เราเดินทางออกจากบ้านช่วงเที่ยงกว่าๆ เพราะสามีต้องไปเคลียงานก่อน ระหว่างที่เดินทางเราก็แวะซื้อขนมแวะทานข้าวเป็นระยะๆ เพราะมีเด็กมาด้วย ดังนั้นเราต้องจอดเพื่อพาเขาแวะพักบ้าง ยิ่งสำหรับใครที่มีเด็กเล็กๆ คงทราบดี ว่าเด็กจะนั่งนานๆ นั้นเป็นเรื่องยากมาก ดังนั้นเราต้องเตรียมความพร้อม น้ำ ของทานเล่น ของเล่น การ์ตูน ต้องพร้อมมาก เพื่อลดการงอแงระหว่างเดินทาง ข้อสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับบ้านที่มีเด็กเลยคือ Car seat มีไว้เถอะค่ะ ปลอดภัยหายห่วง เราไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหน เพราะเรามีภารกิจในเช้าวันถัดไปรออยู่ กว่าจะมาถึงที่พักก็เย็นมากแล้ว เข้าที่พักก่อนเพื่อเก็บของ ล้างมือล้างหน้า ก่อนออกไปทานข้าว ที่พักค่อนข้างดีค่ะ สงบ ไม่วุ่นวาย เด็กๆ ชอบ เพราะมีสระว่ายน้ำ และของเล่นสำหรับเด็ก มีตัวการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ที่เด็กๆ กรี้ด วิ่งถ่ายรูปสนุกสนานเลยค่ะ
ห้องกว้างค่ะราคา 1200 บาทพร้อมอาหารเช้า
สระว่ายนน้ำก็สะอาดค่ะ มีคนดูแลทำความสะอาดช่วงเย็นๆ ตอนเราไปถึงพอดี มีป้ายกฎระเบียบของการใช้สระว่ายน้ำ ควรปฏบัติตามกันด้วยนะคะ
เด็กๆ ชอบมากค่ะ จริงๆ มีหลายตัวเลย
หลังจากที่เราพักเหนื่อย และเดินสำรวจที่พักกันเสร็จแล้ว เราก็เตรียมตัวออกไปทานข้าวค่ะ เราต้องขับรถไปไกลเหมือนกัน เพราะแถวนั้นไม่ค่อยมีร้านอาหาร แต่เราเห็นอยู่ร้านนึง แต่เราไม่ได้แวะ เลยขับมาเรื่อยๆ จนมาถึงสี่แยก เราก็เลี้ยวขวามา มีร้านอาหารหลายร้านเลยค่ะ
หอยเชลทอดกระเทียม ตัวกระเทียมเจียวอร่อยค่ะ ลูกสาวไม่ชอบทานกระเทียมยังบอกว่าอร่อย เอากระเทียมไปปรุงรสก่อนแล้วคลุกแป้งทอด
ต้มยำโป๊ะแตกแบบเผ็ดนิดๆ อันนี้เด็กโตแล้วทานได้ค่ะ เพราะเราขอให้ใส่พริกน้อยๆ
ปูนิ่มผักผงกะหรี่ ออกหวานไปค่ะ น้ำมันก็ค่อนข้างเยอะ
ไม่แน่ใจว่าจำชื่อเมนูถูกไหม แกงคั่วปลาคัง อันนี้ผู้ใหญ่ชอบกันมาก ทานกันเกลี้ยงเลย
ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา เนื่องจากป๊าชอบไปตกปลาอินทรีย์มาให้ทานบ่อยๆ เลยเป็นเมนูโปรดของลูกสาวไปแล้วค่ะ จะมีน้ำยำมะม่วงเสิร์ฟคู่มาด้วยค่ะ
ไข่เจียวปู ผิดหวังนิดๆ เพราะผสมผักพวกมะเขือเทศลงไปด้วย ทำให้ไข่เขียวแฉะ แถมอมน้ำมันไปอีก
