วันหยุดชิลล์ ๆ มาหาสถานที่พักผ่อนชิลล์ ๆ พร้อมเติมความหวานให้ชีวิตคู่กันหน่อยไหม? ผมขอแนะนำที่เที่ยวศรีราชา หนึ่งในสถานที่เที่ยวชลบุรี สุดฮิต! เที่ยวเบา ๆ เดินทางง่าย ไม่ต้องมีรถก็ไปได้ครับคุ๊ณ~ มาเที่ยวเช็คอินบนเกาะสีชัง เดินชิลล์ริมทะเลสวย ๆ นอนที่พักศรีราชาพร้อมชมวิวสุดหรู, แวะเที่ยว-เล่น สวนเสือสีราชา ทั้งหมดนี้ใน 2 วัน 1 คืน! ลุยกันเลยค้าบบบ~

DAY 1
07.00 am - Let's Go Sriracha
เดินทางไปอำเภอศรีราชาทริปนี้เราเที่ยวแบบไม่มีรถ เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถตู้ หรือขนส่งใกล้บ้านคุณ แล้วแต่ที่ทุกคนสะดวกเลยครับ ซึ่งใครที่อยู่แถวสุขุมวิทก็จะมี “สถานีขนส่งเอกมัย” ใครอยู่แถวพุทธมณฑลก็ขึ้นที่ “สายใต้ใหม่” แต่สำหรับผม ๆ สะดวกที่ “ใต้ทางด่วนศรีรัช” หรือ “สถานีรถตู้ใหม่หมอชิต 2” ราคารถตู้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 120 บาท/คน เท่านั้น แค่นี้กระเป๋าไม่ร่วงครับ ชิลล์ ๆ เดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว เราลงรถที่โรบินสันศรีราชาครับ ที่นั่นมีบริการรถตุ๊ก ๆ ด้วย แต่ทางโรงแรมที่ผมจองไว้มีบริการรถตู้รับ - ส่ง แขกอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงเลย : )

09.00 am - Arizehotel Sriracha
ผมแวะเอาสัมภาระมาเก็บที่โรงแรม “Arizehotel Sriracha” ที่พักศรีราชาของเรา 2 คืนนี้เลย ทางโรงแรมมีบริการรถตู้รับ - ส่ง ที่หน้าโรบินสัน มีเวลารถเข้า - ออก สามารถโทรสอบถามได้ตลอดครับ นั่งรถประมาณ 10 นาที เราก็มาถึงที่พักแล้ว ต้องบอกว่าโรงแรมสวยมาก ๆ เห็นแค่ล๊อบบี้ก็ประทับใจแล้ว พนักงานให้การต้อนรับเป็นอย่างดีอีกด้วยครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินนะ เราเลยฝากสัมภาระกับทางโรงแรมแล้วออกไปเที่ยวที่ใกล้ ๆ ก่อน เหมือนเดิมครับรถตู้ไปส่งที่โรบินสัน ต่อวินมอเตอร์ไซค์ไปท่าเรือเกาะสีชังแป๊ปเดียว ส่วนการจองนั้นผมจองผ่านเว็บไซต์ เพราะว่าตอนเสิร์ช Google ว่าที่พักศรีราชาแล้วขึ้นมาเลย ฮ่า ๆๆ โดยห้องจะตกอยู่ที่ราคา 3,942 บาท ต่อ 2 คืน

11.00 am - เกาะสีชัง
เพียงไม่กี่นาทีเราก็เดินทางมาถึงท่าเรือจรินทร์ พอมาถึงท่าเรือเราจะต้องไปซื้อตั๋วก่อน โดยที่ซื้อตั๋วจะอยู่ขวามือของเรา เป็นป้อมเล็ก ๆ ไว้จำหน่ายตั๋ว ราคา 50 บาท/คน จากนั้นรอขึ้นเรือประมาณ 15 - 20 นาที แต่ถ้าโชคดีก็ได้ออกเรือเลยแบบผม เที่ยวสุดท้ายจะอยู่ที่เวลาประมาณ 19.00 น. นะครับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงแล้ว!! “เกาะสีชัง” ที่ผมและแฟนใฝ่หา...ปะ กลับบ้าน เอ๊ยยย! ไม่ใช่ จะบ้าล่ะมั้ง หยอก ๆ พอมาถึงเราจะเห็นผู้คนมาต้อนรับเรามากมายดูวุ่นวายไปหมด และไหน ๆ ก็มาทั้งที เช่ารถมอเตอร์ไซค์กันไปเลยดีกว่า หน้าหาดมีบริการให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์ด้วย เหมาวัน 250 บาท/คัน ก่อนขับรถลุยที่เที่ยวทะเลเกาะสีชัง กองทัพมันต้องเดินด้วยท้องสิครับคุณ เดินทางตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้อง เริ่มหิวแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขี่รถหาร้านอาหารเกาะสีชังด่วน!


