เพื่อน ๆ หลายคน อาจจะได้ดูเรื่อง Love and Leashes หรือเรื่องรักจูงรัก ใน Netflix ที่นำเสนอเกี่ยวกับ BDSM มาแล้ว หรือหนังที่เป็นกระแสก่อนหน้านี้อย่าง Fifty Shades Of Gray มาก่อน พอพูดถึง BDSM อาจจะทำให้คิดถึง Red Room เซ็กส์ และความรุนแรง สำหรับใครสงสัยว่า รสนิยมแบบ BDSM คืออะไร เล่นแบบไหน แล้วถือว่าเป็นความผิดปกติหรือเปล่า ถ้าอยากเข้าใจเกี่ยวกับ BDSM มากขึ้น ต้องอ่านเลยค่ะ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องรักจูงรักก็สามารถอ่านได้นะ เพราะในบทความนี้ไม่มีสปอยล์แน่นอนจ้า มาลองเช็กลิสต์เกี่ยวกับ BDSM กัน ว่าเรามีแนวโน้มที่จะชอบอะไรแบบนี้หรือเปล่า
เช็กลิสต์! รสนิยมแบบ BDSM ความตื่นเต้นแบบมีพันธนาการ

- ชอบการสวมบทบาทเป็นคนควบคุมคนอื่น
- รู้จักกฎ การยินยอม และ Safe words ในการเล่น
- มีความเชื่อใจซึ่งกันและกัน
- ชอบการกระตุ้นด้วยคำที่รุนแรง
- ชอบการจับมัด การกัด การตี
- มีของเล่นอย่างปลอกคอ เชือก แส้ กุญแจมือ
- ชอบแต่งชุดคอสเพย์ ชุดหนัง หรืออื่น ๆ
- รู้สึกดีถ้าได้รับคำชมหรือโดนควบคุม
- รู้สึกตื่นเต้นหากโดนปิดตาหรือโดนมัด
- มีการดูแล เทคแคร์คู่เล่น หลังเล่นเสร็จ
สำหรับคนที่มีครบทั้ง 10 ข้อ ยินดีด้วยค่ะ เพื่อน ๆ คือชาว BDSM ตัวจริงเสียงจริง! แต่สำหรับใครที่ไม่ครบก็ไม่ต้องเสียใจไปน้า มารู้จักเกี่ยวกับ BDSM ให้มากขึ้นกันดีกว่า
BDSM คืออะไร?
BDSM ย่อมาจาก B = Bondage (การพันธนาการ), D = Discipline (การลงโทษ) หรือ Dominance (การปกครอง) , S = Submission (การยอมจำนน) หรือ Sadism (ชอบเห็นคนอื่นเจ็บปวด) , M = Masochism (ชอบความเจ็บปวด) เป็นความตื่นเต้นที่เล่นกับประสาทสัมผัส อย่างการปิดตา การพันธนาการด้วยเชือกหรือ การทำโทษ โดยการสวมกุญแจมือ การโดนตบ โดนตี โดนเฆี่ยนด้วยแส้ โดนลนด้วยเทียน การบังคับการหายใจด้วยการบีบคอ การทำให้อับอายด้วยคำพูดที่รุนแรง หรือการแสดงบทบาทสมมุติเป็นสัตว์กับเจ้าของ ผู้ร้ายกับตำรวจ ทาสกับเจ้านาย เป็นต้น หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าผิดปกติหรือเปล่า คนดี ๆ ที่ไหนถึงชอบอะไรที่รุนแรง หรือการหยามเกียรติกันแบบนั้น แต่การเล่น BDSM ต้องมีความเชื่อใจกันเป็นอย่างมาก และผู้ที่เล่นต้องมีความรู้และความชำนาญในระดับหนึ่ง ถึงจะสามารถเล่นได้อย่างปลอดภัย และก่อนจะเล่นต้องมีกฎกติกาในการเล่นอย่างชัดเจน เป็นการ “ยินยอม” ของทั้งสองฝ่าย และทั้งสองจะมี Safe Words ที่สามารถพูดเพื่อบอกให้หยุดเล่นกระทันหันได้ อย่างสัญลักษณ์สี Red, Yellow, Green ถ้ามีฝ่ายที่รู้สึกว่าไม่ชอบ อึดอัด และอยากหยุด จะไม่ใช้คำว่า “หยุด” เพราะบางคนที่ยินยอมในการเล่น BDSM คำว่า “หยุด” อาจจะไปกระตุ้นความตื่นเต้นแทน (อย่างการเล่นโดยสวมบทบาทเป็นโสรยา ในเรื่องจำเลยรัก) ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่ทำให้ BDSM แตกต่างจากการทำร้ายร่างกายและการล่วงละเมิดโดยไม่เต็มใจ และ BDSM นั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเพศสัมพันธ์กันเสมอไป อยู่ที่ข้อตกลงของแต่ละฝ่าย
