แม่สอดอยู่ห่างจากตัวเมืองตากประมาณ 68 กม. ใช้เวลาในการขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึง แต่เราอยากกินลมชมวิวและค่อยๆ แวะเที่ยวตามรายทางมากกว่า เพราะถนนหนทางระหว่างขึ้นดอยที่นี่ วิวทิวทัศน์ต่างๆ ที่เห็น ♡ เอาใจไปเลย สวยงาม ตัดกับท้องฟ้ากว้างๆ เห็นทิวเขาเรียงตัวกับต้นไม้สีเขียวๆ ชุ่มฉ่ำ เปิดเพลงในรถแบบชิลๆ หน่อย ขับรถเพลินมาก
ถ้าถามว่าขับรถขึ้นดอยยากมั้ย? ก็ตอบว่าไม่ยาก เพราะเราเองชินแล้ว (เป็นคนเชียงใหม่) เรื่องดอยกี่ลูกๆ ก็ไม่หวั่น ถนนแม่สอดก็สร้างใหม่ ขับง่ายมากเพียงแต่ต้องระวังเรื่องรถบรรทุกและรถทัวร์ที่ค่อยๆ ไต่ดอยอยู่เหมือนกัน พวกนี้เขาขับเลนขวา เดาเอาว่า เป็นเพราะรถต้องบรรทุกของหนักเลยกินไปเลนนอกน่าจะโอเคกว่า อ้อ อีกอย่าง ในดอยมีโอกาสฝนตกได้บ่อย เพราะฉะนั้นถ้าถนนลื่นหรือทัศนวิสัยไม่ดีก็ต้องค่อยๆ ไปนะจ๊ะ อย่ารีบร้อนด้วยความหวังดีค่ะ
แวะเที่ยวอุทยานที่แรกก่อน เสียค่าเข้าคนละ 30 บาท (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีไม่เสียค่าเข้า แต่ต้องโชว์บัตรประชาชนนะจ๊ะ) แล้วก็ค่าธรรมเนียมนำรถยนต์เข้าอุทยานคันละ 40 บาท ที่นี่มีน้ำตกอยู่หลายที่ ที่แรกที่เราแวะชื่อ “น้ำตกผาลาด” ถึงแม้จะเป็นฤดูฝน แต่ปริมาณน้ำก็น้อยมาก ต่างที่ไม่ขุ่น น้ำใส เย็น อากาศดีมาก ลมเย็น ไม่ร้อนเลย เข้าไปอีกหน่อยที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ “น้ำตกลานสาง” น้ำใสมากเช่นกัน มีปลาพวงอยู่ในน้ำตกด้วย ต้องเดินเข้าไปข้างในอีกสักหน่อย เพราะมีตั้ง 3 ชั้นแต่เราเดินไม่ถึง ถ่ายรูปมาพอหอมปากหอมคอ
ตอนกลับออกมาอย่าลืมถ่ายรูปกับต้นไม้ใหญ่ที่ลานจอดรถด้วยนะคะ ถ้าไม่คิดจะไปสถานที่ท่องเที่ยวหน้านี้ ถ่ายกับต้นนี้ก็ใหญ่มากพอแล้ว สวยมากๆ เดี๋ยวมุ่งหน้าออกไปอีกอุทยานกัน
อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช อยู่เลยมาอีกสัก 16 กม.ค่ะ ที่นี่ไฮไลท์เด็ดก็คือ "ต้นกระบากใหญ่" มีขนาดโตวัดได้โดยรอบ 16 เมตร และสูงประมาณ 50 เมตร เป็นต้นกระบากที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ขับขึ้นดอยมาสักหน่อย จะมีทั้งจุดชมวิวแล้วก็จุดชมนกเงือก (ซึ่งนี่ได้ยินแต่เสียง ไม่โผล่มาให้เห็นเป็นตัว)
มุ่งหน้าไปยังต้นกระบากใหญ่กัน เขามีจุดจอดรถในดงป่าไผ่ ลมเย็น ลมแรงมาก และอากาศเย็นสบาย เราเห็นป้ายหน้าทางเข้าแล้ว (จากที่ไม่ได้อ่านรีวิวและไม่ได้ศึกษามาก่อน) ก็คิดว่า อีแค่ 400 เมตร ก็เหมือนจากสี่แยกไฟแดงหนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เดินไปชิลๆ หน่าคงไม่เป็นไร ซึ่งเขาได้เขียนเตือนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ว่าเป็นเส้นทางลงเขาสูงชัน ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ต้องใส่เสื้อผ้ารัดกุม รองเท้าหุ้มส้นที่ไม่สูง คนที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคหัวใจ หอบหืด ความดัน หรือร่างกายแข็งแรงควรงดเว้น ซึ่ง เราก็เป็นทั้งหอบหืด ทั้งไม่ค่อยได้ออกกำลัง ทั้งอ้วน ใส่รองเท้าแตะมีส้น และใส่กางเกงขาสั้น แล้วฉันก็หน้ามึนเดินลงไปจ้า
