คนนอนหลับยากต้องลอง! 8 นิสัยที่ดีต่อสุขภาพที่ควรทำตอนกลางคืน
  1. คนนอนหลับยากต้องลอง! 8 นิสัยที่ดีต่อสุขภาพที่ควรทำตอนกลางคืน

คนนอนหลับยากต้องลอง! 8 นิสัยที่ดีต่อสุขภาพที่ควรทำตอนกลางคืน

การนอนหลับที่ดีนั้นเริ่มต้นได้ด้วยตัวเรา ชวนทุกคนรวมถึงคนนอนหลับยากมาลองปรับนิสัยให้ดีต่อการนอนที่ควรทำในช่วงกลางคืน รับรองว่าหลับฝันดีแน่นอน
writerProfile
29 ก.ค. 2021 · โดย

การนอนหลับในแต่ละคืนให้มีคุณภาพนั้นสำคัญกับเรามาก เพราะการนอนหลับนั้นมีสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของชีวิตเรา วันนี้ Wongnai Beauty เลยรวมนิสัยที่คนนอนหลับยากต้องลอง! 8 นิสัยที่ดีต่อสุขภาพที่ควรทำตอนกลางคืน ถึงจะไม่ใช่คนนอนหลับยากก็ควรลองทำ เพราะว่ามันสำคัญกับเรามากจริง ๆ รับรองเป็นวิธีทำให้นอนหลับง่าย หลับฝันดีทุกคืน ตื่นมาสดชื่นพร้อมรับเช้าวันใหม่แน่นอน~

นิสัยที่ดีต่อสุขภาพ ที่คนนอนหลับยากควรทำตอนกลางคืน

นิสัยที่คนนอนหลับยากควรทำตอนกลางคืน

1. ดื่มน้ำเยอะ ๆ

อย่างที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า การดื่มน้ำให้เพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากต่อร่างกายของเรา การดื่มน้ำอย่างเพียงพอได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเรื่องอารมณ์และลดความเครียดทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ในเวลาที่เราเครียดนั้น จะส่งผลให้เรานอนไม่หลับ เพราะฉะนั้นในระหว่างวันแทนที่เราจะจิบคาเฟอีน ให้เราหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน แต่เราควรที่จะระวังเรื่องวิธีการและปริมาณน้ำที่ควรได้รับในแต่ละวันอีกด้วย

น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 จะได้เป็นปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตรที่เราควรดื่มใน 1 วัน

ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 2,310 มิลลิลิตร แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการที่จะคำนวณให้ยุ่งยากแล้วก็ควรที่จะดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอประมาณ 8-10 แก้ว หรือเทียบเท่ากับการดื่มน้ำจากขวดขนาด 600 มิลลิลิตร ประมาณ 3-4 ขวดนั่นเอง

2. ให้มื้อเย็นเป็นมื้ออาหารที่มีเป็นประโยชน์

มีเหตุผลมากมายที่เราจะกินอาหารเย็นเพื่อสุขภาพบ่อยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การรับประทานอาหารอร่อยและดีต่อสุขภาพร่างกายสามารถช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องการปรับระดับน้ำตาลในเลือด และยังช่วยเรื่องการย่อยที่ดี ควรกินมื้อเย็นให้เสร็จอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนนอนเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการนอนหลับด้วยนะ

3. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนในช่วงบ่ายหรือเย็น

ควรหลีกเลี่ยงคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ ชา รวมถึงดาร์กช็อกโกแลตในช่วงบ่ายหรือเย็น เนื่องจากร่างกายใช้เวลาในการขจัดคาเฟอีน 6-10 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน จึงทำให้ถ้าเราเริ่มกินคาเฟอีนในช่วงบ่าย ก็อาจจะทำให้เราไม่ง่วงในเวลากลางคืนได้ เนื่องจากร่างกายยังไม่สามารถขจัดคาเฟอีนในเลือดได้หมด ที่รวมไปถึงดาร์กช็อกโกแลตนั้นเพราะว่าในดาร์กช็อกโกแลต 70% ขนาด 2 ออนซ์มีคาเฟอีนมากถึง 70 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเอสเปรสโซหนึ่งช็อตเลยทีเดียว ฉะนั้นต้องเลือกดี ๆ น้า

