Spasso Bistro (สปาสโซ่ บิสโทร) โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ

หลังจากการเปลี่ยน Tables Grill เป็นห้องอาหารอิตาเลียน Salvia ทำให้การกลับมาเปิดให้บริการของ Spasso เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าจะยังใช้ชื่อเดิม แต่เติมคำว่า Bistro ตกแต่งใหม่บางส่วนแล้วเปลี่ยนเป็นห้องอาหารเฟรนซ์บิสโทรแทน . ใครเคยมาสปาสโซ่ก่อนหน้านี้อาจจะรู้สึกว่าบรรยากาศของ Spasso Bistro ดูคล้ายเดิม แต่เพิ่มเอากลิ่นอายของปารีเซียงผ่านอาหาร และเสียงดนตรีที่จำลองจากย่านแซ็ง-แฌร์แม็ง (Saint-Germain) เข้ามาแทน . แน่นอนว่าด้วยความที่จีเอ็มและเชฟเป็นคนฝรั่งเศส ทำให้อาหารของที่นี่น่าสนใจมาก มาแบบเฟรนซ์จริงจัง เปิดมื้อด้วย Fresh Oysters ที่มีตัวเลือกหอยนางรมถึง 3 ชนิด Fines de Claire No.3, Parcs de I’Imperatrice No.3 และ Gillardeau No. 4 กินกับขนมปังซาร์วโดว์และเนย ส่วนเครื่องดื่มเป็น Saint-Germain Spritz สปริตซ์ที่สื่อความเป็นย่านแซ็ง-แฌร์แม็งที่หอมด้วยกลิ่นดอกเอลเดอร์ . ก่อนที่จะมาสู่ Artisanal smoked salmon แซลมอนรมควันโฮมเมดที่เชฟทำเองมาพร้อมเคเปอร์ หัวหอม ซาร์วครีม ที่เข้ากับ La “Jaja” plus ค็อกเทลเบสไวน์ขาวและจินที่ซ่อนกลิ่นส้มเอาไว้ มีน้ำแข็งเกล็ดเย็น ๆ มาในแก้ว . Duck foie gras au torchon, Jean Larnaudie ฟัวการ์สแบรนด์ดังกินกับขนมปังอบคนละตัวกับที่ทางร้านให้มาในตอนแรก มีแยมลูกฟิกซ์และเกลือเพิ่มรสให้ฟัวการ์ส คลาสสิกมาก . จากนั้นยังคงเป็นเมนูเฟรนซ์คลาสสิกอย่าง Crispy French duck leg confit กงฟีเป็ดที่ทำมากรอบมาก ด้านในยังฉ่ำไม่แห้ง ยิ่งได้เห็ดผัดยิ่งออกรส กับ Farmer roasted chicken ไก่อบที่มาพร้อมเห็ดผัดและแครอทที่เบสเป็นน้ำของไก่ที่เอามาผัด กินกับ Red summer ค็อกเทลที่เบสเป็นไวน์แดงเข้ากับอาหารสองจานนี้ . และไฮไลต์ La Formule เมนูสเต๊กจานร้อนที่เหมาะสำหรับแชริ่ง ได้ทั้งขนมปัง สลัด สเต๊ก และเฟรนซ์ฟรายส์ที่เติมได้ตลอด มีให้เลือกทั้งเนื้อวัว ซี่โครงแกะ กุ้งลายเสือ และปลาโซล เราเลือก L'Entrecote สเต๊กเนื้อริบอายแบล็กแองกัสออสเตรเลีย ราดด้วยซอสสมุนไพร เสิร์ฟมาบนถาดที่ให้ความร้อนตลอดมื้อ . เราว่าพอ Spasso เปลี่ยนมาเป็นบิสโทรร้านดูน่าสนใจขึ้นมากเลย เมนูก็ดูแคชชวลขึ้นเยอะ แถมยังเฟรนซ์คลาสสิกมาก