บทบาทของ BDSM มีอะไรบ้าง ทำไมถึงน่าตื่นเต้น
BDSM นั้น อาจจะไม่ใช่รสนิยมที่ยอมรับในวงกว้าง และยังถูกมองว่าเป็นเรื่องแปลก บางคนอาจจะมองว่าคนที่มีรสนิยมแบบ BDSM อาจจะมีปมจากการโดนทำร้ายร่างกาย หรือปมจากการเลี้ยงดู แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เพราะคนที่อยากรู้อยากเห็น หรืออยากลองอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น ก็เลยก้าวเข้าสู่วงการ BDSM ก็มีไม่น้อย และ BDSM เป็นรสนิยมที่อาจจะไม่ได้อยู่บนบรรทัดฐานทางสังคม เพราะหลาย ๆ คนอาจจะมองว่ามันคือความรุนแรง การทารุณกรรมทางร่างกายและจิตใจ หรือแม้แต่ความเชื่อทางศาสนา ที่มองว่ามนุษย์มีเพศสัมพันธ์เพื่อการขยายเผ่าพันธุ์เท่านั้น ไม่ควรใช้ Sex เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความสุข แน่นอนว่าการสวมบทบาทและการเล่น BDSM นั้น คนที่รับบทบาทเป็น Submission ที่ถูกด้อยค่า ทำให้รู้สึกโดนลดทอนศักดิ์ศรี อาจจะมีการรู้สึกแย่หลังจากการเล่นได้ ซึ่งการเล่น BDSM นั้นจะมีการเทคแคร์หลังการเล่นทุกครั้ง โดยการพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถามถึงความคิดเห็นหลังจากการเล่นด้วย ว่าแบบไหนที่รู้สึกโอเค หรือไม่โอเค นอกจากนี้ หลายคนอาจจะรู้สึกดี ที่ได้รับบทเป็นคนควบคุม ซึ่งในชีวิตจริง ๆ อาจจะเป็นคนขี้อาย ยอมคน ซึ่งเป็นเหมือนการระบายปมในใจ หรือดึงเอา Alter Ego ของตัวเองขึ้นมาใช้ การดึง Alter Ego เป็นการสวมบทบาทโดยละทิ้งตัวตนของตัวเองชั่วคราว ทำให้เสริมความมั่นใจและค้นพบกับตัวตนใหม่ ๆ ของตัวเอง การเล่น BDSM นั้น เป็นการเล่นกับประสาทสัมผัส การรู้สึกตื่นเต้นจากการได้เป็นคนควบคุม หรือถูกควบคุม ตื่นเต้นจากการทำอะไรที่น่าอาย อย่างการเปลือย หรืออยู่ในสภาพกึ่งเปลือย การสวมบทบาท การโดนจองจำ การโดนทำโทษตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก และการได้รับคำชม บางคนที่ไม่สามารถเติมเต็มความสุขให้คู่ของตัวเอง ก็สามารถเติมเต็มความสุขนั้นโดยการยอมให้คู่ของตัวเองไปมีอะไรกับคนอื่น หรือการมีบุคคลที่สามมานั่งมอง ในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น บางครั้งอาจจะมีการสลับบทบาทในการเล่น ระหว่างผู้ควบคุม และผู้ถูกควบคุม เรียกว่า การ ‘Switch’
ของเล่น BDSM มีอะไรบ้าง
หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “โซ่ แส้ กุญแจเทียน” มาก่อน ซึ่งนั่นก็คือส่วนหนึ่งของ BDSM แต่ของเล่น BDSM นั้นมีด้วยกันหลากหลายมาก ๆ ตั้งแต่การเล่นกับประสาทสัมผัสเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการปิดตา ไปจนถึงการเล่นแบบโหด ๆ ที่อันตราย อย่างการใช้เข็มเย็บ หรือใช้แท่งสวนเข้าไปในอวัยวะเพศ การห้อยหัว การบีบคอเพื่อควบคุมลมหายใจ การเล่นสิ่งปฏิกูลอย่างอุจจาระหรือปัสสาวะ เรามาดูกันดีกว่า ว่าของเล่นแบบ BDSM มีอะไรบ้าง
