เคยมาล้ง1919เมื่อหลายปีก่อน จำได้ว่าหาที่ถ่ายรูปได้ยากมาก ไม่ใช่เพราะสถานที่ไม่สวยนะ แต่ตอนนั้นประชากรชาวชิคช่างหนาแน่น จนไม่มีที่ให้ยืนแอ่นถ่ายรูปเลย เอิ๊กๆ
กลับมาคราวนี้ เพื่อมาทวงความฝันคืน รอบนี้พี่มาพร้อมตากล้องที่ Noสน Noแคร์ พร้อมแอ่นแต้ถ่ายรูปในทุกมุม แต่!!! แต่!! แต่! ล้งในวันนี้ ไม่เหมือนในวันนั้น อาจเป็นเพราะโควิด19 ทำให้ล้ง1919 คนน้อยลง หรือเป็นเพราะคนลืมสถานที่ชิคชิคที่นี่กันแล้ว
แต่พี่ว่านะ ถึงเวลาจะผ่านไป แต่ยังไงล้งก็ยังมีเสน่ห์ในแบบฉบับของความเป็นล้ง (แบบฉบับความหมวย ตี๋ กี่เพ้านี่หล่ะที่พี่ว่าเป็นแบบฉบับของล้ง1919)
เอาเป็นว่าถึงจะมีความเปลี่ยนแปลงจากร้านอาหารที่น้อยลง แต่มี Art Gallery เข้ามาแทนที่ แต่พี่คิดว่ามันทำให้เรามีมุมชิคชิค เกร๋เกร๋ ให้ได้ถ่ายรูปเพราะหลายๆ มุมเหมาะมากๆ กับโชว์รูปเกร๋ๆ ลง IG มาที่นี่รับประกันได้ภาพให้คนตามกดไลท์ในสไตล์แต้จิ๋วแน่ๆ
จริงๆ มุมกำแพงรอบนอกนี้ยังมีอีกหลายจุดให้ถ่าย (เราได้เป็นหลายสิบรูป แต่ลงเยอะไปจะเบื่อกัน) พี่ว่าเราตามเข้าไปด้านในกันบ้างดีกว่า
จะว่าถ่ายง่ายก็ง่าย เพราะสไตล์จีนที่ชัดเจน แต่จะว่ายากก็แอบยาก เพราะความเยอะในการตกแต่งสถานที่ที่ทำให้หามุมในการยืนโพสยากอยู่ เราเลยลองเดินซอกแซกไปตามห้องต่างๆ ซึ่งก็จะมีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และอาร์ตแกลลอรี่ และแล้ว อาร์ตแกลลอรี่นี่หล่ะ ที่จะทำให้เราได้เก็บภาพกันต่อ...
แล้วความหิวก็เข้าแทรก มีร้านไม่กี่ร้าน จากที่พินิจพิเคราะห์แล้ว ยังไม่ทันเที่ยง จัดมื้อเบาๆ กับของหวาน และกาแฟให้ตาสว่างกันก่อนดีกว่า
อิ่มแล้วใช่มั้ย ถ้างั้นเธอจงฟังฉัน ระหว่างเรานั้น "แกๆ ลุกไปหามุมถ่ายรูปกันอีกเหอะ เอิ๊กๆ"
มุมต่างๆ ในนี้เยอะนะครับ แต่จะมีความซ้ำกันอยู่บ้าง เวลาลงรูปอาจจะดูเป็นแนวๆเดียวกัน โดยรวมแล้ว เราใช้เวลาอยู่ในล้งนี้ประมาณ 4 ชั่วโมง ก็น่าจะพอกับภาพที่เราคาดหวังไว้ และรู้สึกพอใจละ
อย่างที่บอก ใช้เวลาซักประมาณ 3 ชั่วโมงก็น่าจะกำลังดี กับการถ่ายภาพ เดินชม Art Gallery นั่งกินกาแฟ และชมของที่ระลึก ในช่วงที่เราไปคือต้นเดือนมีนา(ช่วงวิกฤตการณ์โควิด) คนไม่เยอะนะ แต่มองในเชิงบวก ก็เป็นข้อดีในการเก็บภาพสวยๆ ที่ได้มุมมองแบบไม่มีคนพลุกพล่านในเฟรมของเรา
ตามแพลนของเราที่คิดไว้ อยากจะมาถึงช่างชุ่ยซักบ่ายสาม ให้ได้ภาพความรำไรของแสงอาทิตย์สาดมาที่หัวเครื่องบินลำใหญ่ จุดไฮไลท์ของช่างชุ่ย
อาจจะไวกว่าแพลนไปนิด บ่ายสองกว่าๆ ขับรถมาจากล้งใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง (ในภาคต่อของความหิว เพราะกินแค่กาแฟมาจากเพลินวานพาณิชย์) มาถึงช่างชุ่ย สิ่งแรกที่จะทำคือหาร้านกิน เอร้ยยยย.... มะใช่สิ หาห้องน้ำเปลี่ยนชุดก่อน เปลี่ยนสถานที่ พี่ก็ต้องเปลี่ยนชุด เอิ๊กๆๆ ฮามั้ย ด่าได้แต่อย่าแรงนะ
เมื่อมาถึง เดินหาร้านอยู่พักใหญ่ๆ หาร้านอาหารไม่ค่อยได้ เพราะรู้สึกว่าส่วนใหญ่จะเป็นร้านแนว Food truck ซึ่งเน้น outdoor และเปิดขายในช่วงเย็นๆ จนมาเจออยู่ 2 ร้านที่ดูว่าภายในเป็นห้องแอร์ จนยืนลังเลอยู่นาน ตัดสินใจว่าจะเข้าในร้านนี้เพราะดูร้านใหญ่โอ่โถง ดูน่าจะเป็นจุดที่ทำให้เรานั่งทานข้าวและพักได้ยาวๆ ไป ตัดสินใจที่ "Disjarus Craft and Cafe"
