12 โทนสีฟิล์ม สำหรับมือใหม่ เลือกอย่างไรให้โดนใจ
  1. 12 โทนสีฟิล์ม สำหรับมือใหม่ เลือกอย่างไรให้โดนใจ

12 โทนสีฟิล์ม สำหรับมือใหม่ เลือกอย่างไรให้โดนใจ

กล้องฟิล์มก็มีแล้ว แล้วจะเลือกฟิล์มยังไงให้รูปออกมาสวยปัง วันนี้ Wongnai Beauty มาแชร์คู่มือเลือกฟิล์มที่มือใหม่ต้องรู้ !
writerProfile
21 พ.ค. 2021 · โดย

หลังจากที่สาว ๆ หลายคนได้ครอบครองกล้องฟิล์มกันบ้างแล้ว ก็อาจจะเกิดคำถามว่า เอ๊ะ เราควรจะเลือกฟิล์มแบบไหนดี หรือก่อนจะเลือกฟิล์มต้องรู้อะไรบ้าง บอกเลยว่านอกจากการเลือกกล้องแล้ว การเลือกฟิล์มสักม้วนก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ เพราะว่าถ้าโทนสีไม่ถูกใจเนี่ย ไม่สามารถมาแก้ได้ทีหลังแล้วน้า ต้องถ่ายจนหมดม้วนซะก่อนถึงจะรู้ว่าภาพออกมาเป็นยังไง แถมถ้าล้างออกมาได้รูปไม่ถูกใจล่ะก็เซ็งไปหลายวันเลย แต่ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะถ้าอ่านบทความนี้จบ หยิบกล้องตัวเก่ง เลือกฟิล์มที่ใช่ แล้วออกไปถ่ายกันโลด รับรองรูปสวยแน่!

ก่อนซื้อฟิล์มต้องรู้อะไรบ้าง?

เสน่ห์ของกล้องฟิล์มก็คือฟิล์มจริงมั้ยล่ะคะ ซึ่งฟิล์มก็มีให้เลือกด้วยกันหลายโทนหลายแบบเลย แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องเลือกฟิล์มแบบไหน? ก่อนอื่นเราต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าเราจะถ่ายอะไร และชอบโทนสีแบบไหน เมื่อเรารู้แล้วว่าเราจะถ่ายอะไรก็จะทำให้เราเลือกโทนสีของฟิล์ม และ ความไวแสงได้อย่างเหมาะสม เพราะสภาพแสง หรือสภาพอากาศมีผลต่อรูปถ่ายมาก ๆ ถ้าเลือกได้อย่างถูกต้องก็จะทำให้ภาพของเราไม่มืดหรือสว่างจนเกินไป สำคัญมากที่เราต้องรู้ คือ วันหมดอายุ ซึ่งฟิล์มแต่ละกล่องจะระบุวันหมดอายุไว้ที่ข้างกล่อง แล้วฟิล์มที่หมดอายุแล้วถ่ายต่อได้มั้ย? คำตอบคือได้ค่ะ แต่จะให้โทนสีที่ผิดเพี้ยนไป เกิดเป็นความสวยงามไปอีกแบบ ซึ่งแล้วแต่คนชอบเลย

ฟิล์มที่มีขายในท้องตลาดมีกี่ประเภท และแตกต่างกันอย่างไร?

ถ้าเราแบ่งตามสีของฟิล์ม มี 2 แบบ นั่นคือ ฟิล์มขาว-ดำ ที่ถ่ายออกมาแล้วได้รูปขาว-ดำนั่นเอง และฟิลม์สี ที่ถ่ายออกมาแล้วมีสีตามที่เห็น ซึ่งมีให้เลือกกันหลายแบบ และถ้าเราแบ่งตามขนาดที่ปัจจุบันนิยมใช้ คือ 35 MM เป็นขนาดที่นิยมใช้กันมากที่สุด สามารถถ่ายได้ 36 รูป มีขนาดรูปอยู่ที่ 36x24 mm ใช้ได้กับกล้องทั่วไป ข้อดีของฟิล์มขนาดนี้ คือ หาซื้อได้ง่าย พกพาสะดวก และมีให้เลือกเยอะ ต่อมาคือขนาด 120MM เหมาะกับกล้องที่มีขนาดใหญ่ เมื่อถ่ายแล้วได้รูปหลายขนาด แต่ส่วนมากจะเป็นขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่ง 1 ม้วน สามารถถ่ายได้ 12 รูป ข้อดีคือภาพมีความคมชัดกว่าขนาด 35MM แต่ข้อเสียคือฟิล์มมีขนาดใหญ่ เมื่อใส่กับกล้องขนาดใหญ่ทำให้ไม่สะดวกต่อการพกพา และ ฟิล์ม 110MM เป็นฟิล์มขนาดเล็กที่ผลิตมาใช้กับกล้องขนาดเล็ก สามารถถ่ายได้ 12 และ 24 รูป ข้อเสียคือหายาก และมีราคาแพง