- ผ้าปิดตา เป็นไอเทมเริ่มต้นของการเล่นแบบ BDSM คือการปิดประสาทสัมผัสไม่ให้อีกฝ่ายมองเห็น และให้จินตนาการเอาเอง ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ สามารถโต้ตอบอีกฝ่ายจากการพูดคุย และการสัมผัสเพียงเท่านั้น
- ปลอกคอ มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่โชคเกอร์ธรรมดา ไปจนถึงปลอกคอที่ควบคุมท่าทางไม่ให้ขยับไปไหนได้ การให้ปลอกคอถือเป็นการทำสัญญาทาส สำหรับการสวมบทบาท หรือ Role Play เป็นสัตว์เลี้ยง โดยในการเล่น จะมีการใส่ปลอกคอ คลานสี่ขา กินอาหารจากมือ หรือลูบหัว ปลอกคอที่ใช้สำหรับเล่น BDSM มักจะไม่รัดแน่นจนเกินไป และสามารถสอดนิ้วลงไประหว่างปลอกคอได้
- หน้ากากไอ้โม่ง หลาย ๆ คนอาจจะรู้สึกตื่นเต้น จากการโดนครอบหัว เหลือแต่ตา จมูก และปาก เพื่อสื่อสาร บางครั้งอาจจะใส่หน้ากากอื่น ๆ ด้วย เช่น หน้ากากสุนัข หรือหน้ากากที่ปิดหมดอย่าง Isolation Hood ที่ต้องอาศัยความเชื่อใจมาก ๆ เพราะทำให้ไม่ได้ยินเสียง มองอะไรไม่เห็น เหลือแค่ส่วนจมูกไว้หายใจ
- ไม้พายหรือไม้เรียว เด็กดื้อต้องโดนอะไรน้าา ไม่พายเป็นไม้ที่คล้ายกับไม้ปิงปองทรงสี่เปลี่ยม มักจะทำจากไม้ หนัง หรือแก้ว ส่วนไม้เรียว จะเป็นไม้แท่งยาว ๆ ตรงส่วนปลายเป็นหนัง เอาไว้ฟาดเป็นการลงโทษ และเพิ่มความเจ็บปวดให้ผู้เล่น
- แก๊ก ไม่ได้แปลว่ามุขตลกแต่อย่างใด แต่มันคืออุปกรณ์ในการง้างปากให้กว้างตลอดเวลานั่นเองค่ะ มักจะเป็นสายหนัง และคาดที่บริเวณปาก มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งลูกบอล เป็นแท่ง เป็นช่อง ทำให้น้ำลายไหลออกมาตลอดเวลา การใช้แก๊กมีความเสี่ยงมาก เพราะทำให้สื่อสารลำบาก และไม่สามารถพูด Safe Words ออกมาได้หากไม่ไหวหรืออยากหยุดเล่น ซึ่งต้องมีการตกลงกันก่อน ว่าควรจะใช้วิธีไหนแทน ในการส่งสัญญาณหยุดเล่น และของเล่นอย่างบอลแก๊กอาจทำให้หยุดหายใจขณะเล่น เพราะเป็นการอุดตันระบบหายใจทางปาก และแก๊กบางชิ้นก็สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อเหงือกและฟันได้
- คลิปหนีบหัวนม เป็นเหมือนคลิปหนีบและมีสายโซ่ตรงกลางระหว่างคลิปทั้งสองอัน ใช้หนีบบริเวณหัวนม เพื่อสร้างความเจ็บปวด และเมื่อดึงคลิปออก จะทำให้เลือดกลับไปเลี้ยงบริเวณนั้น และทำให้รู้สึกเจ็บขึ้นมา
- แส้ ขาดไม่ได้กับไอเทมในการสร้างความเจ็บปวดอย่างแส้ ส่วนใหญ่มักจะใช้ในการลงโทษ โดยการตี มีหลากหลายขนาดและหลากหลายวัสดุ ทั้งแส้พู่ และแส้เส้นเดียว ที่ต้องใช้ความชำนาญในการสะบัด