แรกๆ ก็ยังไม่เท่าไหร่ เป็นทางเดิน ขั้นบันได มีหินบ้าง มีตะไคร่บ้าง แต่มีราวให้เกาะพยุงตัวเองลงไปได้แต่ไม่อยากจับเลยเพราะมีตัวบุ้ง ตกลงมาจากต้นไผ่ตลอด ลมก็แรงมาก ชนิดที่ว่าพัดตัวโยนเลยทีเดียว ยังใจดีสู้เสือคิดว่าไม่ไกลเท่าไหร่ ลงไปอีกเรื่อยๆ
และมันเริ่มลำบากขึ้นเรื่อยๆ ต้องก้มต้องหลบ หัวเข่ากระแทกระหว่างที่ลงบันได นี่ขนาดตอนลงแค่นั้นเองนะ แอบกลัวจะมีงูหรือตัวต่อ ผึ้งตัวใหญ่ๆ ด้วย เรายิ่งไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ แต่ก็เดินลงไปเรื่อยๆ คือคิดแค่ว่าไหนๆ ก็เดินมาขนาดนี้แล้ว
ไม่มีคนตามมาเลย เดินคนเดียว น่ากลัวอยู่เหมือนกัน อะไรจะมาคาบอิชั้นไปกินไหมเนี่ย ยิ่งเนื้อติดมันอร่อยขนาดนี้! เดินไปนานมากไม่รู้เวลา เพราะมือถือไม่ได้เอาลงมาด้วย (มันไม่มีสัญญาณ) ห้อยมาแต่กล้องที่คอ เดินลุยไปเรื่อยๆ จนเจอต้นกระบากใหญ่จนได้
ต้นใหญ่มาก ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้ ไม่มีอะไรมาเทียบเลย แต่ครั้งเดียวพอนะ เพราะลงมาเห็นแบบนี้แล้วไอ้ตอนขึ้นไปเนี่ยแหละ เกือบเอาชีวิตไม่รอด หอบเรากำเริบ ที่พ่นก็ไม่ได้เอามา ต้องหยุดพักระหว่างทางไปเรื่อยๆ ใช้เวลาเป็นชั่วโมงแหละค่ะกว่าจะขึ้นไปถึง เกือบตาย!!
กลับขึ้นรถไปคือ ขาสั่น ต้องนั่งพักอยู่นานมาก กว่าจะขับรถออกมาไปที่อื่นต่อค่ะ แข็งแรงจริงๆ แน่ใจจริงๆ ค่อยลงไป นี่เตือนด้วยความหวังดี
หิวข้าวหนักมาก หลังจากไปลุยต้นกระบากใหญ่มา เลยแวะที่นี่ "ปลาสดเมืองฉอด" ร้านอาหารเน้นเมนูปลา วิวสวย คนไม่วุ่นวาย อาหารอร่อยมาก แล้วก็ไม่แพงด้วย
อาหารรอไม่นานมาก แล้วก็ได้ปริมาณเยอะ เราทานจนอิ่ม แล้วต้องห่อกลับไปกินที่โรงแรมด้วยเพราะมันไม่หมดจริงๆ แนะนำเลยนะ ใครมาเที่ยวแม่สอดแวะชิมก่อนเข้าเมืองหรือแวะอิ่มท้องก่อนออกไปจะประทับใจมากจ้า
เราจองมานอนที่นี่ "บีทู แม่สอด พรีเมียร์" โรงแรมมาตรฐานทั่วทุกจังหวัดก็มี แต่ที่นี่คือเหมือนแยกห้องนอน กับห้องนั่งเล่นออกจากกัน
สรุปโดยรวมคือ อยู่โซนที่ไปไหนมาไหนสะดวก ห้องสะอาด เรียบร้อย แอร์ในห้องนอนเย็น แต่ห้องนั่งเล่นไม่มีแอร์ ร้อนตอนกลางวัน ห้องนอนเตียงเสียงดังมาก พลิกตัวไปมาแล้วมีเสียงตลอด หมอนคือให้ติดลบ- แบบสุดๆ เพราะน่วมมาก ปวดคอ ตู้เสื้อผ้าดีมีไม้แขวนให้เยอะ มีโต๊ะเครื่องแป้งแต่ไม่มีเก้าอี้ให้ อยู่มุมประตู คือถ้าแต่งหน้า ใครก็เข้าห้องนอนไม่ได้ ห้องครัวคือใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่มีอุปกรณ์อะไรให้เลย แม้แต่จานชาม ห้องน้ำดี อาบน้ำอุ่น ฝักบัวอะไรก็โอเคอยู่ ไวไฟสัญญาณเสถียร มีปลั๊กให้หลายจุดในห้อง ราคาไม่แพง แต่ไม่มีอาหารเช้านะคะ คือมานอนเฉยๆ อ่ะแหละ ราคาแกว่งๆ 500-800 บาทแล้วแต่เว็บ ถ้าไม่แน่ใจโทรถามเขาเลยค่ะ ขับรถออกมาอีกทีตอนเย็น ตั้งใจจะไปหากุ้งแม่สอดตัวใหญ่ๆ กิน แต่แล้ว... ก็ไม่สมหวัง
