นอกจากยันต์และพระดัง ๆ ของไทยจะดังไกลไปถึงต่างประเทศ และราคาแพงจนนำหน้ากระเป๋าแบรนด์เนมไปไกลแล้ว เครื่องรางป้องกันคุณไสย หรือของขลังจากบ้านเรา ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่ของขลังจะเป็นสายพุทธคุณ มีการปลุกเสกจากคนที่ถือศีล ทำมาจากพืช หรือกระดูกของสัตว์ ที่เชื่อว่าหายาก และเป็นสัตว์มงคล สามารถป้องกันมนต์ดำที่อันตรายได้ มาดูกันดีกว่าว่า เครื่องรางป้องกันคุณไสยตามความเชื่อของคนไทย จะมีอะไรบ้าง
คุณไสย คือ?
เมื่อพูดถึงเรื่องคุณไสยมนต์ดำแล้ว เชื่อว่าเป็นสิ่งที่มีกันทุกชาติ ทุกศาสนา ของต่างประเทศอาจจะเคยได้ยินในเรื่องของตุ๊กตาวูดู แต่สำหรับของไทยนั้น คุณไสย มนต์ดำ จะมีหลากหลายแบบตามลักษณะท้องถิ่นหรือพิธีกรรม อย่างที่เราเห็นกันในหนังหลาย ๆ เรื่อง ทั้งการเสกของไม่ดีเข้าท้อง เมื่อมีคุณไสยมนต์ดำแล้ว สิ่งที่ดูเป็นคู่ตรงกันข้ามคือ เครื่องรางของขลังเพื่อป้องกันคุณไสย ตามความเชื่อของคนไทย ที่เอาไว้แก้คุณไสยต่างๆ โดยมีตั้งแต่ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือครูบาอาจารย์ พระภิกษุ ที่สร้างบารมีจนแก่กล้าได้สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ครอบครอง หรือปกป้องอันตรายต่าง ๆ ที่มาจากคุณไสยมนต์ดำทั้งหลาย เครื่องรางของขลังที่นิยมกัน ก็อย่างเช่น
ของขลังป้องกันคุณไสย ตามความเชื่อของคนไทย
เบี้ยแก้
มีลักษณะเป็นก้อนดำ ๆ ขนาดเท่านิ้วโป้งมือ มีลวดหรือเชือกสานพันเป็นลายโดยรอบ สะดวกในการพกติดตัวด้วยการคาดเอว หลังจากถักเชือกแล้ว ก็มีการลงรักหรือทายางมะพลับ เพื่อให้เชือกมีความคงทนในการใช้งาน เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่งเชื่อว่ามีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีความเชื่อว่าเป็นตัวแทนพระลักษมี นิยมห้อยคอเด็กเพื่อปกป้องคุ้มครอง อันตรายต่าง ๆ ในวรรณคดีของไทยเราก็ยังกล่าวถึงเรื่องเบี้ยแก้ไว้มากมาย เช่น ในเรื่องขุนช้างขุนแผน และเรื่องอิเหนา เป็นต้น พุทธคุณของเบี้ยแก้นั้น มีความเชื่อว่าใช้ในการแก้และกัน สามารถคุ้มครองป้องกันไม่ให้สิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ เข้ามาทำร้ายเราได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคภัยไข้เจ็บ หรือคุณไสยต่าง ๆ ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่มีเบี้ยแก้ให้พ้นจากอันตรายต่าง ๆ ได้ ถ้าพูดถึงเบี้ยแก้แล้วเบี้ยแก้ที่โด่งดัง ก็จะเป็นเบี้ยแก้ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง โดยการปลุกเสกจะใช้วัตถุต่างๆ เป็นองค์ประกอบ เช่น เบี้ยพู ปรอท ชันโรงใต้ดิน ท่านจะคัดตัวเบี้ยที่มีขนาดไล่เลี่ยกัน และเลือกตัวสมบูรณ์ตามสูตรโบราณ คือ มีฟันเบี้ยครบ 32 ซี่เหมือนคน นอกจากนี้ ยังมีแผ่นตะกั่วทุบ แล้วนำวัตถุทั้งหมดมาปลุกเสกลงอักขระขอมโบราณ กำกับด้วยคาถา “พระเจ้า 16 พระองค์” และ “คาถาตรีนิสิงเห” ไม่ว่าจะเป็นวัตุอาถรรพณ์ที่ใช้สร้าง หรือ คาถาต่าง ๆ ที่หลวงปู่รอดใช้ในระหว่างปลุกเสก ทำให้เบี้ยแก้ หลวงปู่รอดเป็นเครื่องรางของขลังที่หลายคนต้องการ
