กายพร้อม ใจพร้อม กระเป๋าพร้อม กำตังค์ 400 บาทไปตะลุยที่เที่ยวสระบุรี อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ บอกเลยว่าทริปนี้แวนเก็บที่เที่ยวครบ นั่งรถไฟเที่ยวแบบจุก ๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น กิน เที่ยว เล่น ซื้อของฝาก แถมเที่ยวประหยัดงบ พกเงินไป 400 บาทยังมีทอน! ถ้าไม่เชื่อก็ตามมาดูทริป กำเงิน 400 บาท นั่งรถไฟเที่ยวสระบุรี กินจัดหนัก-เที่ยวน้ำตก ไม่เกินงบ! เลยครับผมมม
เริ่มต้นการเดินทางสู่สระบุรีที่ “สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ” สถานีรถไฟที่ตั้งอยู่ถนนเทอดดำริ บริเวณจตุจักร เดินทางสะดวกมีรถไฟฟ้า (BTS) และรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) มุ่งตรงถึงสถานีนี้เลยด้วย นอกจากจะนั่งรถไฟไปเที่ยวสระบุรีได้แล้ว ที่นี่ยังสามารถสัญจรขึ้นเหนือลงใต้ได้อีกด้วย
แผนการเดินทางของเราในวันนี้จะมุ่งหน้าไปสู่สระบุรีโดยจะไม่ลงสถานีสระบุรีแต่จะไปลงสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอยครับ เพราะว่าสถานีนี้มีที่เที่ยวเด็ด ๆ และสามารถเดินทางไปเที่ยวที่อื่นต่อได้ง่าย อย่ารอช้าเราไปซื้อตั๋วรถไฟกัน โดยผมได้รอบ 07.30 น. “ตั๋วรถไฟชุมทางแก่งคอย” (ราคา 50 บาท) ก่อนรถไฟจะมาผมยังพอมีเวลาเหลือ เลยไปหาอะไรรองท้องระหว่างเดินทางจนได้ “ข้าวเหนียวสังขยา” (ราคา 13 บาท) ได้ของกินแล้วเรามุ่งหน้าสู่จุดหมายในวันนี้กันเลย
ระหว่างนั่งรถไฟไปเที่ยวสระบุรีผมได้ใช้ความคิด ได้ชาร์จพลังให้ตัวเอง และยังเห็นวิถีชีวิตของคนมากหน้าหลายตา ผมว่านอกจากราคาถูกแล้วอีกมนต์เสน่ห์ของการนั่งรถไฟคือการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และได้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์กับความสุขที่เราสามารถหาได้จากสิ่งรอบตัว
1สถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย
‘แก่งคอย พี่คอย เหมือนดังชื่อแก่ง~~’ ถึงแล้วครับ “สถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย” พอมาถึงที่นี่ก็ได้สัมผัสอากาศกำลังดี มีลมพัดตลอดแถมไม่มีแดดอีกด้วยครับผม จากสถานีนี้เราจะมาหาข้าวเช้ากินที่ร้านเด็ด เดินไป 10 ก้าวก็ถึง!
