รวม 7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต!
  1. รวม 7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต!

รวม 7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต!

อยากเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่อยากออกนอกประเทศ รวม 7 ที่เที่ยวในไทยให้ฟีลเหมือนไปเมืองนอก ทั้งวิว ภูมิอากาศ และบรรยากาศครบ จองง่าย เที่ยวสบายกับ Gother!
writerProfile
29 เม.ย. 2025 · โดย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทรนด์ท่องเที่ยวภายในประเทศได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะสถานที่ที่ให้บรรยากาศคล้ายกับการเดินทางไปต่างประเทศ ความสะดวกสบายที่ไม่ต้องขอวีซ่า ไม่ต้องแลกเงิน หรือจัดกระเป๋านาน ๆ คือจุดเด่นที่ทำให้การเที่ยวในไทยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ วันนี้ Wongnai Travel รวมมาให้แล้ว กับ 7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต! ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเล หมู่บ้าน หรือสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายยุโรปและเอเชียตะวันออก รับรองว่าถูกใจสายท่องเที่ยวอย่างแน่นอน และที่สำคัญเรายังมาพร้อมกับ Gother แพลตฟอร์มจองทริปท่องเที่ยวสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ ที่จะช่วยให้ทริปท่องเที่ยวของคุณเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นทริปวันหยุดยาวหรือทริปสั้น ๆ Gother พร้อมพาคุณไปเปิดโลกใหม่ในประเทศไทย ที่คุณอาจไม่เคยคิดว่าจะมีบรรยากาศเหมือนเมืองนอกได้ขนาดนี้ เตรียมเก็บกระเป๋าให้พร้อมแล้วไปเที่ยวกันได้เลย

7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก

7 ที่เที่ยวในไทยเหมือนไปเมืองนอก

1. ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน - เสน่ห์เหมือนสวิตเซอร์แลนด์

ปางอุ๋ง จ.แม่ฮ่องสอน

บรรยากาศที่ปางอุ๋งเต็มไปด้วยความเงียบสงบของทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยทิวสนสูง อากาศเย็นสบายตลอดปี คล้ายกับหมู่บ้านในสวิตเซอร์แลนด์ กิจกรรมยอดนิยมได้แก่ การพายเรือชมหมอกยามเช้า และการพักในโฮมสเตย์ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ

แนะนำให้ตื่นเช้าประมาณตีห้าเพื่อพายเรือชมสายหมอกที่ลอยคลอเคลียเหนือผิวน้ำ เป็นภาพที่สวยราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาด จุดท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ บ้านรักไทยและถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน

2. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ - ลุคเหมือนชนบทยุโรป

ทิวเขาเรียงรายและสายหมอกยามเช้า ทำให้เขาค้อเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ให้ฟีลเหมือนชนบทในยุโรป ไร่ชา คาเฟ่ และที่พักสไตล์ยุโรปเหมาะกับสายถ่ายรูปสุด ๆ

แนะนำให้ไปช่วงหน้าหนาวเพื่อสัมผัสลมเย็นและวิวหมอกสีขาว แวะชมพระตำหนักเขาค้อ ไร่ GB หรือคาเฟ่ยอดนิยมอย่าง The Piney Bistro Cafe ที่มีวิวหลักล้านให้เก็บภาพสุดประทับใจ

3. สวนดอกไม้ จ.เชียงใหม่กลางทุ่งลาเวนเดอร์เกาหลี

ไม่ว่าจะเป็น I Love Flower Farm หรือม่อนแจ่ม คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นอายโรแมนติกสไตล์เกาหลี ทุ่งดอกไม้สีสด คาเฟ่ชิค ๆ และวิวทิวเขาสุดลูกหูลูกตา ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เพราะดอกไม้จะบานเต็มที่ บางสวนมีชุดฮันบกให้เช่าเพื่อเพิ่มความอินเหมือนอยู่เกาหลีอย่างแท้จริง

4. เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 จ.กาญจนบุรีย้อนยุคไทยสมัย ร.๕

เมืองย้อนยุคให้คุณได้สัมผัสถึงบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวสยามในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยรัชกาลที่ ๕ หรือ ร.ศ.124 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงประเทศหลายด้าน ทั้งการเลิกทาส หรือการรับวัฒนธรรมอื่นเข้ามา

โดยมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ สะพานหัน หอชมเมือง เรือนคหบดี เรือนหมู่ เรือนแพ และ ห้องเล่าเรื่อง และยังมีกิจกรรมให้เลือกทำมากมาย เช่น ถ่ายรูปย้อนยุค บริการรถลาก แต่งชุดไทย หรือ ชิมอาหารโบราณ แนะนำว่าอย่าไปเย็นเกิน เพราะร้านค้าจะเริ่มทยอยปิด

5. ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรีความงดงามแบบเอเชียคลาสสิก

