ก็ลองซิจ๊ะ นะจ๊ะ มันจะไปยากอะไร ทำไมไม่ลองซักที~ เพลงพี่เบิร์ดก็มา ^^ การเดินทางไปเที่ยวเบตงครั้งนี้ เริ่มต้นจากความตั้งใจอยากไปเห็นอีกหนึ่งมุมมองที่ยังไม่เคยได้ลองไปสัมผัสสักครั้ง...กับ “เบตง” ที่เที่ยวยะลา ความรู้สึกแรก ๆ ก็กังวล ด้วยความที่คิดถึงคำว่า “สามชายแดนใต้” มันก็เลยทำให้เบตง ของเราในแว๊บแรกดูจะน่ากลัวหน่อย ๆ แต่พอลองได้หาข้อมูลจริงจังและกล้าที่จะเริ่มออก เดินทางแล้ว สิ่งที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า...กลับทำให้หัวใจเรายิ้มได้ เพราะเบตงมีมุมดี ๆ กว่าที่คิด ไว้เยอะ อยากรู้แล้วสิว่ามันเป็นยังไง เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลย :)
สถานที่ : อำเภอเบตง จ.ยะลา
ระยะเวลาของทริปการเดินทาง : 2 วัน 1 คืน
การเดินทาง : นั่งเครื่องบินดอนเมือง - หาดใหญ่ ลงสนามบินแล้วเช่ารถยนต์ส่วนตัวขับไปเบตงเอง (มีบริการเช่ารถยนต์และบริการขับรถตู้นะ) จากหาดใหญ่เดินทางมาเบตงใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง!! วางแผนการเดินทางดี ๆ บลูแนะนำว่าออกจากกรุงเทพฯ ไฟต์เช้า ๆ หน่อย จะได้มีเวลาเที่ยวกันยาว ๆ จ้าาา~
DAY 1
1วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
หลังจากเช่ารถได้แล้ว เราเริ่มต้นทริปเที่ยวเบตง โก ทู ยะลากันเลยจ้า~ อย่างที่บอกไปว่า กว่าจะถึงเบตงต้องขับรถนานถึง 4 ชั่วโมง เส้นทางที่เราเลือกใช้เป็นเส้นทางที่ไม่อันตราย มีรถวิ่งสัญจรกัน ตลอดทาง ขับมาได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที เราก็มาถึงจังหวัดปัตตานี ชาวพุทธอย่างเรา ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องมากราบสักการะหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ตำนานกว่า 400 ปี ที่ "วัดช้างให้" เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อน จะได้เที่ยวเที่ยวอย่างมีสติ แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดทริป~
2ภัตตาคารอาหารจีน ต้าเหยิน
ขับรถมาถึงเบตงก็เย็นพอดี เราขอเอาสัมภาระไปเก็บก่อนที่โมเดิร์นไทยโฮเต็ล ที่พักใจกลางเมืองเบตง หาของกินง่าย และใกล้ที่เที่ยวเบตง ราคาเป็นกันเองกับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ แค่คืนละ 690 บาทเท่านั้น เก็บของเสร็จแล้วก็ได้เวลากิน! ที่เบตงเนี่ย มีร้านอาหารเยอะมากกก (ก.ไก่อีกล้านตัว) เรียกว่าเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว แต่เราก็จิ้มได้ร้านอาหารเบตงมาร้านนึง นั่นก็คือ "ร้านต้าเหยิน" เป็นภัตตาคารอาหารจีน ราคาไม่แพง มีตั้งแต่ต่ำกว่า 100 บาท ไปจนถึง 300 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนที่ไปกินนะคะ อยู่ห่างจากวงเวียนหอนาฬิกาเพียงแค่ 50 เมตรเท่านั้น (ห่างจากที่พัก 180 เมตร เดินได้สบาย ๆ เลยล่ะ) ซึ่งร้านนี้หลังจากที่ได้ชิมอาหารไปนั้น บอกเลยว่าฟินสุด ๆ อร่อยจัดปลัดไม่บอก ฮ่า ๆ ๆ ใครที่มาเที่ยวเบตงห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด!