ISO คืออะไร?

ถ้าเราสังเกตตามข้างกล่องฟิล์ม เราจะเห็นตัวเลข 100, 200 สงสัยกันมั้ยล่ะคะ ? ว่าตัวเลขนั้นคืออะไร ตัวเลขนั้นเป็นการบอกถึงความไวแสงค่ะ ซึ่งตัวเลขน้อยหมายถึง ความไวแสงต่ำ เกรนน้อย ภาพละเอียด และตัวเลขที่มากหมายถึง ความไวแสงสูง เกรนชัด ดังนั้นเราควรเลือก ISO ของฟิล์มให้เหมาะสมกับสภาพแสงที่เราต้องการถ่าย ทริคในการเลือกนั้นก็ง่ายมาก ๆ ถ้าเราต้องการถ่ายในที่ที่มีแดด เราสามารถเลือก ISO ได้ตั้งแต่ 100-400 แต่ถ้าเราต้องการถ่ายในที่แสงน้อย หรือที่มืด ควรเลือก ISO ตั้งแต่ 800 ขึ้นไปเลย สรุปคือ ถ้าต้องการถ่ายที่แดดจ้า ให้เลือกเลขน้อย ๆ ถ้าต้องการถ่ายที่มืดให้เลือกตัวเลขสูง ๆ จ้า

12 โทนสีฟิล์มแนะนำ

Agfa Vista 400

Agfa Vista 400


เริ่มที่ตัวแรก Agfa Vista 400 หลายคนชอบโทนสีของฟิล์มตัวนี้มาก ให้โทนสีที่สด ถ่ายในวันแดดจัด บอกเลยว่าสวยมาก ตอนนี้ใครมีตัวนี้อยู่ต้องรีบกอดไว้แน่น ๆ เลยค่ะ เพราะทางบริษัทเค้าประกาศเลิกผลิตแล้ว ทำให้ราคาสูงขึ้น ใครอยากได้ต้องออกตามหากันหน่อยจ้า

เหมาะกับ : ชอบ Contrast จัด สีสันสมจริง

เหมาะกับแนว : Portrait, Street

ราคา : 250-300 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 7.5 บาท)

Cine Still 800

Cine Still 800


ฟิล์มระดับโปรที่ถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีเยี่ยม Cine Still 800 ด้วยความที่ ISO สูงมาก ไม่แปลกเลยค่ะที่จะถ่ายในที่มืดได้ดี แต่อาจจะต้องระวังในที่แสงจัดสักหน่อย เพราะมีความเสี่ยงที่รูปจะเสียได้ แต่ถ้าเอาไปถ่ายคนล่ะก็ ผิวเนียบกริบ ถ่ายไฟกลางคืน หรือในสตูดิโอ ได้รูปสวยแน่นอน ใครมองหาฟิล์ม ISO สูง ถ่ายตอนกลางคืนต้องตัวนี้เลยจ้า

เหมาะกับ : ถ่ายในที่มืด หรือที่มีแสงไฟนีออน

เหมาะกับแนว : Portrait, Lighting, Studio

ราคา : 450-480 บาท ( 36 รูป เฉลี่ยรูปละ 13.4 บาท)

Kodak Color Plus 200

Kodak Color Plus 200


ฟิล์มติดกระเป๋า Kodak Color Plus 200 ที่อยู่คู่กับเรามานานแสนนาน ในยามที่เรางบน้อย ให้นึกถึงฟิล์มตัวนี้เลยค่ะซิส ราคาเบา ๆ จะใช้ในยามแก้ขัด หรือใช้ถ่ายจริงจังก็ยังไหว ใช้ได้ดีในยามแดดจัด สีอาจจะติดเหลืองไปสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับราคาแล้ว ถือว่าเป็นพระเอกตลอดกาลได้เลย