ปราสาทสัจธรรม จ.ชลบุรี

วัดไม้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะเอเชียตะวันออก เทคนิคการก่อสร้างใช้ไม้ล้วน ไม่ใช้ตะปูจากญี่ปุ่น ผสมผสานกลิ่นอายจีนและบาหลี ตัวปราสาทถูกแกะสลักอย่างประณีต ทำให้ทุกมุมเป็นงานศิลป์ถ่ายรูปได้ไม่รู้จบ

กิจกรรมที่น่าสนใจมีทั้งนั่งช้างชมวิว การแสดงวัฒนธรรมไทย และล่องเรือชมวิวพระอาทิตย์ตก เป็นอีกหนึ่งที่ที่ทั้งสวย สงบ และเต็มไปด้วยคุณค่าทางจิตวิญญาณ

6. Hinoki Land จ.เชียงใหม่ - แลนด์มาร์กสไตล์ญี่ปุ่น

ให้ฟีลเหมือนเดินอยู่ในเกียวโต มีประตูโทริอิสีแดง ศาลาไม้สนฮิโนกิแท้ และชุดกิโมโนให้เช่าเดินถ่ายรูปท่ามกลางวิวภูเขาและอากาศเย็นสบาย เหมาะกับสายชิลและสายถ่ายรูปที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ต้องใช้พาสปอร์ต

จุดเช็กอินยอดฮิตคือสะพานไม้สีแดงที่ทอดยาวผ่านสวนสน ซึ่งถ่ายภาพออกมาแล้วเหมือนอยู่ญี่ปุ่นแท้ ๆ ไปช่วงเย็นแสงจะนุ่มสวยมาก

7. แกรนด์แคนยอน จ.เชียงใหม่ฟีลอเมริกาตะวันตก

ที่นี่คือแหล่งผจญภัยกลางธรรมชาติที่มีหน้าผาสูงชัน และน้ำสีเขียวมรกตให้ลงเล่น กิจกรรมยอดนิยม เช่น พายเรือ ดำน้ำ กระโดดหน้าผา เหมาะสำหรับสายลุยที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวธรรมดาให้กลายเป็นแอดเวนเจอร์

มีบริการเครื่องเล่น Water Park สำหรับครอบครัว และคาเฟ่ริมผาที่ให้มุมมองพาโนรามาแบบสุดปัง ถ้าชอบแนวลุย ๆ สนุก ๆ ต้องไม่พลาด

ระยะเวลาเหมาะสมในการไปเที่ยว

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกเดินทางไปสถานที่เที่ยวฟีลเมืองนอกในไทยนั้นแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค หากอยากสัมผัสอากาศเย็นและวิวธรรมชาติสวย ๆ คล้ายยุโรปหรือญี่ปุ่น ควรเลือกเดินทางช่วงปลายฝนต้นหนาวไปจนถึงฤดูหนาว (ประมาณตุลาคม - กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศสดชื่น ท้องฟ้าเปิด ถ่ายรูปออกมาสวยสุด ๆ ส่วนใครอยากได้ฟีลทะเลสไตล์มัลดีฟส์หรือบาหลี ช่วงหน้าร้อน (มีนาคม - พฤษภาคม) ก็เหมาะสุด ๆ กับกิจกรรมริมหาดและน้ำทะเลใส ๆ วางแผนให้ดี เลือกช่วงเวลาให้เหมาะ รับรองว่าได้รูปและบรรยากาศสมใจแน่นอน

อย่าลืมเช็กทุกอย่างก่อนออกเดินทาง

ก่อนออกเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศเมืองนอกในไทย อย่าลืมตรวจสอบข้อมูลของแต่ละสถานที่ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นเวลาเปิด - ปิด การเดินทาง หรือกฎระเบียบเฉพาะจุด เพราะบางแห่งอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาเข้าชมหรือการแต่งกาย

นอกจากนี้ควรเตรียมเสื้อผ้าให้เหมาะกับสภาพอากาศ พกกล้องถ่ายรูปให้พร้อม และที่สำคัญ อย่าลืมเคารพสถานที่และวัฒนธรรมท้องถิ่น เที่ยวไทยยังไงให้ได้ฟีลเมืองนอก อยู่ที่ใจพร้อม และการเตรียมตัวที่ดี เท่านี้ก็เปลี่ยนทริปธรรมดาให้กลายเป็นความทรงจำพิเศษได้แล้ว

การท่องเที่ยวในประเทศไทยยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมาก โดยเฉพาะสถานที่ที่จำลองบรรยากาศเสมือนอยู่ต่างประเทศ ทั้งวิว ทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม และกิจกรรมหลากหลายที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เปิดโลกใหม่โดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต

อย่ารอให้วันหยุดผ่านไปแบบธรรมดา ลองวางแผนทริปใหม่กับ Gother แพลตฟอร์มที่รวบรวมที่เที่ยวสุดเก๋ จองตั๋วเครื่องบินได้ง่าย เลือกที่พักได้หลากหลาย และให้คำแนะนำครบจบในที่เดียว