หลาย ๆ ครั้งเรามักจะคิดว่าความรักเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของการมีชีวิต เวลาที่เราวางแผนว่าเราจะมีชีวิตแบบไหน อยากสมบรูณ์แบบก็ต้องมีการงานที่ดี การเงินที่ดี และความรักที่ดีใช่ไหมคะ วันนี้ Wongnai Beauty ได้เอาความหมายของความรักมาขยายความให้ทุกคนได้ฟัง รวมถึงวิธีการแสดงความรัก และบาดแผลที่อาจเกิดขึ้นได้จากความรัก ถ้าอยากรู้แล้วไปดูกันต่อได้เลยค่ะ
ความรักคืออะไร ?
ต้องบอกว่า ความรัก เป็นเรื่องที่ถูกศึกษากันมาอย่างยาวนาน และปรากฏในแทบทุกแง่มุมของชีวิต เราสามารถเห็นการสร้างความสัมพันธ์ ความรักได้จากวรรณกรรม หรือสื่อต่าง ๆ ทั้งภาพยนตร์ ละคร งานเขียน บทกวี งานศิลปะ ทุกอย่างมีเรื่องของความรักอยู่ในนั้นหมดเลย ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายมากขึ้น ความรักเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนในจิตใจของมนุษย์ ความรักเป็นเหมือนดาบสองคม ด้านหนึ่ความรู้สึกนี้จะช่วยเปลี่ยนโลกทั้งใบของคน ๆ หนึ่งได้เลย และอีกสิ่งหนึ่งก็สามารถทำลายชีวิตของเราได้อีกเหมือนกันหากเรารักไม่สามารถที่จะควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้
ความรักถูกสร้างภาพให้สวยงามจากสื่อต่าง ๆ ให้เราเห็นและในทางเดียวกันความรักก็ถูกสร้างเป็นเครื่องมือในการควบคุมบางอย่าง บงการคนอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นความรักความคาดหวังจากเป็นลูก หรือความรักความคาดหวังจากสนามี สิ่งเหล่านี้หลอมให้คนเรามีความคาดหวังในตัวของใคนอีกคนมาก ๆ นอกจากนี้ความรักเป็นสิ่งที่มีนิยามหลากหลายมาก ๆ เลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราถามใครและเขามองความรักผ่านมุมมองชีวิตยังไงบ้างนั่นเอง
ความรักในแง่มุมของปรัชญา มีความน่าสนใจยังไง?
อาแลง บาดิยู (Alain Badiou) เป็นนักปรัชญาชาวฝรั่งเศสที่ได้พูดถึงความรักเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจว่า ความรักเป็นเงื่อนไขรูปแบบหนึ่งของปรัชญา ซึ่งความรักไม่ได้เป็นเรื่องของคนสองคนแต่ยังมีมิติอื่น ๆ ร่วมด้วยควบคู่ไปกับศิลปะ การเมือง และวิทยาศาสตร์ แต่ปรัชญาไม่สามารถผลิตความจริงใด ๆ ได้ด้วยตัวของมันเอง ซึ่งสิ่งที่ปรัชญาทำได้จะเป็นการเผยความจริงมาจากเงื่อนไขต่าง ๆ และเมื่อไรก็ตตามที่เงื่อนไขเปลี่ยนแปลงไปปรัชญาเปลี่ยนตัวเองใหม่เช่นกัน
นอกจากนี้บาดิยูได้บอกเอาไว้ว่า ความรัก คือ คอมมิวนิสต์แบบจำกัด (Minimal Communism) นี่เป็นนิยามแห่งความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นไปได้ คอมมิวนิสต์แบบจำกัดเป็นสิ่งที่ทำให้ความรู้สึกของการมีบางสิ่งบางอย่างร่วมกันมีความสำคัญกว่าความเห็นแก่ตัว มันคือ ความสำเร็จร่วมกันของหมู่คณะมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว พูดให้เข้าใจคือการมีความรักเป็นการถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพกึ่งหนึ่ง เพราะเราจะต้องแบ่งพื้นของตัวเองให้ใครอีกคนครึ่งหนึ่ง เช่น อยากกินอะไรก็ต้องถามความเห็นอีกฝ่าย หรืออยากดูหนังก็ต้องดูเรื่องอีกคนอยากดู เป็นต้น
สำหรับความรักในมิติอื่น ๆ ที่เราเห็นสมควรอยากให้ทุกคนไตร่ตรองคือเรื่องของค่าใช้จ่าย การที่เราจะมีความรักได้เราต้องมีเงินเพราะการไปเดต ไปกินข้าว หรือแม้แต่ดูหนังก็ต้องใช้เงิน มันคือภาระและความรับผิดชอบในรูปแบบหนึ่ง ฉะนั้นการมีความรักคือการทำบางสิ่งบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้จริงนั่นเองค่ะ
ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้นในความรักมีอะไรบ้าง?
