สวัสดีค่ะทุกคนใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตใกล้กรุงคงหนีไม่พ้นเขาใหญ่ สำหรับทริปนี้ขอบอกว่าสายกินห้ามพลาด เพราะพวกเราทีมงาน Wongnai จะขอพาตะลุยกินแบบจัดเต็มกับอาหารหลากสไตล์ กินอิ่ม สุขใจ แถมยังได้บุญ กับโครงการ “FOOD 4 GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย” กับร้านอาหารบนเขาใหญ่ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรนั้น เตรียมกระเพาะให้ว่าง แล้วตามเรามาเลย !
FOOD 4 GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย เป็นโครงการที่ช่วยระดมทุนเพื่อช่วยเหลือเด็กไทยให้ได้รับความสมดุลด้านโภชนาการค่ะ โดยจะมีร้านอาหารชื่อดังในโครงการที่ร่วมด้วย และจะคัดสรรเมนูอาหารพิเศษ ยอดฮิตมีคุณภาพ เข้ามาร่วมเป็นเมนูในโครงการ FOOD 4 GOOD และแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งจากเมนูอาหารร่วมโครงการ ฯ เพื่อไปสมทบทุนช่วยเหลือเด็ก ๆ วันนี้เราเริ่มต้นร้านแรกกันที่ร้าน “อันหยังก็ได้ by เป็นลาว” ร้านอาหารชื่อดังรสชาติท้องถิ่นที่เขาใหญ่ บรรยากาศแบบไทย ๆ ลักษณะร้านเป็นร้านขนาดเล็กคล้ายกับห้องนั่งเล่นของบ้าน โดยเปิดเป็น 2 เวลาของสองมื้ออาหาร คือเช้ากับเย็น


เริ่มต้นมื้อแรกของวันต้องจัดเต็ม สั่งมาแบบเต็มโต๊ะเลยค่ะ รสชาติโดยรวมจะค่อนข้างเข้มข้นถึงเครื่องพอสมควรเลย มีเมนูแบบบ้าน ๆ อย่างแกงลาวเห็ดสามอย่าง, ต้มเปรอะ ให้ลองชิมกัน แต่ที่อยากแนะนำเลยคือเมนู ไก่นาย่างสมุนไพร จานใหญ่ ราคา 220 บาท ทางร้างย่างมาแบบไม่แห้ง มีความชุ่มช่ำของมันนิด ๆ รสชาติกลมกล่อมกำลังพอดี ไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มก็ได้ ซึ่งเมนูนี้เข้าร่วมกับโครงการ FOOD 4 GOOD ด้วยค่ะ โดยทุก 1 จาน จะบริจาค 10 บาท ให้กับน้อง ๆ ที่ขาดแคลนอาหาร อิ่มฟิน แบบได้บุญ กันไปเลย


อิ่มกับอาหารอีสานแล้ว ต้องหาของหวานมาล้างปากหน่อย ไปลุยกันต่อที่ Chocolate Factory เขาใหญ่ เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับคนที่ไปเขาใหญ่ไม่ควรพลาด เพราะรสชาติช็อกโกแลตสุดพรีเมียม บรรยากาศก็ดีอีกต่างหาก เหมาะมากกับคนที่ชื่นชอบช็อกโกแลต เพราะตั้งแต่ทางเดินก็หอมอบอวลกลิ่นช็อกโกแลตที่ทางร้านทำสด อบโชว์กันตรงนั้นเลย ได้ช็อกโกแลตของฝากกลับบ้านไปเพียบ


ที่นี่ไม่ได้มีแค่ช็อกโกแลตเท่านั้น สำหรับใครที่หิวอยากกินของคาว ที่นี่ก็มีร้านอาหารคอยให้บริการด้วย ด้านหน้าห้องอาหารจะมีห้องอบพิซซ่า ทำให้เห็นกันสด ๆ ตีแป้ง อบในเตาตรงนั้น รับรองความสดใหม่ของทุกออเดอร์ เห็นแบบนี้แล้วก็เลยขอจัดเมนู Capricciosa ราคา 380 บาท เป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบ ที่นำไปอบในเตาถ่าน มีเห็ด, แฮม, แองโชวี่, มะกอก และเคเปอร์ให้รสชาติกลมกล่อม และ Chocolate Factory’s Rocket Salad ราคา 220 บาท เมนูจานย่อยที่เป็นเห็ดหอมผัดกับเบคอน พร้อมด้วยซอสราสเบอร์รีและซอสบัลซามิก มีเครื่องเคียงเป็นผักสลัด Rocket สดกรอบ สำหรับสองเมนูนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ FOOD 4 GOOD เช่นกันค่ะ




จบทริปกันด้วยร้านสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ กับ ฟาร์มแดรี่โฮม (Dairy Home) ฟาร์มที่มีคอนเซปต์การเลี้ยงวัวนมแบบเกษตรอินทรีย์ โดดเด่นในเรื่องของนมและโยเกิร์ตแบบออร์แกนิกที่วางขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ข้าง ๆ โรงงานนมจะมีร้าน Dairy Home Organic Outlet ซึ่งจะขายผลิตภัณฑ์การเกษตรออร์แกนิกที่เป็นผลผลิตจากฟาร์ม มีของขายอยู่เพียบเลย ถ้าใครหิวอยากกินแบบจัดหนักที่นี่ก็มีร้านอาหารด้วย บอกเลยว่าเด็ดมาก !


วันนี้ที่ลองหลายอย่าง แต่ขอแนะนำเป็น บุชเชอร์ สเต๊ก ราคา 450 บาท ย่างมาแบบ Medium Rare เนื้อนุ่มละมุนลิ้นมาก ถ้ากินร้อน ๆ รับรองความฟิน ด้านล่างเป็นมันฝรั่งบดทานเข้ากับเนื้อได้อย่างดี ใกล้กันเป็น สปาเกตตีผัดพริกแห้ง ราคา 230 บาท ผัดมาแห้ง ๆ ค่ะ ออกเผ็ดนิด ๆ รสชาติใช้ได้เลย ซึ่งทั้งสองเมนูนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ FOOD 4 GOOD โดยทุก 1 จาน จะบริจาค 10 บาท ให้กับน้อง ๆ ที่ขาดแคลนอาหารด้วยน้า


เป็นยังไงกันบ้างคะกับทริปตะลุยกินในวันนี้ ขอบอกเลยว่านอกจากจะได้ทานอาหารจากร้านชั้นนำในเขาใหญ่แล้ว รายได้ส่วนหนึ่งจากเมนูที่เราทานยังไปช่วยเหลือเรื่องอาหารและโภชนาการของเด็ก ๆ ที่ขาดแคลน ทั้งอิ่มกายและสุขใจ ได้บุญรับช่วงปีใหม่นี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่ www.food4good.in.th ติดตามร้านอาหารเด็ด ๆ และข่าวสารอัปเดตอื่น ๆ ในเมืองโคราชได้ที่เพจ we korat จ้า