2ร้านข้าวหน้าเป็ดเทพบรรทม
เดินออกมาจากสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอยไม่ถึง 10 ก้าวก็จะเจอกับ “ร้านเทพบรรทม” ร้านข้าวหน้าเป็ดเจ้าเด็ดที่เปิดอยู่ในบริเวณโรงแรมเก่า ร้านเปิดตั้งแต่ 10.00-14.00 น. ที่นี่เมนูเด็ดนอกจากเป็ดแล้ว หมูแดงหมูกรอบก็เด็ดไม่แพ้กัน แต่มาเที่ยวกับ Wongnai Travel ไม่เคยธรรมดา รอบนี้เหมือนฟ้าโกรธสวรรค์แกล้งที่ผมได้กิน “ข้าวหน้าเปล่า” (ราคา 10 บาท) ข้าวเปล่าร้อน ๆ ราดน้ำเป็ดสูตรเด็ดคลุกเคล้ากับน้ำตาจนทีมงานสงสารเลยได้เป็ดมาชิ้นนึง กัดเข้าไปรับรู้ได้ถึงความเด็ดกับเนื้อเป็ดที่นุ่ม ไม่เหนียว และน้ำราดรสเข้มข้นฟินสุด ๆ เลยครับ
3ตลาดแก่งคอย
กินแค่ข้าวเปล่าไม่อิ่มผมเลยเดินต่อไปยัง “ตลาดแก่งคอย” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟชุมทางแก่งคอย พอก้าวเท้าเข้าสู่ตลาดก็ได้รับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากพ่อค้าแม่ขายที่ชวนคุยตลอดทาง เป็นบรรยากาศที่น่ารักเป็นกันเองและอบอุ่นมาก ๆ ครับ ที่ตลาดนี้ผมได้ “ขนมครก” (ราคา 20 บาท) ร้อน ๆ จากเตาแถมคุณแม่เจ้าของร้านยังแถมให้อีกด้วย
4วัดแก่งคอย
เดินทะลุตลาดออกมาจะเจอกับ “วัดแก่งคอย” ที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้าม ที่วัดแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญที่มีอายุมากกว่า 200 ปี และมีพระธาตุเจดีย์ศรีป่าสักที่ขึ้นชื่อให้ได้สักการะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต บริเวณหลังพระธาตุจะติดกับแม่น้ำป่าสักทำให้มีลมพัดเย็นตลอดแถมยังถ่ายรูปสวยอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีอนุสรณ์สถานสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของโลกด้วยครับ
5อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
ที่เที่ยวสระบุรีสุดขึ้นชื่อที่ใครมาเที่ยวสระบุรีต้องห้ามพลาด โดยวิธีการไปก็แสนง่าย รอขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดแก่งคอยได้เลย รถจะผ่านทุกชั่วโมงเลยครับ “รถสองแถวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย” (ราคา 30 บาท) นั่งรถสองแถวประมาณ 1 ชั่วโมงจนสุดสายก็จะถึง “อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย” ครับ โดยมี “ค่าเข้าอุทยาน” (ราคา 20 บาท) ด้วยครับ
ต้องบอกเลยว่าที่นี่บรรยากาศดีมาก ๆ ถ่ายรูปสวย ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ สะอาด และที่สำคัญมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเพราะเขาให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และข้อห้ามของที่นี่คือห้ามนำพลาสติกใช้แล้วทิ้งทุกชนิดเข้าไปในอุทยานจึงทำให้ที่นี่สะอาด ใครที่ไปก็ปฏิบัติตามด้วยล่ะครับ ถือเป็นการช่วยรักษาธรรมชาติที่สวยงามกันอีกแรง ที่เที่ยวสระบุรีแห่งนี้จะได้คงความสวยงามไปนาน ๆ