- ความคิดถึง จริง ๆ มิติของความคิดถึงคือ "การไม่มีอยู่ตรงหน้า" แค่นั้นเลยค่ะ การที่เรามีความรักการมีอยู่เหล่านั้นจะสร้างความเคยชินให้กับตัวเราเอง แน่นอนว่าถ้าหายไปก็อาจจะคิดถึง แต่ความคิดถึงที่มีต้องคิดให้ดีว่ามันคือความรักจริง ๆ หรือว่าความหลงไหลชั่วครั้งชั่วคราว
- เซ็กส์ นอกจากเรื่องของความรู้สึกแล้วเซ็กส์เป็นอีกกิจกรรมที่มีความจำเป็นในชีวิตคู่ แต่ต้องแยกกันกับความรู้สึกนะคะ เพราะความรักกับเซ็กส์เป็นคนละเรื่องกัน เราสามารถมีเซ็กส์โดยที่ไม่ต้องมีความรักได้ค่ะ
- ความตื่นเต้น แน่นอนว่าความรักเป็นความรู้สึกใหม่ที่มักจะส่งผลให้ใจเต้นแรงในเชิงกายภาพ เขาทำดีกับเราเราอาจจะใจแรงแต่ไม่ได้หมายความว่านั่นคือความรัก เพราะเขาอาจจะทำดีกับทุกคนได้ไม่ใช่แค่เราคนเดียวเท่านั้น
- รักเพราะต้องการผลประโยชน์หรือบางสิ่งบางอย่าง ถ้าเรามองในแง่ดีความรักกฌจะเป็นเรื่องที่ดีแต่อีกแง่ความรู้สึกละเอียดอ่อนมาก ๆ เหมือนกัน ฉะนั้นหากมีคคนมาทำดีด้วยเราก็อาจจะต้องคิดให้ดีว่าเขาคาดหวังอะไรจากเรามากกว่ากัน ฉะนั้นต้องคิดให้เยอะมากกว่านี้กับการรกระทำของคนอื่น ๆ ที่เข้ามาหาเรา
วิธีการแสดงความรักไม่มีรูปแบบที่ตายตัว
สำหรับการแสดงความรักเราคิดว่าขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าการจะบอกว่าต้องทำอะไร เพราะบางคนรักด้วยการกระทำที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าห่วงใย หาข้าวให้กิน ซื้อของมาฝาก แบบนี้ก็ถือว่าเป็นการแสดงความรักรูปแบบหนึ่ง หรืออย่างตัวเราเองก็จะชอบแสดงความรักผ่านการใช้เงินซื้อของให้คนที่เรารัก ความรู้สึกหลังจากที่ผู้รับได้ของและมีรีแอ็คชั่นที่ดีใจสิ่งนั้นทำให้เรามีความสุข ฉะนั้นการแสดงออกทางความขึ้นอยู่กับวิธีการส่วนบุคคลเลย แต่ถ้าให้พูดแบบภาพกว้างอาจจะเป็น การลดความเห็นแก่ตัวให้น้อยลง มั่นใส่ใจคนที่อยู่ข้าง ๆ และตั้งใจฟังเขาอย่างแท้จริง นี่ถือเป็นการแสดงความรักได้เหมือนกันค่ะ
อยากมีความรักต้องคำนึงอะไรบ้างในชีวิต?