13.00 pm - The Verandah Restaurant @ซัมแวร์
เราเลือก “The Verandah Restaurant” ร้านอาหารเกาะสีชังที่มีคนมารีวิวเยอะมาก เข้าไปแล้วบรรยากาศน่ารัก ดูอบอุ่น เป็นกันเองมาก พนักงานต้อนรับดีมากคุณ อยากให้ลองมากันนะ ซึ่งที่จริง “The Verandah Restaurant” เป็นห้องอาหารของโรงแรม “Somewhere Hotel” นั่นเอง ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอาหาร และบรรยากาศของร้าน มาถึงก็ลองซะหน่อย (หิวมากกก) อาหารหน้าตาดีน่ากิน หอมใช้ได้เลยทีเดียว และเมื่อกินเข้าไปจริง ๆ มันฟินเวอร์เลยคุณ~

ผมจัดมาสามเมนู เริ่มด้วยเมนูแรก “Spicy Crispy Morning” หรือก็คือ ผักบุ้งทอด (ราคา 120 บาท) รสชาติดีกินเพลิน ๆ เมนูที่สอง “Fettuccine Smoked Salmon in Pink Sauce” หรือสปาเกตตีแซลมอนซอส (ราคา 180 บาท) เมนูสปาเกตตีเส้นสูตรพิเศษ ปกติเราเคยกินสปาเกตตีเส้นกลม ๆ เล็ก ๆ อันนี้เส้นแบน ๆ หน้าตาแปลกดี รสชาติก็ถือว่าดี เสิร์ฟต่อด้วยเมนูไทย "กะเพราปลาหมึก" (ราคา 150 บาท) รสชาติจัดจ้าน จัดว่าเด็ดเลยทีเดียว พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ อีก 2 จาน (ราคา 40 บาท) รวมค่าอาหารทั้งหมดเป็น 576 บาท (รวม Vat และ Service แล้ว) อาหารร้านนี้ผมให้ 8/10 ไปเลยค้าบบบ พนักงานบริการดีมาก อาหารถือว่ารสชาติดีทีเดียว แถมราคาอาหารไม่แพงมากถือว่าคุ้ม!


15.00 pm - ช่องเขาขาด
เที่ยวเกาะสีชังเหนื่อยแล้ว ก่อนกลับแวะมาถ่ายรูปที่จุดชมพระอาทิตย์ตกสวย ๆ กันหน่อย “ช่องเขาขาด” ตรงนี้นี่ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนดี ๆ แห่งหนึ่งเลยครับ มองออกไปไกล ๆ ทำให้เราลืมเรื่องไม่ดีที่ผ่านมา เหมือนกับว่าโลกนี้มันกว้างใหญ่ ปัญหาของเรามันจิ๊บ ๆ ช่วยเติมแรงบันดาลให้ชีวิตได้เป็นอย่างดี ทั้งวิวสวยมากอีกด้วย (แต่ผมอยู่ไม่ถึงพระอาทิตย์ตกนะ กลัวเรือหมด ฮ่า ๆ)


17.00 pm - สะพานอัษฎางค์
ขี่รถหาที่เที่ยวเกาะสีชังมาเรื่อย ๆ ชิลล์ ๆ แบบไม่มีแพลนอะไรในหัว ผมรู้สึกว่าทะเลที่นี่สวยไม่แพ้ที่อื่นเลยคุณ แถมเงียบสงบเอามาก ๆ คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ เห็นทะเลแล้วอยากลงไปดำน้ำเสียจริง อ้อ! และก็ลืมบอกไป ถ้าหากจะมาดำน้ำดูปะการังที่นี่ละก็ “เสียใจด้วยนะ” เขาไม่มีบริการนี้นะครับ ฮ่า ๆ เนื่อจากทะเลเกาะสีชังส่วนใหญ่เต็มไปด้วยโขดหิน และปะการัง ไม่เหมาะสำหรับดำน้ำ ถ้ามาที่นี่ส่วนใหญ่จะมีร้านอาหาร, จุดชมวิว และจุดถ่ายรูปสวย ๆ จุดเล่นน้ำทะเลที่นี่มีน้อยเช่นกัน