ความจริงเราอยากไปร้าน บ.กุ้งเผา แต่.. มันปิดค่ะท่านผู้โช๊ม เลยจำใจต้องมาแวะร้านนี้ ซึ่งฝนก็ตกหนักมาก ที่นั่งก็แทบไม่ค่อยมี เปียก ฝนสาด และพนักงานร้านก็ยังไม่ได้เก็บ ดีนะที่มีป้าคนนึงเคยเร่งเด็กเขามาให้รับอาหาร
เราสั่งกุ้งเผาไซส์ใหญ่ น้องเขาบอกว่าไซส์ที่ราคา 450 หมดแล้ว เหลือแต่ 850 เราถามว่ากิโลนึงได้กี่ตัวน้องเขาบอกว่าได้ 4 ตัวก็เลยตกลงเอามา รอนานมาก น้ำก็ไม่เอามาให้ พ่อแม่เราสั่งย้ำ 2-3 รอบก็นานมากกว่าจะเอามา เราสั่งส้มตำไทยอีกจาน และก็ปลาหมึกย่าง ทุกอย่างไม่เท่าไหร่ กุ้งไม่ค่อยสด อ้อ แต่น้ำจิ้มอร่อยนะ น้ำจิ้มอร่อยไม่ต้องกับข้าวขายละ ทำแค่น้ำจิ้มขายพอนะคะ ไม่ประทับใจเลยกลับออกมาซื้อข้าวกล่องเซเว่นกินยังสบายใจกว่า 555
ตื่นเช้ามา ฝ่าดงรถบรรทุกมากินข้าวที่นี่ค่ะ "เป็ดย่างต้าเว่ย" อาหารมีหลายอย่างเลย ทั้งข้าวหน้าเป็ด ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ เกาเหลา บะหมี่ รสชาติอร่อย ได้เยอะกินอิ่มเลยจานเดียว ใครรีบๆ แล้วหิวข้าวเช้าๆ ก็แวะได้นะคะอยู่ตรงแยกไฟแดง ต้องจอดรถหน้าร้าน เสียดายอย่างเดียวคือแมลงวันเยอะไปนิด นอกนั้นก็พอไหว กินไปดูวิวรถบรรทุกต่อคิวผ่านแดนไปเพลินๆ
แวะถ่ายรูปที่ป้ายนี้สักหน่อย ไหนๆ ก็มาเยือนเมืองแม่สอดแล้ว แต่ว่าบรรยากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เพราะฝนเทกระหน่ำลงมา เดินเล่นในตลาดริมเมยก็ไม่ค่อยมีอะไรเลย เลยมุ่งหน้าไปวัดดีกว่า
ฝนยังตกอย่างต่อเนื่อง แวะไหว้พระที่วัด "วัดไทยวัฒนาราม" สวยงามมาก เหลืองอร่ามไปหมด นี่ถ้าอากาศเป็นใจกว่านี้คงได้รูปสวยๆ วัดนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นชาวไทยใหญ่ที่มาทำบุญ ทั้งวิหารเอยอะไรเอย ตกแต่งด้วยศิลปะของพม่าที่สวยอลังการ
เนื่องด้วยสภาพอากาศไม่เป็นใจ เราเลยขับรถกินลมชมวิวดีกว่าค่ะ ขับยาวมาถึงที่นี่ "น้ำตกธารารักษ์" หรือน้ำตกเจดีย์โคะ เป็นน้ำตกที่ลงมาจากผาข้างบน น้ำใสมาก มีแอ่งน้ำกว้าง แล้วมีสะพานผ่ากลางน้ำ ในน้ำมีปลาเยอะแยะหลากหลายพันธุ์ มีร้านอาหารขายให้คนมานั่งชิล พักผ่อน กินข้าวกับครอบครัว บรรยากาศดีและสนุกที่่ได้ให้อาหารน้องปลาค่ะ มีเยอะมากจริงๆ
เสร็จจากน้ำตก ก็ขับรถชิลๆ ดูสายฝนที่หล่นลงมา ตัดกับวิวทิวเขาที่มีเมฆลอยต่ำๆ แม่สอดหน้าฝนเป็นอะไรที่มีเสน่ห์สุดๆ ใครที่ยังไม่เคยมาสัมผัสบรรยากาศ ขอให้ลองมาสักครั้งนะคะ แล้วจะติดใจเหมือนเราจ้า :)
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