เริ่มต้นเมนูแรก "ซี่โครงหมูสวรรค์" อันนี้เด็ดจริง รสชาติออกหวาน ๆ จากการใส่เหล้าจีน กินเป็นกับแกล้มก็อร่อย กินกับข้าวก็หรอยแรง เมนูสอง "ถั่วเจี๋ยน" ถั่วฝักยาวเอามาผัด ผัดใส่อะไรไม่รู้ แต่แฟนบอกว่าอร่อยมาก เด็ดจริง ส่วนเราที่ไม่ชอบกินถั่วฝักยาว ได้ลองชิมเป็นครั้งแรก ก็อร่อยดีนะ รู้สึกว่าถั่วมันนุ่มมาก เนื้อเน้น ๆ เมนูนี้มาเบตงต้องโดน เมนูที่สาม "หมี่ฮกเกี้ยน" อันนี้กินคนเดียว ฮ่า ๆๆ ด้วยความที่บลูเป็นคนชอบกินเส้นอยู่แล้ว (เอามาเหอะเมนูอะไรก็ได้) ถ้าเป็นเส้นบลูจะอร่อยเป็นพิเศษ ร้านนี้ทำหมี่ผัดธรรมดาให้กลายเป็นเมนูพิเศษได้ ให้สิบกะโหลก! ใครจะเดินทางมาเที่ยวเบตง และตามร้านอาหารเบตงเด็ด ๆ ต้องปักหมุดร้านต้าเหยินไว้เลย!
3ถ่ายรูปแสงไฟยามค่ำคืน ณ เมืองเบตง
กินกันอิ่มหนำสำราญแล้ว วันนี้ยังไม่มีรูปเช็คอินที่เที่ยวเบตงกันเลย เราเริ่มเดินหาที่ถ่ายรูปเช็คอิน เห็นว่าแสงไฟยามค่ำคืนที่เบตงก็ทำให้เมืองนี้ดูน่าสนใจ และโดดเด่นอยู่ไม่น้อย ว่ากันแล้วก็ไปถ่ายรูปกันเถอะ (^^)
เราเริ่มเดินมาที่จุดแรก "วงเวียนหอนาฬิกา" เดินกลับมาที่วงเวียนหอนาฬิกาตั้งเด่นเป็นเป็นสง่าคู่กับนกนางแอ่นที่หนีความหนาวมา จากไซบีเรีย จะมีให้เห็นในช่วงเดือนกันยายน - เดือนมีนาคม นักท่องเที่ยวสามารถมาถ่ายรูป ชมความน่ารักของนกนางแอ่นหลายแสนตัวนี้ได้ที่หอฬิกาแห่งนี้
ระหว่างที่เราถ่ายรูปเล่นอยู่ก็มองไปเห็น "ตู้ไปรษณีย์ที่สูงและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" ตรงวงเวียนก็มีอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่โดดเด่นมาก ๆ เลยนั่นก็คือ ตู้ไปรษณีย์ที่สูง และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ใหญ่จริง ๆ เจ้าค่ะคุณพี่ ถ้าไม่เชื่อต้องมาดูเอง เดินต่อมาอีกประมาณ 50 เมตร เราจะเจอ "อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์" อุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขา แห่งแรกของประเทศไทย ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟ ทำให้ผู้คนที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ มักจอดรถแวะไปถ่ายรูปอยู่เสมอ ๆ (การตกแต่งไฟจะถูกปรับเปลี่ยนเรื่อย ๆ ตามเทศกาลต่าง ๆ)
DAY 2
4ชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