วันนี้เราตื่นกันเช้าเลย เด็กๆ กะจะเล่นน้ำ แต่อากาศช่วงเช้าออกเย็นๆ เลยอดเล่น มนุษย์ภูมิแพ้เนอะ ก็ต้องดูแลตัวเองก่อน แต่ยังไงทริปเล่นน้ำของเด็กๆ ยังต้องมีค่ะ เพราะเราสัญญากันไว้แล้ว เราเลยให้เด็กๆ รีบอาบน้ำแต่งตัวไปทานข้าวเช้าก่อน หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จ เราวางแผนออกเดินทางไม่เกินเก้าโมงครึ่ง เพราะจะได้ไม่เลยเวลาที่นัดกับเจ้าหน้าที่ที่เราจะไปลอยอังคาร ช่วงระหว่างที่รอเด็กๆ ก็ไปวิ่งเล่นกัน เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง ทุกคนพร้อม เราเดินทางออกจากที่พักตามเวลา ไปถึงจุดนัดพบใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพราะจากที่พักเราไม่ได้ไกลมากนัก
ท่าเรือที่เราจะมาขึ้นเรืออยู่ก่อนถึงหน้าประตูทางเข้าฐานทัพเรือสัตหีบ ตรงข้ามห้องเย็นสวัสดิการร้านค้าและบริการกองทัพเรือ ซึ่งขณะที่เราไป เขากำลังปรับปรุงทั้งห้องน้ำ ห้องพัก และปูกระเบื้องใหม่ ไปถึงเราก็เดินเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ แจ้งชื่อผู้จอง แล้วเจ้าหน้าที่จะขอโถใส่อัฐิเพื่อทำการจัดเตรียมก่อนลงไปที่เรือ ตามคิวที่เราจอง เมื่อถึงคิวเรา เจ้าหน้าที่จะมาเรียกเราไปลงเรือ ส่วนตัวอาคารกับสะพานเรือก็ไกลเหมือนกันแต่ไม่มาก พอเดินไหว เราได้นั่งเรือลำที่สอง ส่วนเก๋งเรือแบบมีแอร์ เพราะมีผู้สูงอายุเดินทางมาด้วย จะมีเจ้าหน้าที่พาเราทำพิธีต่างๆ จนครบ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
เจ้าหน้าที่จะขอโถใส่กระดูก ถ้าเราไม่เก็บอัฐิเจ้าหน้าที่ก็จะเทรวมลงในโถเลย แล้วเจ้าหน้าที่ก็ทำการห่อผ้าที่โถให้ใหม่
สะพานท่าเรือ แต่เจ้าหน้าที่มีร่มให้เราหยิบกางเดินมาถึงเรือเลยค่ะ ใช้เสร็จก็นำมาคืน
เรือของเราอยู่ด้านหลังค่ะ
ช่วงก่อนเราจะลอยจะมีพิธีที่เจ้าหน้าที่พาทำ ทางนี้เขาเตรียมของให้หมดเลย ให้เรานำมาแค่อัฐิกับรูปค่ะ
หลังจากที่เราเสร็จพิธีลองอังคารแล้ว เราก็ไปหาข้าวทานต่อ
เรามาทานข้าวที่ครัวน้ำเค็มค่ะ วิวดี ลมพัดเย็นสบาย คนไม่เยอะมาก อาหารใช้ได้
ส้มตำปูม้า
หมึกนึ่งมะนาว
กุ้งแช่น้ำปลา
ทะเลเผา
ปูนิ่มผัดผงกะหรี่
หอยตลับผัดพริกแกง
ทะเลชุปแป้งทอด
ข้าวผัดปู
แกงส้มไข่ปลาเรียวเซียว
หลังจากทานเสร็จ เราก็แวะตลาดขายของสดก่อน ก่อนจะแยกย้ายกัน ส่วนเราไปต่อที่พัทยา เพราะต้องพาลูกไปเล่นน้ำ และ check in เข้าที่พัก คืนนี้เราพักที่ Silver sand villa อยู่เส้นพัทยาใต้ โรงแรมอยู่ตรงข้ามหาดจอมเทียนเลยค่ะ สะดวกสบายมากขึ้นมาก็อาบน้ำจืดก่อนเข้าห้อง ข้างสระว่ายน้ำของโรงแรมจะมีที่ไว้ให้ล้างตัว
