ยะโฮร์บาห์รู เดี๋ยวก็รู้ว่ามีอะไร!!!

เราออกเดินทางวันศุกร์หลังเลิกงาน รีบตรงดิ่งไปสนามบินดอนเมืองอย่างไว เพราะเครื่องออก 9.30 PM เราต้องเช็คอินประมาณ 7.00 PM เดินทางด้วยสายการบินสีแดงๆ แก๊งเรามีทั้งหมด 5 คน ค่าตั๋วก็ถูกมากไปกลับ 3xxx บาท/คน

เดินทางถึงสนามบินยะโฮร์บารูห์ประมาณ 12.35 AM ด้วยความงกเราเลยไม่ได้จองโรงแรมใดๆเอาไว้เลย กะว่านอนสนามบิน

พอผ่านด่าน ตม. ออกมาเราก็เริ่มมองหาที่นอน แต่ทุกที่ในสนามบินดูเงียบมาก ต่างจากสนามบินบ้านเราโดยสิ้นเชิง เก้าอี้ก็มีน้อยสุดๆ ส่วนมากโดนจับจองไปแล้ว เดินวนอยู่หลายรอบสุดท้ายเลือกเป็นโต๊ะหน้าร้านอาหาร การนอนคืนนั้นแทบไม่ได้หลับเลยจร้า ถ้าใครมาไฟล์เดี๋ยวกะเราก็หาโรงแรมนอนเถอะ อย่าทนนอนสนามบินเลย 555+

พวกเราตื่นประมาณตีห้า มาล้างหน้าเตรียมตัวไปขึ้นบัสเข้าเมือง เราเลือกบัสรอบแรกคือ 6.10 เราก็เดินไปยืนรอที่เคาเตอร์ขายตั๋ว รออยู่นานก็ไม่มีคนมาเปิด รอจนเลยรอบรถก็ยังไม่เปิด

Remark : ตารางบัส https://www.causewaylink.com.my/airport-shuttle-bus

เราตัดสินใจว่าไม่รอเคาน์เตอร์เปิดแล้ว ไปที่รถเลย พอมาถึงคือตกรถรอบแรกเรียบร้อยจร้า รถออกไปแล้ว อยากร้องไห้จริงๆ เราเลยรอรถรอบถัดไป พอรถมาเราก็ถามคนขับว่าซื้อตั๋วที่รถได้ไหม เคาน์เตอร์ยังไม่เปิด คนขับก็บอกว่าได้ (แล้วเรารอเพื่ออะไร TT) ราคาตั๋วคนละ 8 RM ซึ่งก่อนหน้านี้เราถามราคาแท็กซี่แล้วแพงกว่าการขึ้นบัส เราจึงเลือกบัส

ในที่สุดก็เดินทางมาถึง JB Sentral เป้าหมายแรกคือเดินไปโรงแรมที่เราจองไว้เพื่อฝากกระเป๋าก่อน คือโรงแรม ทรอปิคอล อินน์ (Tropical Inn) จองผ่าน agoda ราคา 1,883 บาท/คืน สำหรับ 5 คน ไม่มีอาหารเช้า เมื่อมาถึงเราได้สอบถามพนักงานเรื่องรถไปเลโก้แลนด์ เนื่องจากเราตกรถรอบแรกอีกแล้ว 555+

พนักงานที่โรงแรมน่ารักที่สุดแนะนำเราว่าควรเรียก Grab ไม่ควรเรียกแท็กซี่ เพราะแพงกว่ามาก เราเลยเรียก Grab ไปเลโก้แลนด์

แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เราดันกะเวลาผิด นั่ง Grab ไปมันไวมาก สวนสนุกยังไม่เปิด คนขับจึงเสนอว่าแวะซื้ออาหารเช้าก่อนไหม เพราะไปซื้อข้างในแพงมาก เราก็โอเคร คนขับก็จอดรถให้ซื้ออาหารก่อน เราไม่ได้ลงไป แต่เพื่อนลงไปซื้อให้ สรุปนางซื้อโรตีกะไก่มาแล้วบอกว่า อย่างอื่นกินไม่ได้เลย 555+

เมื่อถึงเลโก้แลนด์เราก็หาที่นั่งด้านหน้าเพื่อทานอาหารก่อนเลย รอเวลาสวนสนุกเปิด จากนั้นก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นก่อนเข้าสวนสนุก

ก่อนมาถึงเราได้จองตั๋วผ่าน klook ไว้เรียบร้อย แนะนำให้จองแบบวันเดียวก็พอถ้าไม่ได้เล่นสวนน้ำ เพราะสามารถเล่นเครื่องเล่นครบได้ภายใน 1 วัน ราคาประมาณ 1,xxx บาท/คน เครื่องเล่นบางชนิดไม่อนุญาติให้ผู้ใหญ่ขึ้น สวนสนุกแห่งนี้เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็ก

