ทำงานมาเหนื่อยจัง วันหยุดที่มีอันแสนน้อยนิด ไปไหนใกล้กรุงฯ ได้บ้างหน๊ออออ คิด 18 ตลบ หมุดก็มาปักลงที่เพชรบุรี และอ.ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ มาดูทริปเที่ยวสุดฟิน เที่ยวง่าย ๆ แถมวิวสวยเพียบกับเราได้เลย!
สรุปทริปและเส้นทางในทริปนี้
วันแรกเราเริ่มออกเดินทางกับรถ 4 ล้อคู่ใจจากกรุงเทพฯประมาณ 8 โมงเช้าไปยังจุดหมายแรกคือ ถ้ำเขาหลวง ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร โดยประมาณ ใช้เวลาเกือบ ๆ 2 ชั่วโมง
1เที่ยวถ้ำเขาหลวง จ.เพชรบุรี
เริ่มทริปกันก่อนที่ "ถ้ำเขาหลวง" ซึ่งห่างจากเขาวังแค่ 5 กิโลเมตร ลงรถปุ๊บต้องนั่งสองแถวไปต่ออีกหน่อย ตกคนละ 15 บาท จากนั้นเดินบันไดอีก 99 ขั้นก็ถึงที่หมายครับ มาถึงเราเราจะเจอกับ "ปล่องถ้ำ" ที่พระอาทิตย์สาดแสงลงมายังด้านล่าง บอกเลยว่าสวยอย่าบอกใคร!
2ถ่ายรูปที่สะพานแขวนแก่งกระจาน
เราขับรถไปต่อกันที่แลนด์มาร์กของเขื่อนแก่งกระจาน (ไม่เสียค่าเข้าและค่าจอด) “สะพานแขวนแก่งกระจาน” ยาวประมาณ 500 เมตร แต่ตอนนี้เขาเอาลวดมากั้นกลางสะพาน เพื่อความปลอดภัย ถ้ามาตอนพระอาทิตย์ตก คงฟินน่าดู นั่งชิลล์ ๆ เพลิน ๆ เผลอคิดว่าตัวเองเป็นน้องน้ำ ในหนังสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารักเลยครับ
3แวะเติมพลังที่ร้านชายหาดแก่งกระจาน
ร้านชายหาดแก่งกระจานอยู่ตรงทางเข้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน วิวสวยมาก ๆ และอย่าพลาดเมนู “ผัดผักกูด” เมนูเด็ดประจำร้านเป็นอันขาด จัดหนักไปหลายจาน จ่ายค่าเสียหายไปมื้อนี้ 700 นิด ๆ นอกจากนี้ได้ลองปลานิลเขื่อนนึ่งซีอิ๊ว และกุ้งแช่น้ำปลา เด็ดไม่แพ้กันครับ
4เดินชมโครงการชั่งหัวมัน
เราไปต่อกันที่โครงการในพระราชดำริโครงการสุดท้ายของพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 "โครงการชั่งหัวมัน" ขอบอกว่าบรรยากาศดีมาก ๆ เงียบสงบ ที่นี่คือแหล่งให้ข้อมูลความรู้และสถานที่พักผ่อนไปในตัว มีน้อง ๆ หนู ๆ ปั่นจักรยานกันเยอะแยะเลย สามารถมาพักผ่อนได้สบาย ๆ แถมถ่ายรูปมุมไหนก็สวยและมีสินค้าเกษตรคุณภาพดีจำหน่ายในราคาย่อมเยาว์ด้วย
5เช็คอินที่พัก “บ้านปราณรีสอร์ท”
เที่ยวมาทั้งวัน ได้เวลา check-in เข้าที่พักที่ บ้านปราณรีสอร์ท ที่นี่ตอบโจทย์ครบถ้วน คือติดหาด ไม่มีถนนกั้น, มีสระว่ายน้ำ, อาหารเช้าฟรี เป็นรีสอร์ทสวยบรรยากาศสบาย เลือกเพราะว่า เดินทางก็มาไม่ยาก ไม่เปลี่ยว แถวนั้นรีสอร์ทติดๆกันเพี้ยบ ใกล้เขากะโหลกและที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกด้วย
6เดินถนนคนเดินปราณบุรี