หลังจากเข้าที่พักแล้วเราก็พาเด็กๆ เปลี่ยนชุดพร้อมเล่นน้ำ
พร้อมลงเล่นทรายก่อนเลย
เด็กๆ ลงเล่นน้ำกันสนุกสนาน ให้เล่นเกือบ 2 ชั่วโมงก็พาขึ้น เพื่อไปอาบน้ำเตรียมตัวออกไปทานข้าวเย็น
หลังจากที่รอเด็กๆ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ เราก็เดินเล่นแถวนั้นเพื่อหาร้านทานข้าวเย็น เพราะไม่อยากเอารถออก การจราจรช่วงหัวค่ำรถเริ่มเยอะแล้ว เดินออกมาไม่ไกลเราก็เจอร้านนี้ เป็นทั้งคาร์เฟ่ มีอาหารคาว และยังเป็นทั้งร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ครบจบในมี่เดียว
ภายในร้าน
fish and chips
Lasagna ใช้เนื้อวัวนะคะ
ผัดซีอิ้ว
ตอนแรกกะจะสั่งมาครบคน จนน้องพนักงานบอกว่าอาหารจานค่อนข้างใหญ่นะคะ เลยต้องเบรกการสั่งเหลือแค่ 3 จาน คุณลูกเลือกทั้งนั้น Fish and chips นี่ปลาตัวใหญ่มาก ทานเกือบไม่หมด ลาซานญ่ารสชาติดีมากเลยค่ะ ไม่เปรี้ยวซอสมากไป รสดีเลย ชีสเยอะมาก แต่ไม่เลี่ยนนะคะ
หลังจากทานเสร็จเราก็เข้าที่พัก เตรียมพักผ่อน และเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
มื้อเช้าเราทานร้านด้านหน้าโรงแรมค่ะ
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จ เด็กๆ ก็เตรียมตัวเล่นน้ำต่อ แต่วันนี้เราเล่นน้ำที่สระในโรงแรมแทน มีโซนตื้นสำหรับเด็กด้วยค่ะ หลังจากเล่นเสร็จเราก็อาบน้ำแต่งตัวเตรียม check out เพื่อเดินทางกลับ เราออกจากที่พักตั้งแต่ช่วงเที่ยงๆ แต่เนื่องจากยังไม่หิว เราเลยยังไม่ได้แวะทานอะไร ป๊าเลยว่าจะแวะทานที่ร้านลุงเนียร เพราะคุณลูกเรียกร้อง
เรามาถึงครัวลุงเนียรสักบ่ายโมงกว่าๆ คนน้อยพอดี ถ้ามาช่วงเที่ยงๆ คนจะแน่นร้านมาก อาจไม่มีที่นั่ง
รสชาติของอาหารร้านนี้ค่อนข้างถูกปากค่ะ ถือว่าอร่อยเลยก็ได้ มีทั้งของคาวและของหวาน เลือกทานได้ตามใจชอบเลยค่ะ หลังจากทานเสร็จเราก็เดินทางกลับโคราช
เราอยากขอเล่าความรู้สึกของันที่ 8 ไว้ในนี้ด้วยค่ะ หลายคนคงจะทราบดีเรื่องข่าวในวันที่ 8 ที่มีการกราดยิงในเมืองโคราช วันนั้นเราตกใจมาก เพราะช่วงวันหยุดน้องเราจะชอบพาหลานไปเดินที่ห้างนั้น หลังจากเช็คข่าวจนมั่นใจแล้วว่าไม่ใช่เรื่องโกหก เรารีบโทรหาน้องสาว จริงๆ คือตั้งใจจะไปกับแต่เนื่องจากเป็นวันพระเลยไปทำบุญต่างอำเภอ เลยทำให้กลับเข้าบ้านเย็นมากแล้ว พอเข้าบ้านพอดีว่าแม่โทรมาว่าเกิดเรื่อง ทุกคนเลยรีบเข้าบ้าน ล็อคประตู