ยิ่งตื่นเช้ามากแค่ไหน ชีวิตยิ่งได้กำไรมากเท่านั้น คงจะจริงกับการตื่นตี 4 ของเช้าวันนี้ เริ่มทริปเที่ยวเบตงวันที่ 2 กันเลย~ ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อพาร่างกายของตัวเองมาสัมผัสกับบรรยากาศหนาว และชมความงามของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดของจังหวัดยะลา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่เราอยากให้ทุกคนได้มาจริง ๆ ตื่นเช้าหน่อยแต่รับรองว่าคุ้มค่ามาก ๆ สูดอากาศที่แสนจะบริสุทธิ์ ชมทะเลหมอกที่ขึ้นมาอวดโฉมให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ถ่ายรูปอย่างสนุกสนาน ฟินกับวิวทะเลหมอก 360 องศา
5ร้านเฉาก๊วยวุ้นดำ
ขับรถวนหาที่เที่ยวเบตง จนมาเจอร้านขนมแห่งหนึ่งดูน่าสนใจมาก ๆ จอดสิคะรออะไร! ใครจะไปคิดว่าชีวิตนี้ต้องตื่นมากินเฉาก๊วยก่อนข้าวเช้า สุด ๆ ไปเลย กับ "ร้านเฉาก๊วยวุ้นดำ" ที่เปิดขายตั้งแต่ 6 โมงเช้าและจะขายหมดภายใน 10 โมงเช้า แม่เจ้า! จัดไป 2 ถ้วย (ถ้วยละ 10 บาท) คำแรกที่สัมผัส...ทำให้การกิน เฉาก๊วยของคุณเปลี่ยนไป เพราะเฉาก๊วยที่นี่ไม่เหมือนที่ไหน นิ่มละมุนลิ้นมาก แทบจะละลายในปาก ราคาก็ไม่แพง แต่ขอย้ำว่าคุณต้องมาให้ไว ไม่งั้นคุณจะอดเพราะเขาขายหมดเร็วมาก ว่าแล้วขับรถหาร้านอาหารเบตงเด็ด ๆ กันต่อ โก โก~
6ร้านอาหารเช้าไทซีฮี้
อยู่ห่างจากวงเวียนหอนาฬิกา 50 เมตร (เส้นเดียวกับทางมาอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์) กับร้าน "ไทซีฮี้" สุดยอดร้านอาหารเบตงยามเช้า ร้านนี้เป็นอาหารไทย - จีน ลิ้มรสต้นตำรับติ่มซำ แนะนำว่าให้มาเร็ว ๆ หน่อยนะคะ เพราะ 11 โมงร้านก็ปิดแล้ว ขายดีมาก นึกว่าแจกฟรี
7ถ่ายรูป Street Art
เมืองเบตงมาย่อยกันหน่อย เดินชิลล์เที่ยวเบตงชมเมืองอาร์ต ๆ เราจะมองเห็นศิลปะได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นซอกซอยไหน ก็จะเห็นงาน Street Art อยู่ทั่วทุกมุมกำแพง บวกกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่แล้ว ถือเป็นเสน่ห์ที่มาเติมเต็มกันอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ ว่าแล้วก็ถ่ายรูปเช็คอินเบตงกันซักหน่อยค่ะ
8วัดกวนอิม
ใครจะคิดว่าอำเภอเบตง เมืองเล็ก ๆ แต่มีหลากหลายวัฒนธรรมอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ทั้งชาวพุทธ ชาวมุสลิม และชาวจีน ทำให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และตอนนี้ เราพาทุกคนมาเที่ยวกันที่ "วัดกวนอิม" ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีเจดีย์ 7 ขั้นตั้งเด่นเป็นสง่าเห็นมาแต่ไกล ที่วัดนี้เงียบสงบ แต่ก็มีผู้คนทั้งชาวไทยและชาวมาเลเซีย แวะมากราบ สักการะขอพรกันอยู่เรื่อย ๆ แถมมีมุมถ่ายรูปชิค ๆ ก็เยอะ ไม่เชื่อลองมาเที่ยวเบตงดูสิ~
9วัดพุทธาธิวาส