มาถึงที่พักถึงรู้ว่ามี ถนนคนเดินทุกวันเสาร์เท่านั้น! เราจึงขับรถไปต่อกันเลย เสียค่าจอด 20 บาท เดินชิลล์รับลมไปเรื่อย ๆ ก็มาสะดุดกับชื่อร้าน “โปรดปราณ” เลยขอแวะสักหน่อย สั่งเมนูเด็ด “ปาท่องโก๋ทอดราดนม” ฟินอย่าบอกใคร กรอบหวาน ฟิน! พอหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน เราเลยกลับที่พักไปนอนเอาแรง เพื่อลุยต่อในวันพรุ่งนี้
วันที่ 2 เรารีบตื่นเช้าเติมพลังกับที่พักเสร็จก็มาลุยกันต่อเลย พร้อมเสียเหงื่อกับการขึ้นเขาลงถ้ำแล้วล่ะ! เราออกเดินทางจากที่พักจากบ้านปราณรีสอร์ทประมาณ 9 โมงเช้า ไปยังถ้ำพระยานครเป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
7เที่ยวถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
เป้าหมายหลักของเราคือมาชม "พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์" ให้ทันเวลาที่แสงส่องผ่านลงมา และช่วงเวลาที่สวยที่สุดคือ 10.30-11.30 น. โดยมี ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท + รถ 4 ล้อ 30 บาท วิธีไปถ้ำ เราเลือกนั่งเรือเหมาลำ 400 บาท (นั่งได้ราว ๆ 6 คน) ติดต่อตอนซื้อตั๋วอุทยานได้เลย ตอนจ่ายค่าเรือ เขาจะให้เบอร์มา ต้องลุยน้ำทะเลประมาณเข่าเพื่อไปขึ้นเรือ แนะนำว่าเอารองเท้าที่เดินแล้วไม่เมื่อยและไม่เปียกน้ำไป พอลงเรื่อปุ้บ ต้องเดินขึ้นเขาต่ออีกราว ๆ 430 เมตร หรือใครสายแข็งสามารถเดินเท้าอ้อมเขาไปได้ เดิน 2 กิโลเมตร (มีทางขึ้นเขาอยู่นะ)
อย่าลืม! เอาน้ำขวดติดไปด้วย เพราะ 430 เมตรนั่น ทางโหดมาก เดินเสร็จปุ๊บเสื้อชุ่มไปด้วยเหงื่อ ยังกะอาบน้ำมา แต่พอเดินมาถึง ลืมความเหนื่อยทั้งหมดที่มีเลยคุณขาาา… สวยมากๆๆๆๆ กอไก่ล้านตัว เราถ่ายรูปจนหนำใจ ก็เดินทางกลับ ก็ลงเขาและมาขึ้นเรือเหมือนเดิมครับ
8เดินดูศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
แวะปิดท้ายที่ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ ที่นี่เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ทั้งร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้และต้นโกงกาง เราจะได้สัมผัสระบบนิเวศอย่างใกล้ชิด มีป้ายให้ความรู้อยู่เป็นระยะ ๆ และเรารู้มาว่า สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการชมวิวมุมสูงแบบ 360 องศา บน “หอชะคราม” เดินขึ้นเบาๆ 6 ชั้น ซึ่งพอขึ้นมาปุ้บถึงกับต้องร้อง โอ้โห! ภาพตรงหน้าคือพรมสีเขียวผืนใหญ่ คลุมรอบทั้งบริเวณแบบไม่มีอะไรบดบัง ไม่อยากลงเลยจริง ๆ ใครว่าง แวะมากันได้ เพราะ ที่นี่เปิดให้เข้าศึกษาเยี่ยมชมทุกวัน ตั้งแต่ 8.30-16.30 น. ที่สำคัญเข้าชมฟรีด้วยครับ
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้
หลังจากเติมพลังเต็มอิ่ม กับทริป 2 วันเต็ม ๆ แบบ non-stop เราก็พร้อมที่จะสู้ต่อกับวันใหม่แล้วล่ะ และถ้าใครยังไม่หนำใจเรายังมีทริปเที่ยวง่ายใกล้กรุงที่หัวหินและจันทบุรีให้ไปตามรอยกันต่อได้เลย!
