อุปกรณ์
อุปกรณ์ที่ใช้- น้ำร้อน 89-93 เซลเซียส* 240ml- เมล็ดกาแฟ 20g**- ดริปเปอร์ (Dripper)- กระดาษฟิลเตอร์ (Filter)- เครื่องบดกาแฟ- ถ้วยตวงน้ำ- เทอร์โมมิเตอร์ (จะมีหรือไม่มีก็ได้)- เครื่องชั่งน้ำหนัก (จะมีหรือไม่มีก็ได้) *ความร้อนของน้ำขึ้นอยู่กับเบลนด์ของเมล็ดกาแฟ
**สัดส่วนเมล็ดกาแฟและน้ำที่ทางร้าน Gallery กาแฟดริปใช้คือ 1:12 ได้รสชาติเข้มพอดี
อุปกรณ์เหล่านี้ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านกาแฟดริป, โซนเครื่องครัวในห้างหรือสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ก็ได้ค่ะ แค่นี้ก็สร้างบาร์กาแฟเล็กๆ ในบ้านของเราเองได้แล้ว



เมล็ดกาแฟ & เครื่องบด
กาแฟจะรสชาติดี ปัจจัยสำคัญคือความสดใหม่ของเมล็ดกาแฟ ยิ่งถ้าบดเมล็ดกาแฟเองก่อนชงได้ ยิ่งสร้างรสชาติและมิติให้กับกาแฟของคุณได้มากยิ่งขึ้นค่ะ เมล็ดกาแฟ ควรใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อน - ปานกลางซึ่งยังมีรสชาติหวานและความเปรี้ยวหลงเหลืออยู่ เวลาทานแล้วยังได้กลิ่นและรสชาติของสายพันธุ์นั้นๆ เพราะหากกาแฟคั่วเข้มมากเกินไป กลิ่นและรสจะหายจนเหลือแต่ความขม

เครื่องบด- ใช้เครื่องบดที่เหมาะสมกับการดริป
- ความละเอียดของเมล็ดกาแฟประมาณน้ำตาลทรายขาว เวลาเอานิ้วหยิบขึ้นมา ยังรู้สึกถึงความเป็นเม็ด ไม่ใช่แป้ง
- ควรบดเมล็ดได้ความละเอียดเท่ากัน


ดริปเปอร์
ดริปเปอร์
เลือกใช้ดริปเปอร์ที่มีคุณภาพและออกแบบมาเพื่อการชงอย่างเหมาะสม สิ่งสำคัญคือต้องชงง่าย “ทำให้น้ำไหลได้ดี ไม่อั้นน้ำ และสามารถควบคุมการไหลของน้ำได้”

ประเภททั่วไปของดริปเปอร์
- ดริปเปอร์ที่มีร่องลึก ใช้กับฟิลเตอร์ที่เรียบ- ดริปเปอร์ที่เรียบ ใช้กับฟิลเตอร์หยัก หรือเรียกว่าแบบ Wave - ดริปเปอร์ Chemex ใช้กับฟิลเตอร์ที่เรียบ แต่มีรูให้น้ำไหลขนาดใหญ่
** ฟิลเตอร์มีหลายแบบแต่ในที่นี้ยกตัวอย่างเฉพาะประเภทกระดาษ (เรียบ หยัก)



อุปกรณ์ที่สามารถหาซื้อตามได้ง่ายๆ



ขั้นตอนการชงดริปของที่ร้าน
ใช้เวลาประมาณ 3 นาที/3 นาทีครึ่ง
1. บดเมล็ดกาแฟ 20g ให้มีความละเอียดเท่ากับน้ำตาลทรายขาว

2. วางฟิลเตอร์ลงในดริปเปอร์ เทน้ำร้อนล้างฟิลเตอร์เพื่อลดกลิ่นของกระดาษ แล้วเทกาแฟให้ลงตรงกลางของฟิลเตอร์ให้เป็นทรงภูเขา ใช้นิ้วหรือหาช้อนมามาร์คจุดตรงกลางไว้ เหมือนภูเขาไฟหัวตัด

3. ช่วงแรก Pre-infusion ค่อยๆ เทน้ำ จากกา เริ่มหยดตรงจุดนั้นตรงกลางแล้ววนออกด้านนอก ให้กาแฟพอชุ่มน้ำ ค่อยๆ หยด และเร่งความเร็วขึ้น ขั้นตอนนี้น้ำยังไม่ไหลลงมา ใช้เวลาประมาณ 30-45 วินาทีแรก

4. ช่วงกลาง เร่งความเร็วในการเทให้เร็วและแรงขึ้นให้ได้น้ำเยอะที่สุด น้ำกาแฟบนดริปเปอร์เป็นสีทองน้ำตาล ค่อยๆ หยดจนน้ำกาแฟที่ได้เริ่มเจือจาง น้ำยุบเร็วขึ้น หรือช่วงน้ำปริมาณ 150ml หรือถึงนาทีที่ 2

5. ช่วงท้าย เบามือลง ค่อยๆ หยดช้าๆ จนครบ สีของน้ำเจือจางและใสขึ้น ประมาณช่วงนาทีที่ 2-3

6. เทกาแฟลงแก้ว ดื่มได้เลย!


*ปัจจัยสำคัญคือการสังเกตสีและลักษณะของน้ำและผงกาแฟ ระยะเวลาเป็นแค่ปัจจัยหนึ่ง*
Tips
Tips
- ห้ามให้น้ำขาด! ในการเทอย่าให้ผงกาแฟแห้ง เพราะจะทำให้ผงกาแฟเฝื่อน ฝาด ขม
- ไม่เทน้ำให้โดนฟิลเตอร์ตรงๆ เพราะจะทำให้กลิ่นของฟิลเตอร์ติดลงมาที่กาแฟ
- เทน้ำให้ทั่วสม่ำเสมอ โดยเริ่มจากตรงกลางแล้วหมุนออกมาด้านนอก ยิ่งเทน้ำเน้นลงตรงไหน กาแฟส่วนนั้นก็จะโดนสกัดออกมามาก ดังนั้นจึงต้องเทให้เท่ากัน
- ไม่ควรให้น้ำขังหรือผงกาแฟเป็นโคลนเวลาชง อาจจะเป็นเพราะเครื่องบดกาแฟได้ละเอียดหรือหยาบไป ไม่สม่ำเสมอ ทำให้รสชาติเปลี่ยน
- เมล็ดกาแฟที่ถูกคั่วมาแต่ละแบบมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกัน ปัจจัยต่างๆ ก็เปลี่ยนไป
- น้ำยิ่งร้อนยิ่งสกัดกาแฟออกมาได้เยอะ อยากได้รสชาติแบบไหนขึ้นอยู่กับความชอบ และเมล็ดของกาแฟ


ขอให้สนุกกับการดริปกาแฟทั่วโปรดของคุณนะคะ หรือถ้าใครสนใจอยากซื้ออุปกรณ์ เมล็ดกาแฟหรืออยากแวะไปชิมกาแฟดริปดีๆ
ก็สามารถแวะไปที่ร้าน Gallery กาแฟดริป ที่ชั้น 1 หอศิลปะวัฒนธรรมกรุงเทพกันได้ทุกวันเลยนะคะ :)

และสำหรับใครที่ต้องการอยากมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง เรายังมีบทความดี ๆ เกี่ยวกับร้านกาแฟให้ติดตามอีกมากมาย