รู้จัก "Manifestation" หลักการสร้างความสำเร็จด้วยการ "คิดบวก"
  1. รู้จัก "Manifestation" หลักการสร้างความสำเร็จด้วยการ "คิดบวก"

รู้จัก "Manifestation" หลักการสร้างความสำเร็จด้วยการ "คิดบวก"

“แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็เปลี่ยน” มารู้จัก Manifestation หลักการเปลี่ยนชีวิตด้วยการคิดบวก ที่จะพาเราก้าวสู่ความสำเร็จด้วยความเชื่อ
writerProfile
20 มี.ค. 2024 · โดย

ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ‘Manifest’ หรือ ‘กฎแรงดึงดูดของจักรวาล’ ที่มีการแบ่งปันเรื่องราวกันในโลกออนไลน์ว่าการทำ Manifest ทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น แต่เอ.. ว่าแต่มันคืออะไรกันนะ วิธีที่ถูกต้องของมันคืออย่างไร แล้วมันได้ผลจริงหรือเปล่า วันนี้ Wongnai Beauty จะมาไขความลับจักรวลาลให้เพื่อน ๆ เอง พร้อมแล้วก็มา Manifesting ไปด้วยกันเลยค่ะ!

              รู้จัก "Manifestation" หลักการสร้างความสำเร็จด้วยการ "คิดบวก"

หลักการ Manifestation

Manifestation คืออะไร?

Manifestation หมายถึง การแสดงให้เห็นได้ชัด หรือการจินตภาพให้ออกมาชัดที่สุด เมื่อรู้ความหมายแล้วคงจะเดาได้ไม่ยากว่าหลักการนี้จะทำพาความสำเร็จมาสู่เราได้อย่างไร หัวใจหลักของการ Manifest คือ “การจินตภาพสิ่งที่เราต้องการให้ชัดเจนมากที่สุดในหัวของเรา เชื่อว่าเราจะสามารถทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ และเมื่อเราเชื่อ สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นจริง”

ในอีกแง่หนึ่งอาจพูดได้ว่ามันคือ กฎแรงดึงดูดของจักรวาล หรือ “Law of Attraction” ที่อธิบายถึงแนวคิดว่าจิตของมนุษย์มีพลังมากพอที่จะดึงดูดสิ่งที่ต้องการหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านความคิด คิดสิ่งใดได้สิ่งนั้น คิดบวกก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ แต่ถ้าคิดลบเราก็จะดึงดูดแต่สิ่งแย่ ๆ

ซึ่งหลักการเหล่านี้เป็นที่รู้จักผ่านหนังสือ The Secret ที่ถูกตีพิมพ์ในปี ค.ศ.2006 ในตอนนั้นความคิดเหล่านี้ถูกหัวเราะเยาะเพราะขัดกับหลักทางวิทยาศาสตร์ไปหมด แต่หลังจากนั้นหนังสือเล่มนี้ก็ได้มียอดขายทะลุ 30 ล้านเล่ม และถูกจัดเป็นหนังสือพัฒนาตนเองที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล ซึ่งเหตุผลที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ประสบความสำเร็จก็เพราะตัวหนังสือได้นำเสนอเสน่ห์ในอีกแง่มุมหนึ่งของโลก ที่เราต้องทุ่มเทความเชื่อ การวาดฝัน การเสแสร้ง เพื่อให้ความฝันของเรานั้นเป็นจริง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความเชื่อของมนุษย์นี่แหละจะเป็นตัวผลักดันให้เรามีความมุ่งมั่นที่จะทำความฝันของเราให้สำเร็จ

หากยังมีความเชื่อไม่มากพอ ก็ให้ลองคิดดูว่า มันจะดีแค่ไหนหากความฝันของเรานั้นเป็นจริง

รู้จักแนวคิดกันไปพอสมควรแล้ว คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าการ Manifesting เขาทำกันอย่างไรบ้างนะ?

