เริ่มเดินทางโดยบินตรงจาก ภูเก็ต - เชียงใหม่ ในรอบเช้าก็จะถึงเชียงใหม่ประมาณ 10.35
เมื่อถึงสามแยกไฟแดงจอมทอง-ดอยอินทนนท์ ก็เลี้ยวขวาขับตรงขึ้น มาถึงด่านตรวจจุดที่ 1 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.8) ชำระค่าธรรมเนียมเพื่อเข้าท่องเที่ยวอุทยาน
หมู่บ้านแม่กลางหลวง (ดอยอินทนนท์ กม.26) ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง " ปกาเกอะญอ "ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ มาในช่วงมีนาคมเป็นหน้าร้อนกันแล้วแต่ที่หมู่บ้านแม่กลางหลวงอากาศดีเย็นสบายมาก ซึ่งแม้ว่าไม่ได้เห็นความสวยงามของฤดูทำนาขั้นบันได แต่ก็มีความสวยงามในฤดูที่แตกต่าง
ขับรถเข้ามาในหมู่บ้านก็ขับตรงขึ้นไปยังร้าน "กาแฟสมศักดิ์ โถ่บิเบ" บริเวณนั้นจะมีที่จอดรถและคล้ายเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ
เมื่อเดินเข้ามายังในร้านก็จะได้กลิ่นกาแฟที่หอมลอยแตะจมูกภาพที่จะ เจอซุ้มที่นั่งล้อมกาดำๆที่ตั้งบนไฟก่อด้วยไม้ฟืน ซึ่งเป็นการต้มกาแฟด้วยกาน้ำ ง่ายๆ แล้วก็จะมีพี่ๆ ลุงสมศักดิ์ พูดเชื้อเชิญการต้อนรับให้เรานั่งอย่างกระตือรือร้น ตามด้วยกาแฟสักแก้วก่อนไหม? น้ำกำลังเดือด กาแฟพร้อมเสิรฟ
มเสวนาระหว่างนักท่องเที่ยวกับชาวบ้านแม่กลางหลวง มิตรภาพที่เกิดจากการให้ กาแฟหนึ่งแก้ว
ที่พักคืนแรกก็เป็นของลุงสมศักดิ์ "บ้านปลายฝัน" เป็นชื่อบ้านพักในแต่ละหลัง หลังนี้จะอยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟของลุงสัมศักดิ์ อยู่บริเวณด้านหลังซึ่งมีทางเนินชันขึ้นไป ก็จะเจอต้นกาแฟที่ปลูกไว้ระหว่างก่อนจะถึงบ้านพัก
มาถึงแล้ว "บ้านปลายฝัน" ที่พักทั้งสองคืนมาอยู่บ้านแม่กลางหลวง เดินขึ้นมาจากทางเนินและชันพอสมควรเมื่อถึงทางแยกบ้านพักจะอยู่ขวามือก็เจอบ้านไม้ที่ยกสูงแบบมีใต้ถุนอยู่ประมาณ 3 หลังโดยมีต้นลำไย ต้นกาแฟ ล้อมรอบบริเวณกันเลย
เมื่อขึ้นบันไดบ้านมาก็จะเจอโต๊ะหน้าระเบียงหรือชานบ้าน เปิดประตูเข้าไปก็จะเจอเตียงนอนใหญ่ๆ 2 เตียง พร้อมผ้าห่มและผ้าขนหนูจัดวางไว้บนเตียงอย่างเรียบร้อย และห้องน้ำก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ (บ้านหลังนี้จะพักได้ 4 ท่าน)
วิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ ก็ยังคงเรียบง่าย บ้านเรือนแต่ละหลังก็แบบกระทัดรัด ทำด้วยไม้ยกสูง ใต้ถุนเรือนมีเล้าไก่ เล้าหมู มีฟืนจำนวนมากอยู่ข้างๆบริเวณบ้าน และปัจจุบันก็จะมีบ้านรูปแบบสมัยใหม่เข้าผสมผสานแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์แบบดั้งเดิมไว้
เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลาง บนดอยอินทนนท์ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ อากาศดีเกือบตลอดทั้งปีในหมู่บ้านก็มีโรงเรียนเตรียมความพร้อมสำหรับเด็กเล็ก ไปจนถึงประถมหก
"สถานทีชิคๆใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งสัมผัสวิถีชีวิตของชาวปะกาเกอะญอ"
หาปลาแบบง่ายๆของหญิงสาวปะกาเกอะญอ
กลับมายังบ้านพี่แหม่ม พี่สาวสาวปกาเกอะญอที่จะโชว์ฝีมือมื้อเย็นของพวกเราทั้งสามคนในวันนี้ ก็มาบุกถึงครัวของบ้านพี่แหม่มก็ยังเห็นกลิ่นไอแบบดั้งเดิมที่ผสมผสานกับยุคสมัยใหม่ เป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ และการทำอาหารก็ยังเป็นแบบวีถีชีวิตปกาเกอะญอ