- เชือก เป็นการเพิ่มความตื่นเต้นโดยการพันธนาการ และสร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายโดยการมัดไม่ให้ขยับไปไหน ต้องใช้ความประณีต ความเชื่อใจ และความระมัดระวังอย่างสูง เชือกมักจะทำจากผ้าฝ้าย และมีการมัดเชือกในรูปแบบที่แตกต่างกันไปหลากหลาย ศิลปะในการมัดเชือกเรียกว่า ‘ชิบาริ’
- กุญแจมือ บางคนอาจจะชอบการพันธนาการด้วยกุญแจมือ การล็อคไม่ให้ขยับตัวได้ตามใจชอบ การล็อคแขนล็อคขาไม่ให้ขยับไปไหนจนกว่าคนที่เป็น “เจ้านาย” จะอนุญาต หรือใช้ในการสวมบทบาทเป็นตำรวจกับผู้ร้าย
- เทียน น้ำตาเทียนอุ่น ๆ ที่หยดลงบนผิวหนัง จะช่วยเพิ่มความรู้สึกตื่นเต้นได้ เทียนที่ใช้ในการเล่น จะเป็นเทียนที่มีจุดเดือดต่ำ ทำมาจาก Soy Wax เวลาละลายจะอุ่น ๆ เท่านั้น อย่าไปหาใช้เทียนไหว้พระนะ แล้วจะหาว่าไม่เตือน!
- เข็มขัดพรมจรรย์ หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินมาบ้าง ของเล่นชิ้นนี้เป็นเข็มขัดที่สวมไว้ไม่ให้สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นหรือแม้แต่กระทั่งช่วยตัวเองได้ แต่มีช่องที่ทำให้สามารถปัสสาวะได้ตามปกติ มักจะใช้สร้างความตื่นเต้น ในการสวมบทบาทในการโดนควบคุม เพราะอำนาจทั้งหมดขึ้นอยู่กับคนถือกุญแจ
- จุกเสียบก้น มักจะทำมาจากวัสดุที่หลากหลายชนิด เช่นแก้ว โลหะ หรือซิลิโคน ใช้เสียบทางรูทวาร เพื่อทำให้เพิ่มความอับอายกับฝ่ายที่โดนกระทำมากขึ้น และเพิ่มความตื่นเต้นใกล้ ๆ จุด G-Spot มากขึ้นในผู้ชาย
นอกจากนี้ยังมีการเล่นแบบอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น การใช้เท้า การใส่รองเท้าส้นสูงแล้วเหยียบ การให้เลียนิ้วเท้า การทำตัวเป็นเด็ก การใช้น้ำแข็ง ดึงผม ฯลฯ ที่จะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตื่นเต้นจากการโดนทำโทษ โดนลดศักดิ์ศรี ทำให้รู้สึกอับอาย หรือรู้สึกถูกเติมเต็ม
ความเสี่ยงในการเล่น BDSM
ในการเล่น BDSM นั้น มีการขอความยินยอมจากผู้เล่นทั้ง 2 ฝ่ายก็จริง แต่บางครั้งก็มักจะเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิตอยู่บ่อย ๆ อาจจะเกิดจากความไม่ชำนาญ หรือไม่มีขอบเขตในการเล่นของผู้เล่น อย่างการบีบคอจนขาดอากาศหายใจ เป็นต้น และสัญญาที่ใช้ในการเล่นนั้น ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องหรือแจ้งความได้ ซึ่งถ้าหากเจอคนที่ไม่ดี ที่ใช้การเล่น BDSM ในการบังหน้า เพื่อหวังที่จะข่มขืนหรือใช้กำลังบังคับคนอื่นอย่างผิด ๆ ก็จะไม่สามารถแจ้งความเพื่อดำเนินคดีหรือเรียกร้องอะไรได้ เผลอ ๆ อาจจะเจอเหตุการณ์ Victim Blaming โดยการพูดใส่ว่าเป็นการ “สมยอม” ทั้ง ๆ ที่มีกฎว่า ถ้าเล่นแล้วจู่ ๆ อยากหยุดโดยการพูด Safe words เป็นสัญญาณ แต่อีกฝ่ายไม่หยุด ก็ถือว่าเป็นการข่มขืนโดยไม่สมยอมเช่นกัน แต่ในการไม่สมยอมนั้น ไม่สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ เพราะจะโดนมองว่าเป็นการเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง