Empty Plates Bangkok

ปลายปีที่แล้วมีโอกาสได้ไปร่วมกิจกรรม Wongnai Chef Table มา ร้านนี้ไม่รู้จักมาก่อน แต่ก็อยากมาเพราะเวลาที่ไปทาน Chef Table มักจะมีอะไร ๆ ให้เราได้เซอร์ไพรส์ตลอด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ครั้งนี้เราไปกันแถว ๆ ลาดพร้าว ร้านอยู่ในส่วนที่เป็นที่พักของ Chef Steven John ต้องจองมาล่วงหน้าเท่านั้น minimum 4 ท่าน Maximum 10 ท่าน อาหารจะเสิร์ฟเป็นคอร์ส เราได้ทานเป็นคอร์ส 9 อย่าง 2,400 บ. รวม Welcome Drink ซึ่งเลือกได้ว่าจะรับเป็น Cocktail หรือ Mocktail และรวมน้ำเปล่า) นอกจากนี้ก็มีเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้สั่ง ถ้าจะสั่งไวน์ต้องสั่งเป็นขวดไม่ขายเป็นแก้ว เชฟเป็นลูกครึ่งไทย-สวิส อาหารที่นำเสนอจึงเป็นสไตล์ผสมผสาน คืออ่านชื่อเมนูแล้วพอยกอาหารมาต้องร้องว้าว ลืมภาพอาหารเดิม ๆ ในชื่อที่เราคุ้นเคยไปได้เลย Welcome Drink : Tropical Sour เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำมะม่วง เสาวรส รัม มอลต์ มะนาว และเลมอน รสหวานอมเปรี้ยว แอลฯไม่แรง จิบได้เพลิน ๆ กระตุ้นต่อมรับรสได้ดี คอร์ส 9 อย่าง เริ่มต้นด้วย - Breakfast Khao Man Gai ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้ว่านี่คือข้าวมันไก่ (บอกก็ไม่รู้ 55) ก้อนกลม ๆ นี่คือไก่ ราดด้วยน้ำจิ้มซีอิ้วดำ ข้าวเชฟเลือกที่จะเสิร์ฟเป็นข้าวพองกรอบ ๆ รองอยู่ด้านล่าง ไม่มีความเป็นข้าวมันไก่แบบเดิมเลย แต่ชิมแล้วได้กลิ่นอายของความเป็นข้าวมันไก่จากส่วนผสมทั้งหมด ทานแล้วชอบค่ะ ครีเอทดี - Switzerland on a plate : เมนูนี้เป็นการนำมันฝรั่งมาขูดเป็นเส้น นำไปทอดและหั่นเสิร์ฟในรูปสามเหลี่ยมคล้าย ๆ พิซซ่า ท๊อปด้านบนด้วยแซลมอนรมควัน ไข่แซลมอน และ Creme Fraiche ทานรวม ๆ กันรสกลมกล่อมดีค่ะ ชอบตรงที่แซลมอนรมควันและไข่แซลมอนไม่เค็มจนเกินไป และมีรสเปรี้ยวเล็ก ๆ จาก Creme Fraiche ช่วยตัดรส - Larb Dib Namtok - Waterfall : เมนูนี้เซอร์ไพรส์มาก นึกว่าลาบแซลมอน แต่จริง ๆ แล้วเชฟใช้มะเขือเทศมาทำค่า ทำออกมาได้อร่อยดีทีเดียว เชฟปรุงรสลาบได้จัดจ้าน มะเขือเทศก็ทำได้ดี คนไม่กินมะเขือเทศก็กินได้ เมนูนี้จะเสิร์คู่กับขนมปังเป็นบาร์แกตต์ Texture ก็จะแข็ งๆ เหนียว ๆ หน่อย แต่เราชอบกินหมดอีกแล้ว แฮ่ - Nature in a bowl : เมนูนี้เป็นปลาเนื้อขาวท๊อปด้วยเห็ดที่หน้าตาเหมือนไข่ปลาคาร์เวียร์โรยด้วยข้าวพอง