สำหรับผมเกาะสีชังเหมาะสำหรับคนที่อยากมาเที่ยวพักผ่อนจริง ๆ นะ อยากเดินชิลล์ ๆ ถ่ายรูปเล่น นอนสูดดมทะเลอะไรแบบนี้ พอเราขี่รถมาเรื่อย ๆ เราก็มาเจอกับแลนด์มาร์กประจำเกาะสีชัง เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน “สะพานอัษฎางค์” จุดนี้ถือว่ามาเที่ยวเกาะสีชังแล้วห้ามพลาดเด็ดขาด! ถ้าพลาดถือว่ามาไม่ถึงเกาะสีชังกันเลยทีเดียว สะพานไม้สีขาวเป็นจุดไฮไลต์ที่คู่รัก หรือนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนมาถ่ายรูปเช็คอิน สวยงามมาก ถ่ายออกมาแล้วเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย

18.00 pm - พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน
ระหว่างทางที่เราขี่รถกลับสะพานสะพานอัษฎางค์ เราผ่านที่เที่ยวเกาะสีชังอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ “พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน” อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติไม่ใหญ่มากนัก ณ เกาะสีชัง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี มีสัตว์โลกใต้ทะเลมากมายให้เราได้เรียนรู้ และชมความสวยงามของปะการัง, สัตว์ทะเลหลายชนิด และระบบนิเวศของเกาะสีชัง ชมสัตว์น่ารัก ๆ เสร็จเราก็รีบกลับไปที่ท่าเรือกัน (กลัวเรือจะหมดฮ่า ๆ) จริง ๆ อยากอยู่เที่ยวต่ออีกสักหน่อยนะเนี่ย



20.00 pm - Arize Hotel Sri Racha
เดินทางกลับมาถึง “Arize Hotel Sri Racha” โรงแรมศรีราชาอีกทีก็สองทุ่ม! เที่ยวเกาะสีชังกันเพลินจนพนักงานลืมพวกผมไปเลยล่ะครับ ว่ามีแขกที่ยังไม่ได้เช็คอินเข้าพัก (ฮ่า ๆๆ) เหนื่อยแล้วอยากอาบน้ำมาก ๆ ถึงแล้วครับห้องพักที่ใฝ่ฝันอยากมานอนนานแล้ววว~ เพราะเห็นชื่อเสียงระบือไกลเหลือเกิน จองไว้หนึ่งคืนผ่านเว็บต่าง ๆ จะได้ราคาที่ถูกลง และรู้ไหมว่าโรงแรมแห่งนี้ แขกที่มาพักอยู่ที่นี่เป็นประจำก็คือ “คนญี่ปุ่นครับ” เพราะส่วนใหญ่คนญี่ปุ่นมาทำงานโรงงานแถบ ๆ นี้ อีกอย่างที่นี่ก็มีทัวร์จีน และชาวต่างชาติมาลงด้วยนะครับ สำหรับคนไทยส่วนใหญ่จะมาพักแบบครอบครัว เรียกได้ว่าเป็นที่พักศรีราชาที่คนนิยมมาก ๆ

ว้าว..ถือว่าคุ้มค่ามาก ห้องสวย สะอาด เตียงก็นุ่มมากด้วยคุณ มีอ่างอาบน้ำให้คุณนอนเล่น ตีลังกาได้อย่างสบายใจเลย นอกจากนี้ยังมีอาหารเช้า, สระว่ายน้ำ และห้องซาวน่าให้เราเล่นด้วย สระว่ายน้ำปกติจะเปิดให้เล่นถึง 20.00 น. แต่ถ้ายังมีคนเล่นอยู่เขาจะยังไม่ปิดไฟครับ เดินทางกลับมาถึงที่พักเร็วก่อนนอนก็ออกไปเล่นน้ำที่สระหน่อย สระที่นี่หน้าตาเก๋ทีเดียว จะมีลักษณะยาวเป็นรูปตัว U พอประกอบกับโรงแรมเลยดูเก๋ ๆ ขึ้นมาทันที วิวที่เห็นก็เป็นวิวเมืองศรีราชาสวย ๆ เงียบสงบจริง ๆ โชว์แสงไฟยามราตรีที่ไม่เยอะมาก ถ่ายรูปออกมาก็สวยใช้ได้อยู่ครับ เล่นน้ำตอนกลางคืนหนาวสะท้านไปทั้งตัว มีความสุขสุด ๆ ไปเลยครับ ที่พักศรีราชาดี ๆ แบบนี้ไม่ควรพลาดเลย

