จะออกไปแตะขอบฟ้า แต่เหมือนว่าวันหยุดนั้นไม่เข้าใจ หายใจสองทีก็หมดแล้ว ฮือ ๆ จะเที่ยวต่างจังหวัดทั้งทียากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิ๊นนนน ~ วันนี้ ทีมงาน Wongnai ภูเก็ต ขอจัดหนึ่งในทริปง่าย ๆ ที่เที่ยวง่าย ใคร ๆ ก็ไปได้แบบสบาย ๆ วันเดียวจบครบทุกอารมณ์ อย่างเส้นทางภูเก็ต-พังงากันค่ะ พร้อมแล้วก็ Let's go for a drive กันเล้ยยยยยยยย



ได้รถแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่จังหวัดพังงากันเลย มีสายฝนตกลงมานิดหน่อยแต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเราแต่อย่างใดค่ะ ที่แรกของเราก็หนีไม่พ้นเรื่องกินอย่างแน่นอน เราแวะจอดพักรถกันที่ “สวนผลไม้ลุงไข่” ตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางภูเก็ตถึงพังงา ที่นี่เป็นสวนผลไม้นานาชนิด เปิดให้เข้าเยี่ยมชมสวนและสามารถเลือกซื้อผลไม้ทานกันสด ๆ ตรงนั้นได้เลย เสียดายตอนที่เราไปเป็นช่วงหมดฤดูผลไม้พอดีเลย ฮือ ๆ ส่วนค่าเข้าชมสวน ผู้ใหญ่ 200 บาท / เด็ก 100 บาท ค่ะ




ชิมนู้นชิมนี้ในสวนไปนิดหน่อย เราก็ออกเดินทางไปตัวเมืองงพังงากันต่อค่ะ จุดหมายของเราก็ยังอยู่ที่เรื่องกินและก็กินเช่นเคย ฮ่า ๆ ร้าน “ขนมจีนป้าศล” หรือร้านขนมจีนหน้าศาลเจ้า ร้านขนมจีนหน้าศาลเจ้า เป็นร้านเด็ดร้านดังของจังหวัดพังงาเลยก็ว่าได้ค่ะ ตั้งอยู่ในตัวเมืองพังงา หน้าศาลเจ้าม่าจ้อโป๋ จุดเด่นของที่นี่คือ ลูกค้าสามารถตักราดน้ำแกงได้เอง ตามความต้องการเลยค่ะ แอบกระซิบนิดนึงว่าน้ำแกงของที่นี่เข้มข้มจัดจ้านมาก และที่เห็นชัด ๆ อีกหนึ่งอย่างคือผักที่ทานคู่กับขนมจีน มากันแบบเต็มโต๊ะจัดเลือกทานไม่ถูกกันเลย



รู้มาว่าที่พังงามีของกินเด็ด ๆ อยู่เพียบ เราเลยกินกันแบบเบา ๆ ไม่ให้อิ่มมาก เพราะที่ต่อไปของเราก็คือ ร้าน “สะเต๊ะเมืองพังงาคุณทิพย์” ร้านสะเต๊ะที่อยู่คู่กับจังหวัดพังงามาอย่างยาวนาน เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่รู้จักและได้ยังชื่อเสียงกันมาบ้างแล้ว เราเลยไม่พลาดที่จะแวะชิมสะเต๊ะร้านนี้กันค่ะ รสชาติของสะเต๊ะถือว่าเด็ดมาก ๆ รับรู้ได้ถึงความสดใหม่ของเนื้อ ส่วนน้ำจิ้มก็นุ่มละมุ่นลิ้นถึงน้ำกะทิสุด ๆ ฟาดหมดจานแบบไม่รู้ตัวกันเลย ยังมีของฝากที่เป็นอาหารท้องถิ่นอย่าง น้ำพริกกุ้งเสียบ ให้ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย


