The Goat Greatest Of All Time

o เอาจริงเราไม่ได้เป็นแฟนอาหาร tasting menuเท่าไหร่ (ตั้งแต่ไปกินร้านที่ต้อง’เลียจาน’ทีนึงแล้วเลยบอกลาไปเรย...555) o แต่หลังจากอ่านรีวิวของที่นี่แล้วดูน่าลองนะ...เพราะเชฟมีcooking technique และใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่น่าสนใจ (ingredientsบางอย่าง พวกเราอาจจะนึกไม่ถึงว่าจะรวมกันแล้วอร่อยขนาดนี้) o ชื่อร้าน The “G.O.A.T” = Greatest Of All Time (และ’แพะ’ยังเป็นปีนักษัตรของเชฟด้วย) o ประทับใจตั้งแต่ตัวรูปแบบของอาคารสไตล์ Chino-Portuguese (จากการที่เชฟเคยไปทำงานแถบภูเก็ต-พังงา) และมีการใช้ lighting techniqueสมัยใหม่เข้ามาเสริม ทำให้ดูโดดเด่นมาก o กิมมิกสนุก ๆที่ชอบคือ upside-down floor lamps ที่ลอยเด่นอยู่กลางโต๊ะอาหาร ถูกใส่เข้ามาเป็นอินโทร.ให้รู้ว่าอาหารที่นี่ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน...555 o อาหารที่นี่เป็น Testing menus ของอาหารเอเชี่ยน-ฟิวชัน ที่ปรุงด้วยวัตถุดิบท้องถิ่น(ของไทย) มีความเป็นเอเชี่ยน แต่ออกนอกกรอบไปบ้าง (มีความเป็นพั้งค์หน่อย ๆ) o มื้อนี้เป็นประสบการณ์อาหารที่เป็นมากกว่าการ ‘กินอร่อย’ เท่านั้น (ร้าน’เทสติ้งเมนู’ บางร้านกินแล้วก็จะงงๆหน่อย) แต่มี ‘ความเป็นพื้นถิ่น’ ที่มีความคิดสร้างสรรค์, มีมิติที่ดีมาก...และเห็นเชฟว่า จะเปลี่ยนเมนูชุดใหม่ทุก 3 เดือน o มื้อนี้ยาวๆ 3 ชั่วโมง...ราคาก็แรงหน่อย ฿฿฿฿฿ สำหรับ creativitiesอ่านะ “Grab A Seat” -เปิดมื้ออาหารได้ประทับใจมาก..เป็นลูกกลมๆที่มีวิสกี้, กล้วย, มะพร้าว, lime และจะแตกโพล๊ะในปาก เป็นpalate cleanserที่เยี่ยมมาก “We aren't Relate, But We are Family” -ก้ามปูดิ๊ปกับแกงปู/ ใบชะพลู ที่เข้มข้น(แต่ไม่เผ็ดมาก) ปิดจานด้วยแตงโม, สาหร่ายพวงองุ่นดับฮีทได้ดี “Night Light-Green Light” -จานสลัดที่สวยงาม เป็นปลาช่อนทะเลซาชิมิ(ที่’ikejime’ รีดเอาเลือดปลาออกให้ไม่คาว) -เป็นจานที่ครบรส(เปรี้ยว/ หวาน/เค็ม/ขม) อร่อย, สดชื่นมากๆ “3 Dollars Pie” -แรงบันดาลใจ ‘NZ’ chicken pie มาเป็นกุ้งแม่น้ำในซอสมันกุ้ง(หอมกลิ่นมะกรูด), ตัวแป้งdiscนั่น ใช้ duck fatแทนเนย(หอมแปลกไปอิ๊ก) “Family” -จานนี้สวยเหมือนเพ้นท์ติ้ง...เป็นหอยไม้ไผ่( Razor clams)หั่นบางเฉียบ กับน้ำมันพริก/ โหระพา สีตัดกันสวยงาม “Same Same, But Different” -เมนู’หมูฮ้อง’ของภูเก็ต แต่นำเสนอแบบฉีกกฎ(ซี่โครงหมู) อร่อยด้วยท้อปปิ้ง 3 แบบ(3 รสสัมผัส...เพิ่งเคยกิน’เคยกรอบ’นะ อร่อยมาก) “Breakfast, Lunch & Dinner” -เชฟได้แรงบันดาลใจจากขนมจีนทางใต้ ที่กินกันได้ทั้งวัน(3มื้อ) เป็นขนจีนซาวน้ำ (แต่เส้นเป็นปลาหมึกที่ julienneมาเป็นเส้นบางๆ) ผัดกับขิงซอย, กระเทียม -มีโฟมกะทิเบา/ นุ่ม, กับ’กรานิต้าสับปะรด’(รวมแล้วเหมือนกิน’ขนมจีนซาวน้ำ’ เลย) “Please Use Your Hands” -ลิ้นวัวในมัสมั่นซอส(หอมไวน์แดง), แกงใต้, โรตี, เฮิร์บต่างๆ(ใบมะตูมแขก, ผักชีล้อม, ใบมะแขว่น) -ตัดเลี่ยนด้วย’พริกน้ำส้มเจลลี่’(อันนี้ครีเอทขั้นสุด)...ชอบเลย “Mother Land” -‘ข้าวต้มปลา’ จากวัยเด็กของเชฟ...พอตอนโตเลยกลายมาเป็นจานนี้ -ตอนเสิร์ฟ ค่อยเทน้ำซุปผักกาดดอง, และมีใบไม้แปลกประหลาด ช่วยเสริมรส/ เท็กซ้เจอร์...ซดได้อร่อยเลย “Best Friends are Peoples. You Don't Need to Talk Everyday” -Pre dessert(ที่ชื่อยาวเหยียด) ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘รถเข็นขายผลไม้รวม’ -แต่นำเสนอมาแบบโม๊ะเดิ้นมากกก...เป็นกรานิต้าสละ, มังคุด, ฝรั่ง, แยมกระท้อน ด้านบนมีโฟมพริก/เกลือ...เริ่ดแทร่ “Only by Chance w-Toppings” -ชื่อจาก’รถขายไอติม’ (ที่ไม่รู้ว่าวันนี้จะผ่านมาให้กินมั๊ย?) -แต่แทนที่จะเป็นขนมปังเบๆ...ก็เป็นBrioche toast กับท้อปปิ้ง(พิศดาร) 3 รส -มีมะพร้าวแก้วเกล็ดจิ๋วๆ, น้ำตาลตโนด, น้ำเชื่อมดอกจาก(จากนครฯ ซึ่งเขาออสโมซิสความเค็มจากน้ำทะเล ทำให้พอเคี่ยวแล้ว รสจะคล้ายๆ salted caramel…ชอบมากๆ) “Forever Grateful” -จานหวาน(สุดท้าย) เป็นขนมไทยคำเล็กๆ(แต่ครีเอทีฟขี้นสุด) -ของเราชอบ’กรอบเค็ม’ไส้พริกไทย/ ผักชีที่สุด, ‘ข้าวหลาม’ไดฟุกุ ก็อร่อยมากๆ