LA มาเปิดสาขาใหม่แถวเลียบด่วน โดดเด่นที่ maki
ประวัติร้านนี้เท่าที่ทราบคือเป็นร้านที่มีสาขาแรกอยู่ที่ Los Angeles อเมริกา แล้วมาเปิดที่กรุงเทพฯ บ้าง เข้าใจว่าน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยในอเมริกาเลยเอามาเปิดที่ไทยบ้าง ร้านนี้เน้นให้นั่งทานกันยาวๆ นั่งดื่ม นั่งกินไปเรื่อยๆ จนถึงดึก มีสาเกให้เลือกสั่งหลากหลายแบบ เท่าที่ได้ลองผมว่าร้านนี้จะเด่นที่เมนู Maki มากกว่าจะเป็น Nigiri/Sashimi ครับ [ ควรรู้ก่อนมา ] - ร้านนี้เปิดเฉพาะช่วงเย็นๆ...อ่านต่อ
อร่อย อิ่ม สุดๆกับซูชิฟิวชั่นเเละเครื่องดื่มหลากหลาย
ร้าน oops เป็นร้านซูชิฟิวชัน อยู่จรงข้าม CDC เข้าซอยไปสหกรณ์ 1 ไปนิดหน่อย เห็นป้ายร้านสีเขียวชัดเลย สามารถจอดรถได้ที่ร้านสปา เเล้วบอกว่ามาจากร้านอุ๊บส์ ค่ะ ร้านนี้เมนูมาง่ายๆ 1 แผ่น มีเมนูพวกสลัด อุด้ง และซูชิฟัวชันหลากหลาย กับพรีเซ้นเริ่ดๆค่ะ เนื่องจากว่าดองรีวิวมานานมาก จึงขออธิบายรายละเอียดไม่เยอะเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดนะคะ .:.NOT A ROLL อร่อยดีค่ะ ไม่เลี่ยน .:.Spicy Tuna Bite จานนี้ช...อ่านต่อ
ยกให้ร้านนี้เป็นร้าน Fusion Roll ในดวงใจไปแล้ว!
ปกติเราเป็นคนชอบโรลซูชิอยู่แล้ว แต่ตามร้านญี่ปุ่นทั่วไปมักจะเป็นเมนูแบบทั่วๆไปอย่าง California Roll ซึ่งกินแล้วก็ธรรมดาๆ พอดีมาเห็นรีวิวร้าน Oops นี้ในเนท ที่เน้นพวก Fusion Roll สไตล์ที่ชอบพอดีเลย เลยต้องขอลองสักหน่อย ร้านนี้จะเปิดกลางวันเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น แต่ตอนเย็นเปิดทุกวัน เรามาทานวันเสาร์ช่วงเกือบบ่ายสองใกล้เวลาร้านปิดแล้วเลยไม่มีคนเลย สั่งไปสี่อย่าง มี OMG, American Idol, Ba...อ่านต่อ
อิ่มจนต้องร้อง Oops !
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางทีมงานของวงในนะครับที่ได้เชิญผมมาร่วมชิมที่ร้านนี้ เป็นงานแรกของผมเลยครับ ความรู้สึกเลยเกรงๆ แต่ก็รู้สึกประทับใจและสนุกมากครับ ต้องขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ค่อยถนัดเรื่องซูชิเท่าไหร่ครับยิ่งเป็นอาหารฟิวชั่นแบบนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของผมเลยล่ะครับ เลยทำให้กลัวว่าจะเขียนรีวิวยังไงดี หากรีวิวนี้ผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ ...อ่านต่อ
ซูชิฟิวชั่น อร่อยๆมั้ยล่ะ ... Must Try 😋😋
ถ้าพูดถึง " Sushi Fusion " เดียวนี้บ้านเราก็มีร้านแบบนี้เปิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ แต่ล่ะร้านก็จะมีเมนูสร้างสรรค์คิดขึ้นมาเอง เพื่อเรียกลูกค้า และร้าน Oops! นี้ ก็เป็นอีก 1 ตัวที่เลือกที่ดีเลย สำหรับคนที่อยากกินซูชิฟิวชั่น เพราะทั้งรสชาติ ปริมาณ ความอร่อย แนะนำครับต้องลอง Must Try ...!? - Tuna Salad เริ่มต้นด้วยสลัดทูน่า จานนี้ผมไม่ได้ติดใจอะไรกับเนื้อทูน่าสับที่มาแบบก้อนโตๆ 2 ก้อนแต่ที่ติดใจ ก็คือน...อ่านต่อ
อ่านรีวิวร้านอื่นๆ ที่สมาชิกวงในแนะนำ
