ทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันบ่อย ๆ กับคำว่า ‘วัยรุ่น GEN Y’ หรือไม่ก็ ‘วัยรุ่น GEN Z’ เพราะในสมัยนี้มีคนหลายกลุ่มหยิบยกมาพูดเพื่อที่จะแบ่งช่วงอายุให้เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจที่จะนำแนวคิดนี้มากำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแต่ละ Gen หรือที่ย่อมาจาก Generation ต่างก็มีสภาพสังคมที่ผลักดันให้แต่ละช่วงวัย เติบโตมาในรูปแบบที่ต่างกันออกไป ทำให้ความคิด ขนบ และการปฏิบัติตัวก็จะแตกต่างไปตามเจเนอเรชันนั้น ๆ
วันนี้ Wongnai Beauty จึงจะมาอธิบายให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ 5 เจเนอเรชันหลัก ๆ ว่าเป็นช่วงอายุเท่าไร มีความคิดและความเชื่ออย่างไร เพราะถ้าหากเราได้ร่วมทำงานกับคนต่างเจเนอเรชันจะได้เข้าใจในความแตกต่างนั้น รวมไปถึงไอเท็ม หนัง และเพลงยอดฮิตของวัยรุ่นในแต่ละเจเนอเรชันเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งหากเราอยู่ในช่วงวัยนั้นก็ต้องมีร้อง อ๋ออออ! กันแน่นอน งั้นเรามาเริ่มทำความเข้าใจ และหวนนึกถึงช่วงวัยของเราไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่าา~
ล้วงลึก 5 Generations พร้อม 'ไอเท็ม' ยอดฮิต ที่เกาะติดชีวิตในแต่ละเจน!
1.Baby Boomer : เกิดในปี พ.ศ. 2489 – 2507
สงสัยกันใช่ไหมล่ะคะว่าทำไมชื่อของคนกลุ่มนี้ถึงไม่มีคำว่า Generation นำหน้า จริง ๆ แล้วกลุ่มนี้ก็สามารถเรียกได้อีกชื่อว่า Generation B ค่ะ แต่สาเหตุว่าทำไมเขาจึงเรียก Baby Boomer กันนั่นเป็นเพราะ Baby Boomer อยู่ในช่วงอายุที่เกิดในปี พ.ศ. 2489 – 2507 กล่าวคือหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบพอดีเลยค่ะ (สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2482 - 2488) จากภาวะสงคราม แน่นอนว่ามีการสูญเสียประชากรมากมายมหาศาล ทำให้หลังจากสงครามเกิดค่านิยมมีลูกดก และปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Baby Boom หมายถึง อัตราการเกิดพุ่งขึ้นสูงหลังจบสงคราม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาที่มีทารกเกิด 3 ถึง 4 ล้านคนในแต่ละปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2489 - 2507 การเกิดเหล่านี้นำไปสู่จำนวนประชากร Baby Boomer รวมเกือบ 72.5 ล้านคน ซึ่งจัดว่าเป็นกลุ่มประชากรที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาขณะนั้นเลยนะคะ
- ลักษณะนิสัย : เคร่งครัดในขนบธรรมเนียม จริงจังในหน้าที่ ไม่ชอบการอยู่บ้านเฉย ๆ เพราะทำงานมาทั้งชีวิต เคารพกฏเกณฑ์ มีความอดทนสูง สู้งาน ยึดถือระเบียบที่ตั้งมั่นอยู่แล้ว ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่า ‘อนุรักษ์นิยม’
- ไอเท็มยอดฮิต : วิทยุทรานซิสเตอร์, การส่งจดหมาย
- หนังดังต้องเคยดู! : อวสานอินทรีแดง (2506), ใจเพชร (2506), ปูจ๋า (2510)
2.Generation X : เกิดในปี พ.ศ. 2508-2522