เราอยากทำลิสต์ให้เช็กหันหน่อยว่าถ้าอยากมีความรักเราต้องมีความพร้อมอะไรบ้าง เพราะความรักเป็นเรื่องที่ดีและสวยงาม แต่ถ้ารักอย่างไม่พร้อมก็อาจจะทำให้เราขาดสติและสูญเสียความเป็นตัวเองไปได้
ความพร้อมทางครอบครัว : ที่เริ่มด้วยความพร้อมทางครอบครัวเพราะว่าเมื่อเราอายุถึง วัยถึงเรื่องครอบครัวก็อาจจะไม่น่ากังวลเท่านัก แต่ถ้าครอบครัวไหนที่คุณพ่อคุณแม่หัวโบราณก็อาจจจะยากหน่อย ฉะนั้นอยากให้ศึกษาวัฒนธรรมของครอบครัวให้ดี ดูว่าขอบเขตของตัวเองให้พร้อมก่อนจะมีความรักนั่นเอง
สถานะทางการเงิน : ถัดมาทำไมเราถึงพูดเรื่องการเงินล่ะ หากจะมีความรักในวัย 20 ปีขึ้นไป เรื่องของการเงินเรียกได้ว่าจำเป็นมาก ๆ การมองภาพรวมในชีวิตของเราจะเริ่มคิดถึงอนาคตข้างหน้า จะมีแฟนคนนี้อยู่ไหม ไลฟ์สไตล์เป็นยังไง ใช้เงินต่อครั้งที่เจอกันมากน้อยแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ตต้องคิดให้มากถ้าอยากแฟร์ ๆ ใช้วิธีหารกันจ่ายก็ได้ หรือถ้าใครอยากให้แฟนซัพพอร์ตก็อาจจะต้องเลือกคนที่เขาโอเคกับเงื่อนไขนั้น ๆ นั่นเองค่ะ
เรียนรู้เซ็กส์อย่าประมาท : เตรียมการป้องกันให้พร้อมเสมออย่าคิดว่าไม่มีอะไรจะดีที่สุดเคยได้ยินประโยคนี้ไหมคะ ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตา ถ้าไม่ท้องหรือติดโรคขึ้นมาเราก็อาจจะไม่ได้ระวังตัวเองขนาดนั้น เซ็กส์เป็นกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับแฟนแบบสกินชิพที่สุดก็จริง แต่อย่าลืมว่าเราไม่รู้พื้นเพของคน ๆ นั้นนะคะ ฉะนั้นป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
มีทักษะเรื่องการฟัง : การจะมีความรักเราต้องหัดเป็นผู้ฟังที่ฟังให้ถึงใจค่ะ สำคัญมากถ้าเราอยากคบกับใครสักคนต้องเงียบบ้าง และฟังอย่างตั้งใจมากขึ้นเวลาทะเลาะกันจะได้เห็นถึงปัญหาและแก้ได้อย่างตรงจุด ความรักความสัมพันธ์จะได้อยู่ด้วยกันได้นาน ๆ เชื่อเรานะคะ เพราะผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาแล้ว
ยอมสูญเสียตัวเองในบางเรื่อง : หลาย ๆ มักเชื่อว่าถ้าเราเจอคนที่ใช่เรามักจะเป็นตัวเองได้แบบ 100% แน่นอน จริง ๆ เราจะบอกว่ายิ่งเจอความรักที่ใช่ คนที่ใช่ ในเวลาที่ถูกต้อง เรายิ่งต้องพยายามค่ะ ไม่มีความรักหรือความสัมพันธ์ไหน ๆ ที่เราไม่ต้องพยายาม ยิ่งรักมากยิ่งต้องพยายามมาก ๆ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้อยู่ได้ในระยะยาว เราถึงบอกว่าการเป็นตัวเอง 100% คนข้าง ๆ เขาอาจจะไม่ชอบเราในบางเรื่องก็ได้ ทำให้บางช่วงขณะของชีวิตเราอาจจะต้องยอมสูญเสียตัวเองในบางเรื่องเพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่คน ๆ นั้น คนที่เรารัก
รอยแผลของความรักที่อาจเกิดขึ้นได้ หากเรารักเกินความพอดี
บาดแผลทางจิตใจ (trauma) เกิดขึ้นได้จากความรักในหลาย ๆ การกระทำค่ะ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เราจะเจอได้จากความรักในครอบครัว ในระยะแรกเริ่มเราอาจจะไม่รู้สึกแต่หากสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทั้งคำพูด และการแสดงออก อาจจะเกิดภาพจำที่ไม่ดีและความรักที่ดีก็จะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยนั่นเองค่ะ ต้องบอกว่าบาดแผลทางใจต้องใช้เวลานานมาก ๆ ในการรักษา และเราไม่สามารถเร่งให้แผลนั้นหายได้ สิ่งที่สำคัญในการจะมีความรักคือเราต้องมีสติให้ตลอดเวลานั่นเองค่ะ ถ้าเรารักจนลืมตัวก็อาจจะสร้างบาดแผลในใจให้กับคนอื่น ๆ ได้เหมือนกัน
สุดท้ายไม่ว่าอยากรักแบบไหนก็ต้องสร้างความรักมั่นคงให้กับตัวเองให้ได้ค่ะ ที่สำคัญอย่างลืมรักตัวเองให้มาก ๆ เพราะเมื่อไรก็ตามที่เรารักตัวเอง เวลาที่เราต้องเจอกับความเจ็บปวดเราจะหาทางออกมาได้ไวที่สุดนั่นเอง ใดใดคือความรักเป็นความรู้สึกที่จับต้องได้ยาก แต่เราเชื่อว่าถ้าเราเต็มได้ด้วยตัวเราเองอยู่แล้วการมีใครอีกคนถือเป็นโบนัสของชีวิตแล้วล่ะค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