ทางเข้ามีนักท่องเที่ยวมาต่อคิวเยอะมาก มีทัวร์ลงด้วยจร้าวันที่เราไป ตอนแรกแอบคิดว่าต้องต่อคิวเล่นเครื่องเล่นนานแน่ๆ

สิ่งแรกที่เราเจอคือเมืองจำลองที่สร้างด้วยเลโก้ทั้งหมด ได้รวบรวมสถานที่สำคัญต่างๆเอาไว้

นอกจากสถานที่ต่างๆที่ต่อเป็นเลโก้ก็มีของเล่นมากมาย เช่นรถดับเพลิง อันนี้สนุกมาก ใช้แรงเยอะมากด้วย มีรถรางให้นั่ง มีชมการแสดงต่างๆมากมาย เครื่องเล่นข้างในเลโก้แลนด์ส่วนมากเด็กสามารถเล่นได้สบายมาก

เล่นมาสักพักก็เริ่มหิว และเนื่องจากอากาศร้อนมากเราเลยหาร้านอาหารที่ติดแอร์ ก็เลยได้เป็นร้านพิซซ่า รสชาติพิซซ่าแตกต่างจากที่เราเคยกินที่ไทย แป้งจะแห้งกว่า

อิ่มแล้วหาของเล่นต่อไม่รอแล้วนะ เดินไปรอบๆเพื่อถ่ายรูป ทริปนี้ไม่ได้เล่นเครื่องเล่นที่อยู่ในน้ำเลย เพราะเราไม่อยากเปียก และเสื้อกันฝนที่ขายในนี้แพงมาก ถ้าจะให้ดีเตรียมมาเองดีกว่า แต่ถ้าไม่เอามาก็มีเครื่องเป่าลม ซึ่งต้องเสียเงินนะจ๊ะ

อากาศช่วงบ่ายทำร้ายกันมาก เลยเดินเข้าห้องแอร์อย่างเดียวเลย ได้ดูโชว์หลายอย่าง แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพื่อนๆแอบเข้าไปหลับเพราะแอร์เย็น 555+

เดินเที่ยวจนครบ ก็ได้เวลากลับแล้ว ใช้บริการ Grab เช่นเดิม เราไม่อยากรอบัสอีกต่อไป 555+

หลังจากออกจากเลโก้แลนด์ เราก็ตรงกลับที่พัก เพื่อเช็คอิน แล้วก็ออกมาหาของกินใน City Square

เหตุผลที่กินอาหารญี่ปุ่นเพราะอาหารมาเลไม่ถนัดจริงๆ จบทริปวันแรกที่ยะโฮร์บารูห์เพียงเท่านี้

วันที่สองเราตื่นสายมาก ไม่มีความรีบเลยสักนิด วันนี้เป็นวันที่จะเดินเล่นไปรอบๆเมืองยะโฮร์บารูห์ แต่ขอเตือนไว้ก่อน อากาศร้อนมาก

อาหารเช้าวันนี้เป็นเค้กที่ซื้อในห้างเมื่อวานที่เราไปเดินเล่น แล้วก็เจอกับ Secret Recipe

มีเค้กหลายหน้าที่ไม่มีขายในไทย แต่เราก็เลือกรสชาติที่เราอยากกินมา

อิ่มแล้วออกเดินทาง โดยเดินไปรอบๆ ยะโฮร์ มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย

เดินถ่ายรูปตลอดทาง แชะภาพกับเพื่อนร่วมทริปสักหน่อย เดี๋ยวคนอื่นคิดว่ามาคนเดียว เป็นมุมที่ดูร้างๆแต่เก๋ดี

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยวคือเราต้องเข้าวัดทำบุญด้วยนะจ๊ะ แวะเข้าวัดจีน ก่อนเลย มาที่นี่ก็แอบสับสนภาษามีทั้งอังกฤษ จีน มลายู งงไปหมดจร้า

อากาศก็ร้อนมากไม่ไหวจะละลายเลยกลับไปเดินห้างสวยๆดีกว่า แวะชิมชาสักหน่อย

ความหิวไม่เคยจากเราไป เราเริ่มมองหาอาหารกลางวัน โดยเลือก Food Court จะได้ชิมอาหารที่หลากหลาย

ถ้าเดินทางกลับเลยก็จะยังไงอยู่ เลยไปต่อกันที่ Johor Premium Outlet โดยเรียก Grab เช่นเคย แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้เลยเพราะเดินเพลิน และรีบไปขึ้นเครื่องกลับ

เขียนโดย : อัญชลินทร์ เรืองศิรพิมล