มาถึงน้ำตกทั้งทีเราจะไม่เล่นน้ำก็กระไรอยู่ ผมไม่รอช้าไปเช่าเสื่อเช่าห่วงยางและไปโดดน้ำเลยครับ “ค่าเช่าเสื่อ” (ราคา 20 บาท) “ค่าเช่าห่วงยาง” (ราคา 40 บาท) อุปกรณ์พร้อม ไปหาทำเลเหมาะกันเลยดีกว่า
หลังจากเดินสำรวจตั้งแต่น้ำตกชั้น 1 ถึงน้ำตกชั้น 4 น้ำตกชั้น 4 ทำเลดีสุด ๆ ส่วนน้ำตกชั้น 5-7 ช่วงนี้เป็นฤดูน้ำหลากเจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่ไว้ไม่ให้เข้าไปนั่นเองครับ สนุกได้แต่ต้องปลอดภัยด้วยละครับ แวนเป็นห่วง ;)
เล่นน้ำจนหนำใจอาบน้ำแต่งตัวกลับกรุงเทพฯกัน โดยผมจะไปขึ้นรถสองแถวเข้าไปยังตัวเมืองสระบุรีเพื่อหาอะไรกินและซื้อของฝากกลับบ้านครับ สำหรับใครมาเที่ยวแบบงบประหยัดต้องคำนวณเวลาให้ดีครับ เพราะรถสองแถวรอบสุดท้ายหมด 16.50 น. “ค่ารถสองแถวเมืองสระบุรี” (ราคา 35 บาท)
6สถานีรถไฟสระบุรี
นั่งรถสองแถวจนสุดสายที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระบุรี หรือบขส. นี่แหล่ะครับ เดินไปประมาณ 5-10 นาที ก็จะถึงสถานีรถไฟ ระหว่างทางก็มีของกินมากมายทั้งคาวหวานผมเลยไม่พลาดที่จะหาอะไรกิน ไม่ว่าจะเป็น “น้ำแข็งไส” (ราคา 25 บาท) “หมูปิ้ง” (ราคา 20 บาท) ที่สำคัญมาสระบุรีเมืองดีกะหรี่ดัง ต้องไม่พลาดกะหรี่ปั๊บ ของดีประจำจังหวัดสระบุรี โดยผมได้กะหรี่ปั๊บกลับบ้านจากร้าน “กะหรี่ปั๊บคุณจุ๋ม” ที่มีไส้ให้เลือกมากมายแถมราคาถูก ชิ้นละ 7 บาท เท่านั้น! ผมเลยจัดไปเลย 4 ชิ้น “กะหรี่ปั๊บ 4 ชิ้น” (ราคา 28 บาท)
ของฝากพร้อม เดินไปขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯกันครับ ระหว่างทางก็เจอสาคูไส้หมูเจ้าเด็ด “นิดสาคูไส้หมู” สาคูและข้าวเกรียบปากหม้อทำร้อน ๆ พร้อมเสิร์ฟ แม่ค้าใจดีมาก ๆ เลยครับ “สาคูไส้หมู” (ราคา 30 บาท)
โอเคครับถึง “สถานีรถไฟสระบุรี” แล้วครับ ผมไปซื้อตั๋วกลับกรุงเทพฯรอบ 18.00 น. “ตั๋วรถไฟกรุงเทพฯ" (ราคา 40 บาท) ซื้อตั๋วรถไฟเสร็จฝนตกพอดีเลยครับ ดีนะที่ผมวางแผนการเดินทางมาเป็นอย่างดี
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวสระบุรี
จบทริปที่เที่ยวสระบุรีแบบคูล ๆ กับเงินเหลือกลับบ้านตั้ง 39 บาท! สิริรวมทริปนี้ผมใช้เงินเพียง 361 บาท ก็เที่ยวได้ครบเต็มอิ่มในวันเดียว สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวสัมผัสธรรมชาติและความน่ารักของผู้คนก็ กำเงิน 400 บาท มาเที่ยวสระบุรี ได้เลย โดยเฉพาะตามทริป กำเงิน 400 บาท นั่งรถไฟเที่ยวสระบุรี กินจัดหนัก-เที่ยวน้ำตก ไม่เกินงบ! นอกจากนี้แล้วผมยังมี 5 ร้านอาหารสระบุรีเจ้าเด็ด ที่อยากแนะนำให้เพื่อนไปลิ้มลองกัน ส่วนใครยังเที่ยวไม่สะใจก็สามารถไปตามทริป เที่ยวมวกเหล็ก ได้เลยครับ ส่วนครั้งหน้าอยากให้ผมพาไปเที่ยวตามงบที่ไหนบอกผมได้ที่ Wongnai Travel เลยครับ เจอกันใหม่ทริปหน้า บ๊ายบายจ้ะ~