อิ่มจัดแน่นก็ได้เวลาย่อยกันแล้ว เราเดินทางกันต่อมาจนถึงจุดพีคของทริปนี้กันแล้วค่ะ “ถ้ำพุงช้าง” คือจุดหมายสำคัญของเรา หากใครได้มีโอกาสได้มาสัมผัสธรรมชาติและความอัศจรรย์ของที่นี่แล้ว จะต้องร้องว้าวแน่นอนค่ะ เพราะภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยรูปทรงต่าง ๆ และธารน้ำไหลตลอดทั้งปี ช่วงแรกเราต้องนั่งเรือคายัคเข้าไประหว่างทางเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา จากนั้นเราต้องนั่งแพไม้ไผ่ต่อเข้าไป คนนำทางชี้จุดหินรูปทรงต่าง ๆ ให้เราดูไปเรื่อย ๆ จนถึงการลงเดินเท้าลุยน้ำไปจนถึงสุดทางของถ้ำ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าค่ะ สนุกตื่นเต้นกันตลอดทางเลย




“ถ้ำพุงช้าง” ตั้งอยู่ในพื้นที่วัดประพาสประจิมเขต หลังศาลากลางจังหวัดพังงา เปิดให้เข้าชมทุกวันค่ะ ตั้งแต่ 08.30 น. -16.00 น. ค่าเข้าชม 200 บาท/คน แต่ที่สำคัญที่สุดคือการถ่ายรูปในถ้ำพุงช้าง ต้องขออนุญาตอย่างเป็นทางการก่อนนะคะและห้ามใช้แฟลชอย่างเด็ดขาดเพราะแสงแฟลชจะไปกระทบต่อการเจริญเติบโตของหินงอกหินย้อยได้ค่ะ เที่ยวแบบร่วมกันอนุรักษ์และปฏิบัติตามกฏดีที่สุดค่ะ



เดินสำรวจถ้ำกันจนหมดแรง ท้องก็เริ่มจะร้องขึ้นมาหน่อย ๆ ถึงเวลาต้องเดินทางกลับภูเก็ตกันแล้ว เราแวะเติมพลังมื้อเย็นกันที่ ร้าน “ครัวริมพาน” อยู่ติดกับสะพานสารสินฝั่งขาออกเลยค่ะ เป็นร้านขายอาหารที่บรรยากาศตอนเย็น ๆ แบบนี้ดีสุด ๆ ไปเลย เราสั่งเมนูแนะนำของร้านอย่าง “จั๊กจั่นทะเลทอดกระเทียม” ที่จัดว่าเด็ดเลย ตามมาด้วยเมนูซีฟู้ดอีกหลายอย่าง กินไปดูวิวไป ก็ใกล้ได้เวลาพระอาทิตย์จะตกน้ำแล้วค่ะ


เราปิดท้ายทริปวันนี้ด้วยการมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่ “สะพานสารสิน” จุดท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ตที่ได้ถูกปรับปรุงเป็นสะพานคนเดินและหอชมวิวอาคาร 8 เหลี่ยมสไตล์ชิโนโปรตุกีส ที่นี่คือสะพานแห่งแรกที่เชื่อมระหว่างจังหวัดพังงากับจังหวัดภูเก็ต ความยาวทั้งหมด 660 เมตร เป็นอีกจุดที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำได้สวยไม่แพ้ที่อื่นเลย แวะเก็บภาพความประทับใจที่นี่ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ


เป็นอันว่าครบทุกรสชาติจริง ๆ ค่ะ สำหรับทริปที่เราจัดมาฝากกันในวันนี้ ถ้าใครอยากจะลองเปิดประสบการณ์ตะลุยเที่ยว ภูเก็ต พังงา แบบ Road Trip อย่างนี้ ไม่ยากเลยค่ะ หาเวลาพักร้อนเพียงหนึ่งวันและสามารถหารถดี ๆ สักคัน สำหรับการท่องเที่ยวของทุกคนได้ที่นี่เลยค่ะ Phuket A Car สะดวกสบายสุด ๆ ไปเลย และใครที่กำลังมองหาที่กินที่เที่ยวในจังหวัดภูเก็ตสามารถเข้าไปติดตามได้ที่ เพจภูเก็ตหรอยอย่างแรง นะคะ การท่องเที่ยวครั้งต่อไปของทุกคนจะง่ายยิ่งขึ้น Let's go ~