ด้านล่างเป็นหน่อไม้ฝรั่งและแตงกวาที่นำไปรมควัน ซึ่งหอมมาก กลิ่นมันฟุ้งในปาก และมีน้ำซุปสีเขียวที่ทำจากผัก watercress นำมา puree รสกลมกล่อมดีไม่เหม็นเขียวนะ จานนี้ก็ชอบค่ะ - Savory Seafood Cracker : เป็นปลาแผ่นกรอบ ๆ รสหวาน ๆ เผ็ด ๆ โรยหน้าด้วยท้องปลากระพง หอมใหญ่ และดอก bok choy หยอดด้วยซอสศรีราชาผสมกับซอสฮอลันเดส รสข้น ๆ เผ็ดนิด ๆ - Spicy Chili Pineapple-express : เป็นเมนูซุปอีก 1 เมนู แต่เป็นซุปแบบเย็น เชฟใช้กุ้งลายเสือเสิร์ฟคู่กับสัปปะรด และผักดอง น้ำซุปทำจากสับปะรดและฟักทอง มีความจัดจ้านคล้าย ๆ แกงส้มใต้ (เชฟดึงเอารสจัดจ้านแบบไทย ๆ มาใช้ได้ดีเลยนะ) เมนูถัดไปเป็นเนื้อแกะ จะกินเมนูเนื้อทางทีมงานก็ใจดี สั่งไวน์แดงมาให้จิบคู่กัน - Silence of the Thai red lamb : เมนูนี้เชฟแนะนำว่าให้กินทุกอย่างพร้อม ๆ กัน (โยเกิร์ตขิง , แตงโม , แยมจากผลนากาโม , พริกหวาน , ช็อคโกแลตมินท์) ชิมไปคำแรกมองหน้ากันเลย เนื้อแกะนุ่มมาก ไม่มีความสาปใด ๆ - Purple Rain, Violet Never Fades : เป็ดรมควันเสิร์คู่กับแครอทม่วง puree และมันหวานทอดกรอบ ทานคู่กับซอส trois rois jus ซึ่งเป็นซอสที่ทำจากกระดูกสัตว์ 3 อย่าง หนักราว ๆ 10 กิโลกรัม นำมาเคี่ยว 24 ชม.จนได้ซอส 1.5 ลิตร แล้วนำมาผสมกับไวน์ขาว รสเข้มข้นดีทีเดียว ทานคู่กับอกเป็ดคือดีอ่ะ นุ่มเชียว - Sweet Treats Are Made Of These : เมนูนี้เชฟจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ วันนั้นเชฟเสิร์ฟเป็นเมนูพานาคอตต้าซอสมะม่วง ตัวพานาคอตต้าเนียนเด้งเซ็ตตัวดี ซอสหวานอมเปรี้ยวตัดรสกันดีค่ะ เมนูนี้ออกแนวเฉย ๆ นะ ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์ บรรยากาศ : เนื่องจากเป็นห้องพักของเชฟ ขนาดห้องไม่ใหญ่มาก รองรับลูกค้าได้ประมาณ 10 ที่ ออกจะแคบ ๆ ไปหน่อย ห้องค่อนข้างอบอ้าว อากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีกลิ่นและควันจากการปรุงอาหารในครัว (อันนี้ให้ดาวเฉพาะอาหารนะคะไม่ได้รวมสถานที่/บรรยากาศ) มื้อนี้เชฟทำไป ออกมาเสิร์ฟและพูดคุยพรีเซนต์ทุกเมนู ใช้เวลาในการทาน 4 ชม.ถ้วน นานมากแต่ประทับใจมาก อาหารมีความว้าวหลาย ๆ เมนู กินแล้วประทับใจ อยากให้ได้ไปลองกันค่ะ Empty Plates Bangkok Tel : 093-324-0078 FB : https://www.facebook.com/emptyplatesbangkok/ IG : emptyplatesbkk/chefjohnbkk Web : http://emptyplatesbangkok.com/ E-mail : booings@emptyplatesbangkok.com