วันที่สองเช้าที่ตื่นกับอากาศหนาวเย็น มีนัดตีห้าครึ่งกับพี่ที่จะพาไปเที่ยวในวันนี้
- ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว กม.42 ดอยอินทนนท์
- เดินเส้นทางธรรมชาติ "กิ่วแม่ปาน"
- จุดสูงสุดแดนสยาม
- พระธาตุเจดีย์
- น้ำตกผาดอกเสี้ยว (น้ำตกรักจัง)
เช้านี้นัดกับพี่พัฒน์อาสาจะเป็นไกด์พาเราเที่ยวกันทั้งวันเลย เริ่มกันออกจากหมู่บ้านแต่เช้าตรู่ประมาณตี 05.30 เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว กม.42 (ลานจอดรถกิ่วแม่ปาน) มาถึงวันนี้ฟ้าปิดไม่แน่ใจหมอกหรือควันมากฟุ้งมากทำให้ไม่ค่อยเห็นอะไรเลยนอกจากแสงทองยามเช้า ก็เลยเดินไปหาของร้อนๆกินกันที่ร้านค้า อุญหภูมิบนถือส่าหนาวมาก ขนาดหน้าร้อนยัง 8 องศา มาพร้อมกับสายลม
เส้นทางเดินที่เหนื่อยแต่สวยคุ้มค่า "กิ่วแม่ปาน" ด้วยธรรมชาติที่ยังคงสมบรูณ์ ครั้งที่สองของเราแต่เป็นฤดูที่แตกต่างกับครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนช่วงนั้นอากาศหนาวจะได้เจอกับทะเลหมอก เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร แบ่งผ่านป่าดิบชื้น เฟิร์นยุคโบราณ ป่าเฆม ป่าต้นน้ำกำเนิดสายธาร(น้ำตกลานเสด็จ) ทุ่งหญ้าเมืองหนาว ต้นกุหลาบพันปี
สุดทางครึ่งแรกป่าดงดิบออกมาเจอทุ่งหญ้าเมืองหนาว มาช่วงนี้หญ้าก็เป็นสีเหลืองทองเลย
มาถึงแล้วมุมที่ใครๆก้ต้องมาถ่ายกัน กับ landmark กิ่วแม่ปาน
ราชินีดอกไม้ดอยอินทนนท์ สำหรับดอกกุหลาบพันปีเป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่อายุยืนหลายร้อยปี พบเฉพาะบนเทือกเขาสูงที่มีอากาศหนาวเย็นความชุ่มชื้นสูง ในประเทศไทยพบกุหลาบพันปีบนดอยสูงหลายแห่ง บนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 1,500 เมตรขึ้นไป
เดินผ่านสันกิ่วแม่ปานความกว้างแค่ 1 เมตร
วิวด้านหลัง"พระมหาธาตุนภเมทนีดล - พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" จากการเดินกิ่วแม่ปานช่วงสุดท้ายก่อนกลับเข้าช่วงป่าดิบชื้น
-----------------------------------------------------
การเดินเส้นทางศึกษธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
- อุทยานจะการเข้ากิ่วแม่ปานปิดช่วงเดือน มิ.ย.- ต.ค. เพื่อให้ป่าฟื้นตัว
- เวลา : เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ใช้ระยะเวลาเดิน 2-3 ชั่วโมง
- ค่าใช้จ่าย : 200บาท/คณะ เป็นค่านำทางให้ไกด์ท้องถิ่น
สูงที่สุดในประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยอินทนนท์ทอดตัวยาวเข้าไปในป่าเมฆเป็นระยะทาง 150 เมตร มีอากาศหนาวทั้งปี และมีหมอกกับฝนตกชุก "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" ต้องมอบประโยคนี้ให้กับที่นี้เลย
ที่นี้ยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยอินทนนท์ทอดตัวยาวเข้าไปในป่าเมฆเป็นระยะทาง 150 เมตร มีอากาศหนาวทั้งปี และมีหมอกกับฝนตกชุก ระบบนิเวศเฉพาะตัวอย่างไม่มีป่าไหนเหมือน
ช่วงนี้ก็จะเจอ "กุหลาบขาว" หรือ คำขาว
แวะมาสักการะ 2 พระมหาธาตุคู่ดอยอินทนนท์ "พระมหาธาตุนภเมทนีดล - พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ" ที่อยู่เคียงคู่กัน ตั้งอยู่บนกิโลเมตรที่ 41.5 ทางด้านซ้ายมือ สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2535