ผลพระเจ้า 5 พระองค์
เป็นของขลังที่ไม่ได้เกิดจากการสร้างของคน แต่เป็นของที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ พระเจ้าห้าพระองค์ เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง หาได้ยาก มักพบในป่าลึก ผลของพระเจ้าห้าพระองค์ มีรูปกลมรีเล็กน้อย แบ่งเป็นพู 5 พู แต่ละพูจะมีรูปคล้ายพระ เรียงอยู่รอบผล เป็นพระพุทธรูปห้าองค์ หันพระเศียรชนกันที่ตรงศูนย์กลาง จึงเป็นที่มาของชื่อ “พระเจ้าห้าพระองค์” คนโบราณนิยมนำผลของพระเจ้าห้าพระองค์มาทำเป็นเครื่องรางของขลังคู่กับคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ ที่กล่าวว่า “นะ โม พุท ธา ยะ” ซึ่งถือเป็นของขลังที่มีพุทธคุณโดดเด่นทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน มีโชคลาภและทรัพย์อุดมสมบูรณ์ เสริมสิริมงคล และขจัดความชั่วร้ายต่าง ๆ ทำให้แคล้วคลาดจากอันตราย บางคนก็นำไปเข้าพิธีปลุกเสกเพิ่มอิทธิฤทธิ์ในทางอยู่ยงคงกระพัน จึงถือว่าเป็นของดีที่ควรมีไว้ติดบ้านติดเรือน ติดร้านค้า ติดองค์กรสถานที่ต่าง ๆ
ท้าวจตุโลกบาล
"ท้าวจตุโลกบาล" ทั้ง 4 ผู้ดูแลสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ผู้คอยช่วยเหลือปกปักรักษามนุษย์ ประกอบด้วย ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ และท้าววิรุฬหก โดยแต่ละองค์มีหน้าที่ในการดูแล รักษาคุ้มครองมนุษย์ในด้านต่างๆ ดังนี้
- ท้าวธตรฐ ผู้ปกครองประจำทิศตะวันออก ปกครองเหล่าคนธรรพ์ วิทยาธร นางไม้ นางอัปสร มือซ้ายทรงพิณ เป็นเทพแห่ง ความสุข ความสำราญ
- ท้าววิรุฬหก ผู้ปกครองประจำทิศใต้ มีอสูรเป็นบริวาร รูปร่างสูงสง่า น่าเกรงขาม มือขวาทรงทวน เป็นเทพแห่งการคุ้มครอง
- ท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองประจำทิศตะวันตก เป็นเจ้าแห่งพญานาค สวมมงกุฎที่มียอดนาค 3 เศียร มีหนวด ประทับยืนบนแท่นฐานประดับลายพญานาค เป็นเทพแห่งทรัพย์สมบัติ
- ท้าวเวสสุวรรณ เจ้าแห่งยักษ์ประจำทิศเหนือ ปกปักดูแลทรัพย์ของโลกมนุษย์ แววตาดุดัน ทรงอำนาจ เป็นเทพแห่งความมั่งคั่ง
เพื่อน ๆ ที่อยากไปสักการะท้าวจตุโลกบาลเพื่อเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต ในกรุงเทพฯก็มีท้าวจตุโลกบาลประดิษฐานอยู่หลายที่ เช่น วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร, วัดสุทธาราม , วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม (บางชัน) , วัดไผ่เงินโชตนาราม ใครสะดวกที่ไหนก็ไปที่นั่นกันได้เลย
ยันต์เกราะเพชร
มีต้นกำเนิดมาจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ว่ากันว่าท่านได้เรียนมาจากผู้สืบทอดตำราพระร่วง ท่านได้กล่าวไว้ว่า ผู้ที่ได้เป่าพระคาถานี้ลงกระหม่อม ต้องเคารพในพระพุทธเจ้า เพราะเป็นการอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าคุ้มครอง มีความมั่นคงในพระพุทธเจ้า จะสามารถป้องกันภัยต่าง ๆ ได้ จึงเรียกกันว่ายันต์เกราะเพชร พุทธคุณของการสวดพระคาถานี้เป็นประจำ สามารถหนุนดวง เสริมบารมี การงาน การเงิน