หลักการทำ Manifesting

1. เชื่อว่าสิ่งที่คิดไว้ต้องเกิดขึ้นจริง

ให้เพื่อน ๆ ลองหลับตาและคิดกับตัวเองว่า “เราต้องการอะไร” จากนั้นจินตภาพถึงความฝันของเราให้ชัดเจนที่สุดในหัว นึกให้ชัดเจนที่สุดเหมือนเป็นภาพความจริง รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เก็บให้หมด! และเชื่อว่าสิ่งที่คิดจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ

2. บันทึกลงบนสมุดทุกวัน

หลังจากทำข้อก่อนหน้านี้แล้ว ให้เราเขียนสิ่งที่เราต้องการลงบนสมุดทุก ๆ วัน เขียนให้ละเอียดเหมือนภาพที่เราคิดไว้ ซึ่งสิ่งที่ต้องการสามารถมีมากกว่า 1 อย่างก็ได้ เขียนอย่างต่อเนื่อง และระลึกถึงมันเสมอ ให้มันเข้าไปอยู่ในหัวใจของเรา

3. ทำสมาธิและพูดหน้ากระจก

ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง คิดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ มีสมาธิอยู่กับมันอย่างสม่ำเสมอ และพูดสิ่งที่ตัวเองต้องการหน้ากระจกทุกวัน อาจจะเป็นก่อนออกจากบ้านหรือก่อนนอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเอง และเป็นการสะกดจิตตัวเองให้ตั้งใจทำเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้สำเร็จ

4. ขอบคุณตัวเอง

การนับถือตัวเองถือเป็นเรื่องสำคัญในการ Manifesting เพราะอย่าลืมว่าการ Manifest จะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ดังนั้นการรักตัวเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญ หมั่นขอบคุณตัวเองในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน พูดกับตัวเองเสมอว่าฉันมีความสุข สิ่งนี้ก็ถือเป็นการสร้างพลังบวกให้กับตัวเอง เพราะหากเรามีพลังบวก สิ่งที่เราจะดึงดูดเข้ามาในชีวิตก็จะมีแต่เรื่องดี ๆ

5. หมั่นเช็กพลังงานของตัวเอง

ให้เรารู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้เรารู้สึกเช่นไร หมั่นทำให้พลังงานในร่างกายมีแต่เรื่องดี ๆ เช่น หากิจกรรมที่ชอบทำ ผ่อนคลายตัวเองบ้าง ออกไปเดินเล่นดูธรรมชาติ เติมเต็มความสุขให้ตัวเองเสมอ ถ้าพลังงานในร่างกายเราดี เราก็พร้อมที่จะดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาได้เช่นกัน

6. ห้ามใช้คำพูดที่แสดงถึงความคิดด้านลบ

ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก การคิดเรื่องร้าย ๆ ว่ามันต้องเกิดขึ้นแน่ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เช่น “อ่านหนังสือไปก็เท่านั้น สอบตกอยู่ดี” หรือ “ทักไปเขาก็ไม่ตอบหรอก” รวมไปถึงการใช้คำพูดที่ดูถูกตัวเองว่า “เราทำไม่ได้” “เราไร้ค่า” “ไม่มีใครรักเรา” ก็ถือเป็นสิ่งต้องการ เพราะพลังงานดี ๆ ในร่างกายของเราจะสูญหายไปหากเราด้อยค่าตัวเราเอง

7. อย่ายึดติด และใช้เวลากับมัน

การ Manifest ไม่ใช่สิ่งที่ทำแล้วจะเห็นผลทันที อย่าคาดหวังว่ามันจะเป็นจริง ใช้ชีวิตไปกับพลังงานดี ๆ และขั้นตอนก่อนหน้านี้ตามที่เราบอก ตราบใดที่เราตั้งมั่นและเชื่อในพลังของจักรวาล ให้เวลาให้จักรวาลได้หน้าที่ของมัน เมื่อถึงเวลาเราจะรู้ตัวเองว่าที่เราฝันไว้มันเป็นจริงแล้ว มันจะมาแบบที่เราไม่ทันตั้งตัวเลยล่ะ!

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ Manifestation ขั้นตอนการทำถือว่าง่ายมาก ๆ หากลองทำดูก็ไม่เสียหาย และอย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวเรา เพราะอย่างที่ได้บอกไป “Manifest จะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับเรา” ดังนั้นคิดบวก แล้วลุยเลยค่ะ ผลลัพธ์ที่ตามมาคุ้มค่าแน่นอน!

References :