เหมาะกับ : ถ่ายตอนกลางวัน ในที่แสงเยอะ ๆ

เหมาะกับแนว : Portrait, Landscape, Street

ราคา : 100-130 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 3.6 บาท)

Kodak Ektar 100

Kodak Ektar 100


ฟิล์มเกรดโปรอีกหนึ่งตัว Kodak Ektar 100 ที่ทางค่ายเคลมมาเลยว่าเป็นฟิล์มที่ให้เกรนละเอียดที่สุดในตอนนี้ ซึ่งก็จริงอย่างที่เค้าว่าเลย เพราะถ่ายออกมาแล้วรูปดีเหลือเกินค่ะคุณ ยกให้เป็นงานดีงานละเอียดเลยก็ว่าได้ เหมาะกับวันที่แเดดจัด ต้องสีสันจัดจ้าน ถ่ายคนก็ผิวเนียนสวยเหลือเกินจ้า

เหมาะกับ : Contrast จัด เกรนละเอียด โทนอมฟ้า

เหมาะกับแนว : Portrait, Landscape, Street

ราคา : 240-270 บาท (36 เฉลี่ยรูปละ 7.5 บาท)

Kodak Portra 160

Kodak Portra 160


Kodak Portra 160
ให้โทนสีที่สวยสมจริง บอกเลยว่างานละเอียดไม่แพ้ตัวอื่น ให้ ISO 160 มาแปลกกว่าตัวอื่น ใช้ถ่ายได้ในแสงทั่วไปเลย ให้ความรู้สึกภาพที่นุ่ม ๆ แต่ยังคงความสีจัด และแสงไม่แข็งจนเกินไป เป็นอีกหนึ่งตัวที่ถ่ายอะไรก็ออกมาสวยหมด

เหมาะกับ : Contrast จัด เกรนละเอียด โทนอมฟ้า

เหมาะกับแนว : Portrait ,Landscape, Street

ราคา : 240-270 บาท (36 รูป เฉลี่ยนรูปละ 7.5 บาท)

Kodok Portra 400

Kodok Portra 400


Kodok Portra 400
งานละเอียดคล้ายกันกับ Kodak Portra 160 ต่างกันที่ ISO นั่นเอง ทำให้เจ้าตัวนี้สามารถถ่ายในที่มืดได้ดีกว่า ถ้านำไปถ่ายคนสีผิวที่ได้จะออกอมชมพูอยู่บ้าง เหมาะกับการถ่ายแฟชั่น หรืองานสำคัญ

เหมากับ : Contrast จัด เกรนละเอียด โทนอมฟ้า

เหมาะกับแนว : Portrait, Landscape, Street

ราคา : 240-270 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 7.5 บาท)

Lomography 100

Lomography 100


งานสีสดต้องมาค่ะ Lomography 100 ใครชอบสีสด บอกเลยว่าเจ้าตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ISO เหมาะกับถ่ายในวันที่แดดจัด ให้สีสวย แต่ไม่จัดจนเกินไป ยังคงความนุ่มและสบายตาอยู่ เหมาะกับการถ่ายคนหรือถ่ายแฟชั่น

เหมาะกับ : สีสันจัดจ้าน ถ่ายในวันที่มีแดดจ้า

เหมาะกับแนว : Portrait, Street

ราคา : 170-200 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 5.5 บาท)

Lomography 400

Lomography 400


เขยิบมาที่ ISO สูงขึ้นมาหน่อย Lomography 400 ให้สีที่จัดเหมือนกัน ด้วยความที่ ISO สูงขึ้นทำให้ถ่ายได้ทั้งวันที่มีแสงจ้า ไปจนถึงสภาพแสงเย็น ๆ ไปถึงมืดได้ ให้ภาพที่สีชัด คมสวย และแสงในภาพที่ได้ก็ไม่แข็งจนเกินไป

เหมาะกับ : สีสันจัดจ้าน ถ่ายในวันที่มีแดดจ้า

เหมาะกับแนว : Portrait, Street

ราคา : 190-240 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 6.7 บาท)