ติดตามข่าวอยู่ข้างใน ตอนนั้นเราโทรเช็คกับคนในบ้านทุกคน สรุปว่าไม่มีใครไปห้างดังกล่าว เราโล่งใจ แต่มาทราบข่าวว่าน้องที่รู้จักกับแม่ของเพื่อนลูกสาวติดอยู่ เรานี่สั่นมาก ส่งข่าวให้กันเป็นระยะๆ ว่าควรติดตามทางไหนได้บ้าง ติดต่อใคร จนเกือบห้าทุ่มกำลังคุยกับน้องที่ติด น้องบอกเจ้าหน้าที่เข้ามาแล้ว เราเลยเลิกคุย เพื่อให้น้องได้เคลื่อนยายออกมาแบบไม่ต้องสนใจโทรศัพท์ในมือ หลังจากออกมาได้จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ถามน้องว่าเป็นยังไง เราอยากให้เขาพักสมองไปก่อน ไม่อยากไปรื้อเรื่องตอนที่เกิดเหตุ
ระหว่างที่ที่กลับบ้าน เราคิดสารพัด พรุ่งนี้จะเป็นยังไง เราจะอยู่กันแบบไหน ยิ่งขับรถเข้าใกล้เมืองโคราชยิ่งรู้สึกได้เลยว่า ผิดปกติ รถน้อยลง เสียงจอแจในเมืองที่เคยเป็นมันหายไป เรากลับมาถึงบ้าน จัดการเก็บของเรียบร้อย แล้วเราก็ออกไปลานย่าโมเพื่อจุดเทียนไว้อาลัย มันหดหู่มากนะ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในบ้านเรา มันแย่มาก หลังจากเสร็จงานเรากลับบ้าน ไม่กล้าแวะที่ไหนต่อ ร้านค้าปิดร้านกันไปก็เยอะ ถนนเงียบมาก มีรถผ่านไปผ่านมาก็จริง แต่มันเงียบ ความเงียบที่ไม่เหมือนเคย บ้านเราอยู่โซนในเมือง เราจะรับรู้ได้ถึงความจอแจ ความวุ่นวายของความเป็นเมือง ยิ่งดึกยิ่งเงียบ ไม่มีเสียงคนคุยกันแบบเคย มีรถวิ่งไปวิ่งมาบนถนนก็จริง แต่มันเงียบ มันเงียบแบบเหงาๆ เรานั่งอยู่หน้าจอคอมฯ คอยอ่านข่าวโน่นนี่ เพราะเรานอนไม่หลับ เป็น 2 คืนที่หลับตาลงยากมาก คนรู้จัก คนที่เราไม่รู้จัก หลายคนอยู่ในเหตุการณ์นั้น เขาจะผ่านมันไปยังไง คนที่ต้องสูญเสียเขาจะผ่านช่วงเวลานี้ไปยังไง เราต้องช่วยกัน ต้องช่วยกันประคับประคอง ให้กำลังใจกันและกัน แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน ห้างนั้นเราสัญญา ถ้าคุณกลับมาเปิด เราจะไปใช้บริการ เราจะไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และทุกคนที่นั่น คนอยู่ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป เวลาเท่านั้นแหละที่จะช่วยเยียวยาทุกอย่าง ความทรงจำมันไม่หายไปหรอก แต่มันจะเป็นบนเรียนที่เอาไว้เตือนใจทุกคน จงอย่าประมาท จงช่วยกันสอดส่อง จงเห็นอกเห็นใจกัน แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน
#ฉันรักโคราช #เด็กโคราช #StayStrong
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