หลังจากรับประทานอิ่มหนำสำราญไปแล้ว สรุปได้ว่าอาหารมีความละมุนละไม จัดว่าใช้ได้ทั้งต้มยำที่รสชาติเข้มข้น แต่ไม่ถึงกับแสบร้อน ส่วนของทอดทั้งสองเมนูมีความกล่อมกล่อม ไก่กรอบนอกนุ่มใน ส่วนเกี๊ยวกุ้งรสชาติกำลังดี กินเล่นได้ ส่วนสิ่งที่ขอลดจำนวนดาวลงหน่อยคือ มีความคาดหวังว่าแอร์จะฉ่ำให้หายร้อน แต่มีตัวช่วยความเย็นคือพัดลมตามมุมต่างๆ ของร้าน (แต่น้องพนักงานมีแนะนำมุมนั่งแล้วแจ้งว่ามีแอร์บางตัวเสีย พี่ว่ารวมๆ แล้ว4ดาวพี่ให้ได้นะ)
อิ่มแล้วก็ไปถ่ายรูปกันต่อ
แล้วช่วงเวลาเย็นๆก็มาถึง รอแสงแดดสาดลงมาที่หัวเครื่องบินแบบย้อนๆ สะท้อนกันไป ไม่รู้สิ่งที่คิดไว้ กับสิ่งที่ได้จะตรงกันมั้ย
หลังจากแบตกล้องหมด ก็เดินไปมาหาอะไรทานมื้อเย็นแบบไม่คาดหวังกับการถ่ายรูปละ แต่ความไม่หมดหวังของตากล้องเมื่อเห็นแสงสีทองสะท้อนลงมา จึงฮึดกดแบตขึ้นมาอีกรอบ เพื่อภาพนี้ที่เป็นภาพย้อนแสงทองสุดท้ายของเราที่ช่างชุ่ย
หนึ่งวันกับสองสถานที่ พี่ว่ากำลังดี แต่ยังไม่หมดนะ ขอแถมอีกที่ที่แพลนไว้ แต่ไปวันอื่นละนะ วันนี้พี่เพลีย เปลี้ย ขอกลับไปนอนก่อน
สามที่ไม่น่าทันในวันเดียว มาต่ออีกวันกับ "ชมเฌย" สถานที่แสดงสิ่งของเชยๆ ให้ทุกคนได้เชยชม ช่วงเวลาหน้าร้อนตอนเดือนมีนา พี่ว่าเสี่ยงมากกับการมาสถานที่แบบนี้ อาจมีความร้อน และหงุดหงิดได้ ถ้าสถานที่ที่ไปไม่มีลมโกรก
ศึกษามาแล้วจากน้องสาวที่มาก่อน ว่ามีร้านอาหาร กาแฟ เครื่องดื่มครบครัน ให้นั่งพักยามร้อน และรองรับกับอากาศร้อนๆ แบบนี้ได้อยู่
และแล้วก็ทนร้อนไม่ไหวจริงๆ ด้วยเวลาแล้วก็เหมาะกับการพัก นั่งรับประทานอาหารและรับแอร์เย็นๆ ในร้าน
เราสั่งกัน 4 เมนู กำลังดีอีกแล้วสำหรับความหิวมื้อนี้ มีทั้งสปาเก็ตตี้เบคอนพริกแห้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น ไก่ทอดเกลือกรอบๆแห้งๆ และข้าวราดขี้เมากุ้ง (เมนูนี้ไม่ได้ถ่าย)
ก่อนจะไปถ่ายรูปต่อ ขอแวะให้ดาวก่อน จัดไป 5 ดาว ร้านตกแต่งดี มีแอร์เย็นๆ หรือจะนั่งหน้าร้านก็ลมโกรกอาจจะมีหลับได้ แถมรสชาติอาหารเท่าที่สั่งไปผ่านเลย แถมสุดท้าย ราคาเป็นมิตรมากๆ
ก่อนจะปิดทริป อยากบอกว่าที่นี่มุมเยอะมากนะ ใครที่พร๊อพพร้อมในสไตล์วินเทจอยากให้จัดเต็มมา พี่ว่าจะเข้ากับละครหลังข่าวมากๆ เค้าว่ามีหลายๆ เรื่องมาถ่ายกันที่นี่ พี่เก็บภาพชมเฌยในมุมกว้างๆ มาให้ดูด้วยละกัน
ก่อนกลับประทับใจในร้านอาหารชมเฌย ต้องขึ้นไปจิบเครื่องดื่มซ่าๆ ซักนิดนึง
เลือกเที่ยวกันนะ เมืองไทย คนไทยยังต้องการการสนับสนุน แต่ต้องมีลิมิต ระมัดระวัง และมีสติกับสิ่งที่ทำ กับ "ชมเฌย" รู้สึกประทับใจในทุกสิ่ง โดยเฉพาะสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการตกแต่งทุกๆ มุม ทั้งร้านอาหารและสถานที่ด้วยภาพของพ่อหลวงรัชกาลที่9 และพระราชวงค์ในรัตนโกสินทร์ของเรา ซึ่งแสดงถึงความจงรักภักดีต่อราชวงค์ไทยมากๆ บางภาพหาชมได้ยาก มีความประทับใจจริงๆ
ทั้ง3ที่ ไม่ว่าจะเป็นล้ง1919 ช่างชุ่ย หรือชมเฌย มีเสน่ห์กันไปคนละแบบ ในความชิลล์ความชิคของสถานที่ พี่ว่าเรามาสนับสนุนที่ดีๆ แบบนี้กันเถอะ
#check-in #chill #chic
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ





