บริเวณพื้นที่โดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ ได้จัดเป็นสวนพรรณไม้หลากหลายชนิดที่สวยงาม โดยเฉพาะไม้ดอกเมืองหนาวที่สวยงาม รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว (น้ำตกรังจัง)
จุดเริ่มเดินบนทางหลวง 1009 ค่าไกด์ปกาเกอะญอ 1 คน 200บาท/กลุ่ม ซึ่งตอนนี้มีกลุ่มชาวบ้านแม่กลางหลวงมาตั้งซุ้มหน้าทางเข้าเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว เมื่อก่อนติดต่อทางหมู่บ้านก่อนนะ เพราะต้องใช้ไกด์ท้องถิ่นในการเดินด้วย กับการเดินป่าในระยะประมาณสามกิโลกว่าๆ
เริ่มเดินทางกันเลยนะ ไกด์เดินทางไปเรื่อยๆด้วยความชำนาญในพื้นที่บางทีเดินตามแทบไม่ทัน ช่วงไหนที่ทางลาดชันมากชาวบ้านสร้างบันไดไม้เรียบเนินเขาและราวไม้ไผ่ให้จับ เพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว
ทางเดินไปชมความงามของน้ำตกเดินไปได้ไม่ลำบากมากจะเป็นทางชันและลาดบางช่วง ก็เป็นการเดินกลับเข้าหมู่บ้านแม่กลางหลวงแหละกัน เมื่อเดินเข้ามาสักระยะก็เริ่มได้ยินเสียงสายน้ำกระทบโขดหินดังแล้ว ถึงน้ำตกชั้นแรกสวยงามหน้าร้อนอย่างนี้ก็ยังมีน้ำ
มาเจอเด็กๆในชุมชนมาเล่นน้ำหาปลาคลายร้อนกัน เป็นภาพที่น่ารักมากเลยวิถีชีวิตกับธรรมชาติ
มาถึงแล้วสะพานตรงนี้คือชั้นที่ 7 เคยเป็นโลเคชั่นหนัง "รักจัง" สะพานไม้ที่คร่อมผ่านพื้นน้ำตก เป็นฉากหนึ่งที่จำติดตาในหนังรักที่ดังมากเมื่อสิบกว่าปีก่อน "รักจัง" สายน้ำจากน้ำตกชั้นบนที่ไหลตกลงมากระทบกับน้ำตกชั้นล่างที่มีความสูงประมาณ 20 เมตร จนเกิดเป็นสายน้ำสีขาว ฟูฟ่อง
เห็นแล้วมันสดชื่นนนนนนน :) ฟังเสียงลำธาร วิมานแห่งความสุข ต้อง… "น้ำตกรักจัง"
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาดอกเสี้ยว ดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่กลางหลวง ต.บ้านหลวง อ.จองทอง จ.เชียงใหม่ ต้องเดินป่าแบบทางเดียวคือจากจุดเริ่มต้นลงไปยังน้ำตกแต่ละชั้นจนเดินกลับไปยังหมู่บ้านแม่กลางหลวง
เดินป่า ชมน้ำตก วกมาดูไร่สตอเบอรี่
ถ้ามาในช่วงประมาณเดือน ก.ค. - ปลาย ต.ค. จะได้เห็นภาพนาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวงจากจุดนี้ได้สวยมาก แต่มาในช่วงนี้ก็สวยไม่แพ้กันจะได้เห็นอีกบรรยากาศก็คือ "ไร่สตอเบอรี่" ที่ปลูกตามสันเขา
ภาพระหว่างทางที่ออกจากน้ำตกชั้นจะเจอไร่สตอเบอรี่ขั้นบันได แต่ถ้ามาช่วงฤดูทำนาก็จะเป็นทุ่งนาขั้นบันไดที่สวยงามไปอีกแบบ
สำหรับหนึ่งวันก็เที่ยวบนดอยอินทนนท์ได้หลายสถานที่เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหนดอยอินทนนท์ก็จะอากาศดีตลอดทั้งปี การชมความงามของธรรมชาติก็จะหมุนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และถ้าคิดอยากจะพักค้างคืนก็แนะนำเลยที่หมู่บ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านใจกลางหุบเขาดอยอินทนนท์ที่นิยมมาสัมผัสในช่วงฤดูทำนาแต่สำหรับเราแล้ว ไม่ว่าจะฤดูไหนๆธรรมชาติก็สร้างสิ่งสวยงามไว้รอเราออกไปสัมผัสเสมอ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ


































































