Lomography 800

Lomography 800


ฟิล์มอีกหนึ่งตัวที่มี ISO ที่สูง Lomography 800 ทำให้สามารถถ่ายกลางคืนได้ และยังให้สีสันจัดจ้านตามสไตล์ Lomo ถ่ายตอนกลางวันก็สวย ถ่ายตอนกลางคืนก็รอด ใครกำลังมองหาฟิล์มไปถ่ายงานกลางคืน หรืองานคอนเสิร์ต บอกเลยว่าตัวนี้ก็ดีไม่แพ้กัน

เหมาะกับ : ถ่ายในที่แสงน้อย สไตล์ Lomo

เหมาะกับแนว : Portrait, Street

ราคา : 240-260 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 7.3 บาท)

Fuji Japan 100

Fuji Japan 100


อีกหนึ่งฟิล์มในดวงใจของใครหลายคน Fuji Japan 100 บอกเลยว่าให้โทนสีที่สวยมาก ไม่ว่าจะถ่ายที่ไหน ก็ทำให้ภาพของเราเหมือนถ่ายที่ญี่ปุ่นไปซะหมด ใครที่ยังไม่ได้ลองเล่น ต้องหามาลองเล่นแล้ว ถ่ายในสภาพแสงจ้าได้ดี แต่ถ้าแสงน้อยต้องระวังภาพเบลอ จะถ่ายคน ถ่ายวิวก็สวยหมดจ้า

เหมาะกับ : ถ่ายกลางวัน โทนอมเขียว ฟีลญี่ปุ่น

เหมากับแนว : Portrait, Landscape , Natural

ราคา : 150-190 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 5.3 บาท)

Fuji Pro 400 H

Fuji Pro 400 H


อีกหนึ่งฟิล์มในดวงใจของใครหลายคน Fuji Japan 100 บอกเลยว่าให้โทนสีที่สวยมาก ไม่ว่าจะถ่ายที่ไหน ก็ทำให้ภาพของเราเหมือนถ่ายที่ญี่ปุ่นไปซะหมด ใครที่ยังไม่ได้ลองเล่น ต้องหามาลองเล่นแล้ว ถ่ายในสภาพแสงจ้าได้ดี แต่ถ้าแสงน้อยต้องระวังภาพเบลอ จะถ่ายคน ถ่ายวิวก็สวยหมดจ้า

เหมาะกับ : ถ่ายกลางวัน โทนอมเขียว ฟีลญี่ปุ่น

เหมากับแนว : Portrait, Landscape , Natural

ราคา : 150-190 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 5.3 บาท)

Fuji Pro Image100

Fuji Pro Image100


สาว ๆ ที่อยากได้รู้เหมือนจริง ตามสไตล์ Kodak ต้อง Fuji Pro Image100 เลยค่ะ รูปที่ออกมา โทนจะออกญี่ปุ่น ๆ หน่อย ภาพโทนนี้กำลังมาเลยค่ะ เชื่อได้เลยว่าถ่ายออกมาจะต้องโดนใจมาก ๆ เลยค่ะ

เหมาะกับ : ถ่ายทั่วไป แสงเยอะ ให้เกรนละเอียด

เหมากับแนว : Portrait

ราคา : 140-170 บาท (36 รูป เฉลี่ยรูปละ 4.8 บาท)

เป็นอย่างไรกันๆบ้างคะกับ 12 โทนสีฟิล์มที่เรานำมาแชร์กัน บอกเลยว่าสวยและน่าลองทุกตัวเลย แต่การจะถ่ายภาพฟิล์มให้สวยและถูกใจเรามากที่สุด เราควรเลือกโทนสีให้เหมาะสมกับสิ่งที่เราต้องการจะถ่าย เพราะฟิล์มบางชนิดถ่ายคนได้สวยมาก แต่กลับถ่ายวิวได้ไม่ดีนัก และที่สำคัญอย่าลืมเลือก ISO ให้เหมาะสมกับสภาพแสงที่เราต้องการถ่ายด้วยนะคะ เท่านี้เราก็จะได้ภาพฟิล์มที่สวยถูกใจเราที่สุด Wongnai Beauty ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการถ่ายภาพฟิล์มนะคะ :)

อ่านบทความเกี่ยวกับฟิล์มต่อได้ที่ ..