มาต่อกันที่ชาว Generation X เป็นผู้ที่เกิดในช่วงอายุของปี พ.ศ. 2508-2522 กลุ่มวัยนี้คือคนที่โตขึ้นโดยเห็นการเปลี่ยนแปลงจาก Baby Boomer มาสู่ Generation Y ทำให้จะมีนิสัยที่ผสมผสานกันของสองยุค เจเนอเรชันนี้มีอีกชื่อเรียกที่สุดแสนจะน่ารักนั่นก็คือ ยับปี้ (Yuppie) ย่อมาจาก Young Urban Professionals หมายถึง กลุ่มคนที่เข้ามาทำงานในเมือง ซึ่งคำว่ายับปี้นั้นถูกพบเห็นครั้งแรกในสมัยการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกันเมื่อปี 2527 โดยจำกัดความไว้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะมีลักษณะนิสัยที่ไม่สนใจผู้อื่น ไม่ขวาไม่ซ้าย ดำรงชีวิตอยู่ด้วยความพึงพอใจของตนเองในการกินการใช้ของที่มีระดับจากการทำงานหนัก เพราะสิ่งที่สำคัญของชาวยับปี้คือ ‘เงิน’ นั่นเอง
- ลักษณะนิสัย : มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง รักความก้าวหน้า มองโลกตามความเป็นจริง เป็นตัวของตัวเอง เปิดกว้างและรับฟังความเห็นและข้อติติง มักหากิจกรรมเพื่อทำให้ตัวเองดูดีอยู่เสมอ เช่น การออกกำลังกาย เพราะยังมีความห่วงแหนความเป็นหนุ่มสาว
- ไอเท็มยอดฮิต : เพจเจอร์, วอล์คแมน, เทปคาสเซ็ท
- หนังดังต้องเคยดู! : ปูจ๋า (2510), อินทรีทอง (2513), แม่นาคพระโขนง (2521)
3.Generation Y : เกิดในปี พ.ศ. 2523 - 2540
ชาว Generation Y หรือ Millennial เป็นผู้ที่เกิดในช่วงอายุของปี พ.ศ. 2523-2540 ถือว่าเติบโตในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก และจัดอยู่ในสังคมเทคโนโลยีกลุ่มแรก ดังนั้น ชาว Generation Y จะมีความสามารถที่หลากหลาย เรียนรู้และพัฒนาเร็ว หากพูดถึงโซเชียลมีเดียเรียกได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นกลุ่มที่ติดโซเชียลอย่างหนักและเล่นโซเชียลเป็นหลัก ๆ เลยค่ะ และในปัจจุบันกลุ่มคนเหล่านี้กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่กำลังแสวงหาความสุขและความมั่นคงในกับชีวิต ทำให้ทางด้านธุรกิจส่วนมากจะให้ความสำคัญกับกลุ่มคนเหล่านี้ อาทิเช่น ร้านคาเฟ่ที่เปิดกันอย่างไม่หวาดไม่ไหว ลูกค้าหลัก ๆ ที่จะเข้าไปถ่ายรูปชิค ๆ จิบกาแฟเบา ๆ ก็คือชาว Generation Y นี่เองค่ะ รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาว Generation Y เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ต้องการหาความมั่นคงให้ชีวิต และบ้านหรือที่อยู่อาศัยก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สามารถถือได้ว่าชีวิตมั่นคง และคนกลุ่มนี้จะลงทุนลงแรงกับบ้านของตน เพราะยึดว่าบ้านคือสถานที่ที่เป็น Safe Zone จะต้องทำให้ดีและน่าอยู่ที่สุดตามความพึงพอใจของตนนั่นเองค่ะ
- ลักษณะนิสัย : กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตน ชื่นชอบความท้าทาย เชื่อมั่นในตนเองสูง ทะเยอทะยาน มี Work Life Balance เพื่อสร้างสมดุลเวลาให้กับตนเอง มักจะเปรียบเทียบตนเองกับผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้ว เนื่องจากมีความอยากที่จะประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย
- ไอเท็มยอดฮิต : เกมบอย, โทรศัพท์มือถือ
- หนังดังต้องเคยดู! : กลิ่นสีและกาวแป้ง (2531), ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (2533), โลกทั้งใบให้นายคนเดียว (2538)