4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงก่อนนอน

เพลิดเพลินกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮลล์ทุกคนนั้นอาจจะคิดว่าไม่ได้เป็นปัญหามาก เพราะว่าดื่มเสร็จทีไรเราก็จะเหนื่อยและนอนหลับง่าย แต่จริง ๆ แล้วนั้นคุณภาพของการนอนไม่ได้ดีอย่างที่คิด เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้น้ำตาลในเลือดของเราลดลง นอกจากนั้นยังสามารถนำไปสู่การขาดน้ำ ดังนั้นเราจึงควรขยับการดื่มแอลกอฮอล์มาเร็วขึ้น และดื่มน้ำเพื่อเติมให้ร่างกายไม่ขาดน้ำก่อนนอน

5. ยืดกล้ามเนื้อบ้าง :)

การยืดกล้ามเนื้อสามารถช่วยกระตุ้นระบบประสาทซึ่งทำให้เรานั้นผ่อนคลาย และไม่ปวดเมื่อยตามตัว แต่ระวังการออกกำลังกายอย่างหนักที่ทำให้เลือดสูบฉีดหนัก เพราะจะทำให้เราตื่นตัวจนไม่สามารถนอนหลับอย่างสนิทได้ ฉะนั้นการออกกำลังกายที่แนะนำคือการโยคะเบา ๆ หรือยืดกล้ามเนื้อเบา ๆ และควรทำให้เป็นกิจวัตรก่อนนอนที่ดีในการผ่อนคลายวันที่เหนื่อยล้าให้สบายขึ้นอีกด้วย

6. พักจากการใช้หน้าจอ 30 นาทีก่อนเข้านอน

แสงจากหน้าจอไม่ว่าจะสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และทีวีของเราสามารถยับยั้งการผลิตเมลาโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการนอนหลับของเราได้ ดังนั้นเราควรพักจากการใช้หน้าจออิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 30 นาทีก่อนนอน เพื่อให้สมองผ่อนคลายและเพิ่มเมลาโทนินเพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น

7. เข้านอน-ตื่น เวลาเดียวกันทุกวันจนเป็นนิสัย

การรักษาตารางการนอนหลับให้สม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากฮอร์โมนที่หลั่งออกมาระหว่างที่เรากำลังนอนหลับจะช่วยกระตุ้นการทำงานที่สำคัญในร่างกายของเรา เช่น การทำความสะอาดตับ การสร้างกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อ และการคงสมดุลน้ำตาลในเลือด ซึ่งถ้าเรานอนไม่เป็นเวลา ร่างกายเราก็จะทำงานได้ยากมากยิ่งขึ้นนะ และเมื่อเราเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันจนเป็นนิสัยแล้วนั้น จะเป็นการฝึกการนอนหลับซึ่งเป็นวิธีนอนหลับที่ดีและง่ายให้แก่ร่างกายเราอีกด้วย

8. เข้าห้องนอนหรือขึ้นเตียงเฉพาะเวลาที่จะนอนเท่านั้น

สิ่งสำคัญที่ชาวนอนหลับยากอย่างเราต้องตระหนักไว้คือ เราควรเข้าห้องนอนหรือขึ้นเตียงนอนเฉพาะเวลาที่เราพร้อมนอนเท่านั้น และควรจัดสัดส่วนห้องให้เป็นระเบียบ ไม่ควรทำกิจกรรมอื่น ๆ ในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง เล่นโทรศัพท์ หรือการทำงานในห้องนอน หากเราจะทำกิจกรรมอื่นเราควรจะกำหนดพื้นที่เป็นสัดส่วน การทำแบบนี้จะช่วยให้เรานอนหลับได้ง่ายมากขึ้น

เราจะเห็นได้ว่าวิธีนอนให้หลับที่กล่าวมานี้ถ้าเราทำให้เป็นนิสัยได้นั้น ไม่ใช่แค่การนอนหลับของเราจะมีคุณภาพมากขึ้น แต่ร่างกายของเราก็ยังจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกแน่นอน อยากให้ทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ลองนำนิสัยไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันตัวเองกัน เพราะว่าการเริ่มต้นวันที่ดีไม่ได้เริ่มตั้งแต่เช้า แต่เป็นตั้งแต่การเข้านอนเลยต่างหาก

บทความอื่น ๆ ที่แนะนำ