บรรยากาศกลางคืนเงียบสงบดีมาก~

DAY 2
09.00 am - บรรยากาศยามเช้าในโรงแรม
ตื่นมารับแสงเช้า ๆ บรรยากาศดีไม่น้อยเลย หลังจากนั้นเราก็ลงไปทานอาหารกันที่ชั้น 2 ของโรงแรม เป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกเยอะอยู่ ทั้งเมนูของคาว, ของหวาน, เครื่องดื่ม, ขนมปัง หรือประเภทก๋วยเตี๋ยวก็มีหมดครับ มีที่นั่งให้เลือกเยอะมาก



11.00 - สวนเสือศรีราชา
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ ผมพาแฟนไปเที่ยวสวนสัตว์กันซะหน่อย เหมือนเดิมครับนั่งรถตู้จากโรงแรมฟรีไปลงหน้าโรบินสัน พอมาถึงหน้าโรบินสัน เราก็เดินไปที่แยกไฟแดงประมาณ 300 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเพื่อไปรอรถสองแถวสีฟ้า ซึ่งใช้เวลาเดินทางไม่นานครับประมาณ 10 - 15 นาที ก็ถึงแล้ว ค่ารถอยู่ที่ขาไปคนละ 22 บาท แต่ขากลับผมจ่าย 16 บาท “สวนเสือศรีราชา” ที่เที่ยวศรีราชายอดนิยมตลอดกาล.. มาถึงก็จ่ายค่าตั๋วคนละ 200 บาทก่อน พร้อมแล้วก็ลุยยย~


แดดแรงเปรี้ยง~ แสบตามากแม่เจ้า! ตามประวัติแล้วสวนเสือศรีราชานั้นมีเสือโคร่งเบงกอล 200 กว่าตัว และจระเข้มีถึง 100,000 กว่าตัว เป็นฟาร์มจระเข้ขนาดกลาง และมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย ในสวนก็มีกิจกรรมหลายอย่างให้อาหารช้าง, เสือ, ลูกเสือ และจระเข้ อันนี้ก็เพลินดี ส่วนจระเข้นี่มีให้ซื้อไก่ เอาไปหย่อนให้จระเข้ แล้วมันก็จะมารุมกินกันตื่นตาตื่นใจสุด ๆ แต่อย่าไปแกล้งน้องกันนะ ทั้งยังมีป้อนนมลูกเสือ และมีกิจกรรมแปลก ๆ อีกเช่น นางพญาแมงป่อง, โชว์เสือ, ยิงเป้าให้อาหารเสือ, แม่เสือเลี้ยงลูกหมู และยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายครับ แฟนผมรักสัตว์ ชอบสัตว์มาก ไปที่ไหนเจอสัตว์ก็ฟินหมด จนลืมว่ามีผมมาด้วย ส่วนใหญ่มีทัวร์ลง นักท่องเที่ยวต่างชาติ และครอบครัวมาเที่ยว



รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้
ค่ารถตู้ ไป - กลับ 2 คน = 480 บาท
ค่าเข้าสวนเสือศรีราชา = 400 บาท
ค่าที่พัก 2 คืน = 3,942 บาท
ค่ากินรวม 2 วัน ประมาณ = 1,200 บาท
ค่าอื่น ๆ = 300
รวม 6,322 บาท รวม ๆ แล้วตกคนละ 3,000 บาท เอง ไม่แพงเลย~

จบแล้วครับทริปเที่ยวศรีราชา 2 วัน 1 คืน ของผม.. เป็นทริปเที่ยวศรีราชาสั้น ๆ ชิลล์ ๆ เรียบง่าย แต่ผมมีความสุขมาก ๆ ครับ ได้กิน, เที่ยวเล่น, ถ่ายรูป นาน ๆ ทีได้ออกมาเติมความหวานให้ชีวิตคู่ก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ขอยกให้ที่เที่ยวศรีราชา ชลบุรี เป็นสุดยอดที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศดี เงียบสงบ เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพาคนรัก หรือพาครอบครัวมาพักผ่อนอีกแห่งหนึ่งเลย ที่สำคัญไม่มีรถก็สามารถมาเที่ยวเหมือนเราได้ ^^ สำหรับใครอยากอยู่เที่ยวต่อผมขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวชลบุรี-พัทยา ส่วนใครหิว ๆ เราขอแนะนำ 7 ร้านอาหารริมทะเล ศรีราชา หรือเข้าไปอ่าน 20 ร้านอาหารริมทางศรีราชา กดติดตามเรื่องเที่ยวกับเราที่เพจ Wongnai Travel สิคุณ~