วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน
  1. วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน

วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน

เรื่องมันเศร้า แต่เล่าให้ตลกได้ วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน และมีอารมณ์ศิลปิน เพราะอะไร และทำไม ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
writerProfile
13 พ.ย. 2021 · โดย

เพื่อน ๆ อาจจะเคยได้ยินคำพูดประมาณว่า “การที่เราเล่าเรื่องเศร้าแบบขำ ๆ ได้ แสดงว่าเราก้าวข้ามผ่านมันมาแล้ว” ใช่ไหมล่ะคะ นักวิจัยก็ได้ทดลองหาคำตอบเหล่านี้เหมือนกัน ว่าเหตุผลที่เราสามารถขำ กับเรื่องเศร้า ๆ ได้ มันเกิดจากอะไร และนักวิจัยพบว่าคนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน และมีอารมณ์ศิลปิน มันเกี่ยวข้องกันอย่างไร ไปดูกันดีกว่าค่ะ 

วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน

วิจัยเผย! คนที่มีชีวิตวัยเด็กไม่ค่อยแฮปปี้ จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน

นักจิตวิทยา Dr. Nancy Irwin กล่าวว่า "การบาดเจ็บนั้น สามารถนำไปสู่การชดเชยทางด้านความรู้สึกด้วยอารมณ์ขัน การสร้างปัญญา หรือสร้างความสำเร็จที่มากเกินไปได้หลายวิธี” และ “อารมณ์ขันเป็นหนึ่งในกลไกการป้องกันขั้นสูงสุดในการรับมือกับความเจ็บปวด”

ความสัมพันธ์ระหว่าง “ความเจ็บปวด” กับ “อารมณ์ขัน”นี้ ได้รับการยอมรับครั้งแรกโดยนักปรัชญาสมัยโบราณ เช่น เพลโตและอริสโตเติล ซึ่งตั้งข้อสันนิษฐานว่าอารมณ์ขันช่วยให้ผู้คนสร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาใหม่หลังจากที่แตกสลาย นักปรัชญาในยุคหลังอย่าง คานส์ และ เคียร์เกอกอร์ ก็เชื่อว่าแก่นของอารมณ์ขันคือความรู้สึกของความไม่ลงรอยกัน และคนที่มีวัยเด็กที่ยากลำบากนั้น จะมีชีวิตและพัฒนาการที่ไม่สอดคล้องกับความสุขและความมหัศจรรย์ของการเป็นเด็ก

การศึกษาล่าสุดที่ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Frontier in Psychology ได้ช่วยสนับสนุนแนวคิดนี้เพิ่มเติมโดยการวิเคราะห์วัยเด็กของนักแสดงมืออาชีพ 234 คน ผลการวิจัยพบว่ายิ่งผู้เข้าร่วมมีประสบการณ์ในวัยเด็กที่ไม่ค่อยแฮปปี้มากขึ้นเท่าไหร่ ประสบการณ์เชิงสร้างสรรค์ของพวกเขาก็จะยิ่งมากขึ้นขึ้นเช่นกัน ไม่ใช่แค่นักแสดงที่แสดงเป็นตัวตลกเท่านั้น

นักจิตวิทยาคลินิกและผู้เขียนร่วม ดร. พอลลา ทอมสัน ตั้งข้อสังเกตถึงกลุ่มบุคคลในการทดลอง ว่าบุคคลเหล่านั้นมีคุณลักษณะทางบุคลิกภาพที่เอื้อต่ออารมณ์ขัน เช่น ความสามารถในการตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างรวดเร็วด้วยไหวพริบและความตรงไปตรงมา สิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับ “ความยืดหยุ่น” ที่จะช่วยให้ฟื้นฟูจิตใจจากความทุกข์ นอกจากนี้ เธอยังตั้งข้อสังเกตว่าตัวแปรอื่น ๆ ก็มีส่วนสนับสนุนความสามารถในการรับมือกับเรื่องที่ไม่แฮปปี้ได้ เช่น การสนับสนุนทางสังคม ความผูกพันอย่างมั่นคง การเปิดรับอารมณ์ขัน และความเฉลียวฉลาด

ดร.แนนซี่ เออร์วิน เห็นด้วยว่าความยืดหยุ่นอาจเป็นคุณสมบัติหนึ่งในการเปลี่ยนเด็กที่ไม่ค่อยแฮปปี้ ให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีอารมณ์ขัน แต่ประเภทของบาดแผลนั้นก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่เคยถูกทอดทิ้งหรือ ถูกทอดทิ้งในระยะเวลาหนึ่ง มักจะชอบอารมณ์ขัน หรือตลกกลบเกลื่อน เพื่อเป็นการฟื้นฟูทางจิตใจ

แต่การแสดงออกถึงอารมณ์ขันเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่เจ็บปวด อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป และอาจเป็นการตอบสนองที่ย้อนกลับมาอย่างรุนแรง ถ้าเป็นอารมณ์ขันที่ไม่มีความยืดหยุ่นและตัวเด็กเองไม่ได้มีทักษะการเผชิญปัญหาอื่น ๆ อารมณ์ขันไม่สามารถเป็นวิธีที่สามารถแก้ความเจ็บปวดได้เพียงอย่างเดียว เพราะทุกคนไม่สามารถมีอารมณ์ขันได้ตลอดเวลา

Reference : 

Paula Thomson and S.V.Jaque. 2018. "Childhood Adversity and the Creative Experience in Adult Professional Performing Artists" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg.2018.00111/full สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564  

 Lauren Vinopal.2019. "Do Sad Kids Grow Up to Be Funny Adults? Psychologists Say Yes." [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.fatherly.com/health-science/why-sad-kids-make-funny-adults/ สืบค้นเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564

แน่นอนว่าไม่ใช่เด็กทุกคนที่มีแผลจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีอารมณ์ขัน หรือมีความคิดสร้างสรรค์ แต่อารมณ์ขันก็เป็นแค่ทักษะของการเผชิญปัญหาในรูปแบบหนึ่ง ที่มาจากความยืดหยุ่นนั่นเองค่ะ และคุณสมบัตินี้ทำให้คนเราเอาชนะกับปัญหาได้ ทำให้เราหัวเราะกับเรื่องแย่ ๆ และเจ็บปวด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าเรายอมรับและเผชิญหน้ากับปัญหานั้นได้ เรื่องที่เคยรู้สึกมาก ๆ ในตอนเด็ก ๆ ก็อาจจะเป็นแค่เรื่องขำ ๆ ที่ผ่านเข้ามาและผ่านไปเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนั่นเองค่ะ 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