และป้องกันการกลั่นแกล้งจากคนอื่น เพราะของไม่ดีจะย้อนกลับสะท้อนเข้าไปหาตัวคนทำ โดยวันเป่ายันต์ จะเป่าได้เฉพาะวันเสาร์ห้า คือ ต้องตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือนใดก็ได้ ผู้รับยันต์ต้องมีธูปเทียน 1 ชุด เป็นเครื่องบูชาพระ ถ้าเป็นหญิงมีครรภ์ ต้องจัดธูปเทียนเผื่อลูกในท้องอีก 1 ชุด ธูปเทียนนี้ไม่ต้องจุด เมื่อเสร็จพิธีแล้วสามารถนำกลับบ้านได้ และมีพุทธคุณใช้สำหรับไล่ผีดีมาก ๆ ใครที่กลัวผีต้องพกไว้เลย มีความเชื่อกันว่าผู้ที่รับยันต์ไปแล้ว ถ้ารักษาไว้ดีจะไม่ตายแบบผิดธรรมชาติ (ตายโหง) ไม่ตายด้วยพิษสัตว์ทุกชนิด ปลอดภัยจากไสยศาสตร์ ถ้ามีคนทำคุณไสยทุกประเภทใส่จะสะท้อนกลับไปหาตัวผู้ทำเอง
งากำจัด
งากำจัดคืองาช้างที่แตกหักออกในขณะที่ช้างยังมีชีวิตอยู่ เกิดจากการที่ช้างมีอาการตกมันไล่อาละวาดแล้วเอางามาแทงกับต้นไม้ทำให้งาหักคาอยู่ในต้นไม้นั้น ถือว่าเครื่องรางของขลัง ประเภททนสิทธิ์ มีความศักดิ์สิทธิ์ มีเทพปกปักรักษา โดยไม่ต้องผ่านการปลุกเสก นับว่าเป็นของหายากและมีคุณค่า ถือว่าเป็นโชคดีของผู้ที่ได้ครอบครอง ส่วนพุทธคุณนั้นเชื่อกันว่า ใครได้บูชาหรือพกติดตัวแล้ว จะดลบันดาลให้เกิดเป็นเมตตา มหาอำนาจ เกิดบารมีเป็นที่เกรงขามต่อศัตรู อีกทั้งยังปกป้องคุ้มครองให้ แม้จะไม่ผ่านการปลุกเสก ว่ากันว่าเมื่อพกพาติดตัวจะทำให้มีเสน่ห์และมีอำนาจอย่างมาก แต่เมื่อผ่านพิธีกรรมมาแล้ว สรรพคุณย่อมเพิ่มเป็นทวีคูณ โดยจะสามารถเพิ่มตบะเดชะ เพิ่มบุญบารมี เพิ่มวาสนา ต่อชะตาชีวิตให้แก่ผู้ครอบครองบูชาได้ ทำให้เกิดความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มีความเจริญรุ่งเรือง มีสุขในทุก ๆ ด้าน เป็น เครื่องรางหนุนดวงชะตาคนดวงตกได้เป็นอย่างดี ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงได้ ทั้งคุณไสย ภูติผีต่าง ๆ และทำให้มีแต่ความสุขความเจริญ
กระเบนท้องน้ำ
เป็นเครื่องรางที่เกิดจากความเชื่อของชาวเลทางภาคใต้ บ้างก็เรียกกันว่า “หัวกระเบนท้องน้ำ” เชื่อกันว่ามีสรรพคุณสามารถป้องกันคุณไสย ป้องกันลมเพลมพัดได้ และจะยิ่งมีพุทธคุณสูงหากนำไปปลุกเสก สามารถป้องกันภูตพรายที่สิงอยู่ตามท้องน้ำป้องกันภัยจากสัตว์น้ำได้ และที่สำคัญคือสามารถเสริมดวงชะตาให้มีพลังอำนาจ โดยจะนิยมทำเครื่องประดับ เช่น จี้สร้อยคอหัวแหวน และกำไลข้อมือ นอกจากจะเป็นเครื่องรางของขลังแล้ว ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ผู้สวมใส่ได้ดีอีกด้วย เชื่อกันว่าเมื่อนำมาทำเป็นหัวแหวน กำไล หรือจี้ ปลายแหลมของหัวกระเบนท้องน้ำจะสามารถงอกยาวขึ้นมาได้อีกเรื่อย ๆ โดยส่วนที่นำมาทำเป็นเครื่องประดับหรือของขลัง เป็นชิ้นส่วนหนามบนตัวที่มาจากปลาโรนิน ซึ่งเป็นปลาที่คล้ายปลาฉลามแต่อยู่ในกลุ่มของปลากระเบน
คดมะพร้าว