4.Generation Z : เกิดในปี พ.ศ. 2541 - 2555
ชาว Generation Z เป็นผู้ที่เกิดในช่วงอายุของปี พ.ศ. 2541-2555 กำลังจะกลายมาเป็นผู้บริโภคหลักกลุ่มต่อไป ซึ่งถือว่าจะมีอิทธิพลอย่างยิ่งในอนาคต แม้สภาพสังคมตอนนี้เป็นเป็นสังคมผู้สูงอายุ แต่ Generation Z จะมีบทบาทในการเลือกซื้อสินค้าให้ผู้สุงอายุอีกทีหนึ่ง และเพราะเกิดในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าหากไม่มีเทคโนโลยีโลกจะเป็นเช่นไร ชาว Generation Z จะมีความเปิดกว้างทางความคิด ยอมรับความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ สีผิว เพศ ศาสนา หรือประเพณี กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าพูด และรับฟังด้วยเหตุผล
- ลักษณะนิสัย : มีความเป็นอิสระ กล้าแสดงออก กล้าได้กล้าเสีย เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ให้คุณค่ากับตัวเองและครอบครัวเป็นสำคัญ รวมไปถึงให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตเช่นกัน มีความกระตือรืนร้นที่จะแก้ไขปัญหา ทั้งด้านสิทธิมนุษยชน การเมือง ความไม่เท่าเทียม
- ไอเท็มยอดฮิต : สมาร์ตโฟน, หูฟังแบบมีสาย, โน้ตบุ๊ค
- หนังดังต้องเคยดู! : แฟนฉัน (2546), ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ (2547), สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก (2553)
5.Generation Alpha : เกิดในปี 2555 เป็นต้นไป
สุดท้ายกับชาว Generation Alpha เป็นผู้ที่เกิดในช่วงอายุของปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป พวกเขาเติบโตขึ้นมาในโลกของเทคโนโลยี ทำให้การเลี้ยงดูจะแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ อย่างสิ้นเชิง ทักษะการใช้เทคโนโลยีก็จะเริ่มต้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว เจเนอเรชันนี้จะมีขนาดที่ใหญ่และหลากหลายทางวัฒนธรรม พวกเขาเชื่อมโยงทั่วโลกเข้าด้วยกัน
- ลักษณะนิสัย : มีการเรียนรู้รวดเร็วทางด้านเทคโนโลยี รักอิสระ กล้าออกนอกกรอบเพื่อทำสิ่งใหม่ ๆ ขาดความยืดหยุ่นและห่างไกลธรรมชาติ
- ไอเท็มยอดฮิต : VR, หูฟังไร้สาย
- หนังดังต้องเคยดู! : ฉลาดเกมส์โกง (2560), 4Kings (2564) and to be continue...
และจากทั้งหมดจะเห็นได้ว่าแต่ละเจเนอเรชันก็จะมียุคสมัยและสิ่งแวดล้อมในการเติบโตที่แตกต่างกัน ถ้าจะให้มองเห็นง่าย ๆ เลยก็อย่างไอเท็มฮิตในแต่ละช่วงที่ไม่เหมือนกันแต่ก็มีเสน่ห์กันคนละแบบ จากการส่งจดหมายก็เปลี่ยนมาเป็นส่งข้อความผ่านสมาร์ตโฟนที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และยังไม่พูดถึงการรับรู้ข้อมูลข่าวสารแต่ละยุค ที่อาจจะได้รับฟังมาในรูปแบบที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ชุดข้อมูลในคลังความคิดของเรานั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราควรที่จะเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละช่วงวัย และรับฟังกันและกัน คนรุ่นใหม่อาจจะต้องทำความเข้าใจในยุคสมัยของการเติบโตของคนรุ่นเก่า และคนรุ่นเก่าก็อาจจะต้องเปิดใจรับฟังความคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างแฮปปี้นั่นเองค่ะ