ที่เบตงใครว่ามีแต่มัสยิด คิดผิดแล้ว วัดก็มีนะเออ~ ไหน ๆ มาถึงเบตงทั้งทีขอเข้าไป "วัดพุทธาธิวาส" กราบสักการะพระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธาน พระพุทธรูปทอง สัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยกันซักหน่อย แอบบอกนิดนึงว่าวัดนี้มีน้องหมา น้องแมวอยู่หลายตัว แถมยังขี้อ้อนซะด้วย คนรักหมาแมวบอกเลยว่าฟินสุด ๆ :)
10สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา
ถึงเวลาต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันแล้ว..ระหว่างเส้นทางกลับไปหาดใหญ่ เราต้องข้าม "สะพานทะเลสาบป่าฮาลา-บาลา" ถือเป็นอีกที่เที่ยวยะลาวิวสวยโคตร! มาถึงตรงนี้ก็แวะมาถ่ายรูปซักหน่อย วิวที่นี่สวยงามตามท้องเรื่อง มีเกาะเล็ก เกาะใหญ่ขึ้นสลับซับซ้อน ตัดสลับกับสีของท้องฟ้า มองแล้วสบายตาสุด ๆ ไปเลย
สรุป Budget คร่าว ๆ
- ค่าที่พัก 1 คืน 690 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 2 คน 1,000 บาท (ซื้อช่วงโปรโมชั่น)
- ค่าเช่ารถ วันละ 1,000 บาท 2 วัน = 2,000 บาท
- (ต้องมีค่ามัดจำในการเช่ารถ 10,000 บาท หักจากบัตรเครดิตได้ ได้เงินคืน หลังจากทำเรื่องคืนรถไปประมาณ 3 วันจ้า)
- ค่าน้ำมัน 1,200 บาท
- ค่ากินรวม 2 วัน ประมาณ 1,500 บาท
รวม ๆ แล้วทริปนี้ 2 คน ตกคนละ 3,200 เพียงเท่านั้น ก็สามารถมาเที่ยวใต้สุดแดนสยามได้แล้ว ><”
ขอบคุณที่ติดตามทริปเที่ยวเบตงของเราสองคนมาจนจบทริปนะคะ การเดินทางมาเที่ยวเบตง จังหวัดยะลาครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโลก เปิดมุมมองอย่างแท้จริง ก้าวผ่านความกลัว ความไม่รู้ ออกมาสัมผัสกับมันด้วยตัวเอง อย่างที่เขาบอกกันว่า "โอเคเบตง" จริง ๆ แล้วมันยิ่งกว่าโอเคอีก มันโคตรดีเลยด้วยซ้ำ ใครที่อยากมาเที่ยวเบตง แนะนำว่ามาได้ตลอดทั้งปีเลยนะ แต่จะฟินสุด ๆ ก็เป็นช่วงกันยายนถึงมีนาคมนี่เนี่ยแหละ ที่นี่เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่เจริญมาก ๆ วิวก็เจริญหูเจริญตา อยู่นาน ๆ อาจจะเจริญอาหาร ด้วย เพราะแต่ละร้านทำกันอร่อยจริง ๆ ใครที่คิดว่าเบตงจะน่ากลัว อ่านบทความนี้จะรู้ว่าไม่เลย ขีดเส้นใต้ว่าไม่น่ากลัวเลยแม้แต่นิด เดินถ่ายรูปชิลล์ ได้สบายมาก ๆ อยากให้ทุกคนได้ลองมาสัมผัสเบตงในมุมมองของแต่ละคนกันกันดูนะคะ บลูรับประกันว่าว่าไม่ผิดหวังแน่นอน “รักเบตง”
เที่ยวกันเพลินจนท้องเริ่มหิว เราขอแนะนำร้านอาหารในยะลา 7 ร้านเด็ดเมืองยะลา หรือตามชิมร้านเด็ดที่หาดใหญ่ กดเข้าไปอ่านเลย 24 ร้านเด็ดย่าน ม.อ. หาดใหญ่ หรือ 12 ที่เที่ยวปัตตานี สุดท้ายนี้..อย่าลืมกดติดตามเรื่องเที่ยวเรื่องกินกับเราได้ที่ Wongnai Travel น้า