มะพร้าวหลอด หรือคดมะพร้าว สิ่งที่เกิดจากธรรมชาติที่มีดีในตัว จะเจอได้เฉพาะต้นที่มีอาถรรพ์ บางต้นอาจเจอได้เพียงลูกเดียว บางต้นอาจจะเป็นคดหรือกะลาหลอดทั้งต้น หรือบางต้นมีอาถรรพ์ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น เช่น มีฟ้าผ่าลงมาแต่ไม่ตาย เกิดผลงอกออกมา ในลักษณะนี้มักจะมีคตมะพร้าวหรือมะพร้าวหลอดเกิดขึ้น ถือเป็นของอาถรรพ์มีคุณวิเศษในตัว เป็นของหายาก มีพุทธคุณด้านมหาอุตคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด รวมไปถึงเมตตามหาเสน่ห์ จะบูชาโดยการใช้น้ำมันหอมเจิมหรือห้อยคอเหมือนพระเครื่องพกติดตัวไปก็ได้ จะทำให้แคล้วคลาด ได้รับความเมตตาทุกประการ ถือเป็นของหายากมาก อานุภาพของคดมะพร้าวนั้นดีเลิศในทางป้องกันภัยกันคุณไสยมนต์ดำ ภูตผีปีศาจ แคล้วคลาด มหาอุด คงกระพัน เมตตา โชคลาภ ถือว่าเป็นของดีที่มีคุณสมบัติครบ ใครที่มีไว้ในครอบครองก็จะปราศจากภัยอันตรายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ เทวดา อสูร ภูตผีปีศาจ ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้
ขนหางช้าง
ขนช้างซึ่งเกิดจากธรรมชาติเป็นอีกของขลังที่มีดีในตัว คนโบราณที่ไม่ได้เรียนอาคมจะพกขนจากช้างติดตัวอยู่เสมอนัยว่าเป็นเครื่องรางของขลังปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจ สัตว์ร้ายป้องกันคุณไสยต่างๆในยามที่ต้องเดินทางไกล และยัง เชื่ออีกว่าถ้าบูชาดีขนช้างจะทำให้สามารถหยั่งรู้พิษภัยต่างๆ ล่วงหน้าด้วยอย่างสัมผัสที่หกและป้องกันมิให้เกิดขึ้นได้ บางคนเชื่อว่าขนช้างจะนำโชคดีมาให้ ชาวเวียดนามเชื่อว่าขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความภักดี หนุ่มๆสาวๆ มักจะมอบให้แก่กันเป็นการแสดงออกซึ่งความรัก ขนหางช้างมักมีการนำมาถัก พัน หรือประกอบขึ้นเป็น แหวน กำไลข้อมือ เพื่อให้พกติดตัวง่าย จึงทำให้นอกจากจะเป็นเครื่องรางของขลังแล้ว ยังเป็นเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์ และมีความสวยงามอีกด้วย หากใครเคยดูละครเรื่อง นาคี ซึ่งเป็นละครที่มีชื่อเสียงมาก ในเรื่องกล่าวถึง เจ้าแม่นาคีซึ่งเป็นพญานาค แต่ก็ยังไม่สามารถทำอันตรายใดๆกับผู้ที่มีแหวนพิรอดหางช้างนี้ติดตัวได้
ตะกรุด
ตะกรุดเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่หลายคนรู้จักกันดี ตะกรุดถูกสร้างขึ้นโดยอ้างถึงพุทธคุณ และทำมาจากวัสดุต่าง ๆ ตามตำราของครูบาอาจารย์แต่ละท่าน ตะกรุดได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อกันว่าตะกรุดสามารถปกป้องคุ้มครองภัยอันตรายให้แคล้วคลาด คงกะพัน รวมทั้งเรื่องโชคลาภ เมตตามหานิยม มีความโชคดีทั้งหลายทั้งปวง ซึ่งพุทธคุณนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของตะกรุดและสำนักครูบาอาจารย์ที่สร้างด้วย การสร้างตะกรุดในปัจจุบันนั้นถูกนำมาผสมผสานเข้ากับการออกแบบที่สวยงาม จนกลายเป็นเครื่องประดับไว้อย่างลงตัว ทำให้ตะกรุดกลับมาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายอีกครั้ง แม้กระทั่งในหมู่คนดังและเหล่าวัยรุ่น ตะกรุดมงคลโสฬส หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงจ.นนทบุรี ถือว่าเป็นตะกรุดที่เป็นที่ต้องการ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ด้วยสาเหตุที่ยันต์มงคลโสฬสเป็นยันต์ที่มีมงคลมากสำหรับเกจิอาจารย์ในยุคเก่า เพราะเป็นยันต์ที่คุ้มครองทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ผู้ที่บูชาตะกรุดนี้ติดตัว จะมีความศักดิ์สิทธิ์ปกป้องสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างที่มาจากทุกชั้นฟ้าและทุกชั้นดิน และจะมีแต่สิ่งอันเป็นมงคลทุกอย่างเข้ามาในการดำเนินชีวิต แม้แต่เทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายยังต้องให้ความเคารพในยันต์ที่ลงในตะกรุดนี้ นักสะสมพระและเครื่องรางของขลังจึงปรารถนานำมาบูชากันมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่มีไว้ในครอบครองและหมั่นบูชากราบไหว้ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่นจะเป็นสิริมงคลแก่ตนและวงศ์ตระกูลอย่างยิ่ง พ้นจากภัยพิบัติต่าง ๆ เป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ มีเมตตามหานิยม เจริญด้วยลาภผล แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี
กัลปังหาดำ
อีกสิ่งของมงคลที่ธรรมชาติแห่งท้องทะเลเป็นผู้สร้าง ที่นิยมนำมาถักกรอบล้อมทำเป็นจี้ห้อยคอ กำไลข้อมือ บางคนนำมาผ่าทำเป็นแหวน หรือทำเป็นพวงกุญแจสำหรับพกติดตัว กัลปังหาติดตัวไว้ใช้ได้โดยไม่ต้องปลุกเสก การห้อยกัลปังหาต้องห้อยเปลือกให้ถูกเนื้อตัว โดยมีความเชื่อกันว่า กัลปังหาดำช่วยเรียกโชคลาภ ป้องกันอันตราย กันภูตผีปีศาจได้โดยเฉพาะผีพราย แต่กัลปังหามีพุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวเองอยู่แล้ว ถึงไม่ได้รับการเสกเพิ่มจากครูบาอาจารย์ แต่หากนำไปให้เกจิอาจารย์ที่เคารพนับถือปลุกเสก ก็จะเป็นมงคลเพิ่มพุทธคุณมากยิ่งขึ้นไปอีก
เขี้ยวหมูตัน
เขี้ยวหมูป่าโดยปกติด้านในจะมีรูกลวงตั้งแต่รากฟันขึ้นไปย่างน้อยครึ่งเขี้ยวหรือเกือบถึงปลายเขี้ยว แต่ถ้าหากเขี้ยวนั้นมีด้านในตัน ก็ถือเป็นของหายาก เชื่อกันว่ามีฤทธิ์อำนาจในทางคงกระพันชาตรี ยิงฟันไม่เข้า ใช้เป็นเครื่องรางป้องกันศาสตราวุธต่าง ๆ ได้ พรานป่าที่ล่าสัตว์กันเป็นอาชีพ มักไม่ค่อยมีใครอยากยุ่งกับหมูป่า ที่คิดว่าหมูมีเขี้ยวตัน เพราะเชื่อกันว่าไม่ว่าอาวุธอะไรก็ไม่สามารถระแคะระคายผิวหนังของหมูตัวนั้นได้
เครื่องรางของขลังทั้งหมดเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ในความเชื่อของสังคมไทยยังมีเครื่องรางของขลังอีกมากมาย และมีพุทธคุณที่แตกต่างกันไป โดยบางชนิดเป็นความเชื่อเฉพาะท้องถิ่น และบางชนิดเริ่มลดบทบาททางความเชื่อไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตามสิ่งที่สามารถปกปักรักษาตัวเราได้ดีที่สุดคือความคิดที่ดี พฤติกรรมที่ดี ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นทั้งเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้าง และป้องกันสิ่งไม่ดีที่จะเข้ามาโดยอัตโนมัติ แต่หากเพื่อน ๆ อยากเพิ่มความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตก็อาจหาเครื่องรางของขลังที่เหมาะกับตัวเองมาพกติดตัวเพื่อเพิ่มสิริมงคลในชีวิตกันก็ได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