และไม่ระมัดระวังเอง เพราะการเล่นแบบ BDSM นั้นก็ค่อนข้างที่จะไม่มีการยอมรับจากสังคมในวงกว้าง และยังถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสี่ยงสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองเล่นอะไรแบบนี้ดู และเสี่ยงมาก ๆ หากเล่นโดยขาดความรู้ ความชำนาญในการเล่น (ของเล่นแต่ละแบบ หรือท่าทางแต่ละท่า จะต้องมีเวลาจำกัด ว่าควรไม่เกินกี่นาที กี่วินาที ระดับความแรง ฯลฯ) ความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การโดนแบล็กเมล์ หลอกชิงทรัพย์ คุกคามทางเพศ (ซึ่งไม่ต่างจากการนัดเจอกับคนแปลกหน้าในรูปแบบอื่น ๆ)
Cover Source : 1
การเล่น BDSM ถือเป็น Sex Therapy อย่างหนึ่งทางประเทศฝั่งตะวันตก รสนิยมแบบ BDSM ยังไม่เปิดกว้างสำหรับประเทศฝั่งตะวันออกนัก ถ้าเปิดตัวว่ามีรสนิยมแบบ BDSM ก็อาจจะเจอสายตาแปลก ๆ หรือการตัดสินจากคนรอบข้างได้ สำหรับอายุที่เหมาะสมในการเริ่มเข้าวงการ BDSM ควรจะมีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะเป็นช่วงวัยที่มีวุฒิภาวะที่เหมาะสม และสามารถรับผิดชอบคู่ในการเล่นได้หากว่ามีอุบัติเหตุในระหว่างการเล่น อย่างไรก็ตาม การเล่น BDSM สำคัญอยู่ที่ “ความยินยอม” “ความปลอดภัย” และ “มีสติ” ในการเล่นของทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงความเชื่อใจ และการมีขอบเขตในการเล่นอีกด้วย ใครที่จะเข้าสู่วงการนี้ อาจจะต้องทำการบ้านในการหาข้อมูลเยอะ ๆ เพื่อความปลอดภัย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
Reference :
วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. ธเนศ ยุคันตวนิชชัย. 2020. "BDSM สัญญาแพ่งว่าด้วยการสร้างความสุขกับการยินยอมจากการถูกผู้อื่นทรมาน อันปราศจากความผิดทางอาญาภายใต้การทรมานผู้อื่น" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pkrujo/issue/view/16253 สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565
Rajvi Desai. 2019. "Kink 101: Everything You Need to Know About BDSM" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://theswaddle.com/kink-101-everything-you-need-to-know-about-bdsm/ สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565
Aryelle Siclait And Korin Miller. 2021. "A Beginner's Guide To BDSM, With Tips From A Sex Therapist" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.womenshealthmag.com/sex-and-love/a19957328/bdsm-beginners-guide/ สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565
Psychology Today. 2021. "BDSM" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.psychologytoday.com/us/basics/bdsm สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565