
#วงในบอกมา
- เฮียทูเคยเป็นบริกรอยู่ในครัวโรงแรม ทำให้ซึมซับวิชาการทำอาหารสูตรภัตตาคารมาหลากหลายเมนู โดยอาหารที่ร้านเน้นรสชาติเข้มข้นแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
- เฮียทูยืนยันจะขายเพียงจานละ 10 บาทไม่ขึ้นราคา แม้ว่าวัตถุดิบจะขึ้นแค่ไหนก็ตาม เพราะอยากให้ทุกคนในชุมชน หรือคนรอบข้างมีของดี ๆ กินในทุกวัน
- ช่วงนี้ต้องประหยัดเงิน ถ้าอยากกินอาหารหลากหลายรสชาติดี สั่งได้ ที่นี่ รับรองว่าคุ้มเกินราคา

“คนชอบบอกว่าผมโง่ ขายไปทำไมแค่ 10 บาท เมื่อไรจะรวยขายข้าวราคาถูก แต่คุณเชื่อไหม จะกี่วิกฤตร้านผมก็ไม่เคยยอดขายตก ถึงผมจะขายราคาถูก แต่ลูกค้าผมได้กินของดีทุกคน ทุกครั้ง ไม่เชื่อถามพวกเขาสิ สิ่งนี้แหละทำให้ผมไม่เคยล้ม”
หากคุณคิดว่าอาหารตามสั่งจานละ 10 บาท จะมีแค่แถวนอกเมื่อหรือต่างจังหวัด อยากให้คุณลบความเชื่อนั้น และหันมารู้จักกับ เฮียทู เชฟริมทางขรุ่นใหญ่วัย 70 ปี ที่ยืนหนึ่งย่านสวนสมเด็จย่าซอยอุทัยเรื่องการทำอาหารด้วยลีลาที่เหมือนกับเชฟที่มาจากภัตตาคาร และราคาดีงามจนเป็นที่รักของชาวบ้านยาวนานกว่าหลายสิบปี

“เมื่อก่อนผมเป็นบ๋อยในครัว ก็แอบดูเขาทำอาหารไป จนวันหนึ่งผมอยากทำอะไรเป็นของตัวเอง ผมเคยลำบาก ผมเข้าใจคนลำบากด้วยกัน ราคาแรกที่ผมขายคือ 3 บาท แล้วก็มาขึ้นเป็น 10 บาทเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และหลังจากนั้นก็ไม่ขึ้นอีกเลย ทั้งที่ช่วงน้ำท่วมของแพงมาก กะเพราะโลละร้อยแต่ผมก็ขายราคาเดิม เพราะของมันขึ้นลงตลอด ถือว่าคืนกำไรให้ลูกค้าไป”
เดี๋ยวนี้ถ้ากำเหรียญสิบเดินในกรุงเทพฯ ก็แทบจะซื้ออะไรไม่ได้แล้ว แต่หากมาที่สวนสมเด็จย่า ผมจะได้ข้าวกะเพรารสชาติดี หรือจะเป็นหมูกระเทียมแสนเลิศรสกลับบ้าน ไม่ใช่เพียงแค่อาหารที่ทำส่ง ๆ แต่สิ่งที่ได้เกินราคาไปมากจริง ๆ

“เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้ทำอร่อยนะ ผมเรียนรู้ทุกวัน ถึงผมจะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่ผมตั้งใจกับทุกสิ่งที่ผมทำ ผมไม่ได้ทำทิ้งไว้แล้วตัก ๆ ขาย ผมทำใหม่ ๆ ตลอด อย่าไปมองเรื่องขนาดของร้าน คือเมื่อไรที่ผมคิดจะทำอาหารขายหรือทำให้คนอื่นกิน ก็ต้องทำให้สุดฝีมือ นั้นคือการให้เกียรติอาชีพผม ให้เกียรติคนที่เขาเลือกจะมาฝากท้องกับผม”

และยามวิกฤตแบบนี้ร้านของเฮียทูได้รับผมกระทบอะไรมากน้อยแค่ไหน?
“ผมไม่เคยได้รับผมกระทบ ไม่ว่าวิกฤตไหน คือหลายคนชอบคิดว่าผมโง่ แต่จริง ๆ ผมคิดไว้แล้วว่า การจะทำให้ร้านอยู่ได้ในทุกสถานการณ์คือผมต้องขายราคาที่สมเหตุสมผล รสชาติผมต้องดี ผมอาจไม่ได้รวยแบบรวดเร็ว แต่ผมมีกินระยะยาว ผมซื่อสัตย์กับความตั้งใจแรกของผม ตอนแรกมันยากมากกับการจะทำให้คนรู้จักและเชื่อว่า 10 บาทก็อร่อยได้นะ แต่ผมทำมาตลอด จนตอนนี้ผมมีลูกค้าประจำไม่ขาดสาย ลูกค้าจรที่เพิ่งลองส่วนใหญ่ก็มาซ้ำ สิ่งที่ผมอยากบอกกับคนเริ่มทำอะไร หรือกำลังทำอะไรอยู่ สิ่งสำคัญคือคุณต้องซื่อสัตย์ และให้เวลากับทุกอย่างที่ทำ”

ตั้งแต่เรามา เฮียยังคงอยู่หน้าเตาร้อน ๆ และปรุงอาหารด้วยตัวเองไม่หยุดมือ และแล้วก็ถึงคิวเราได้ลิ้มลอง “ข้าวผัดกะเพราหมู” (10 บาท) โดยกะเพราของทางร้านจะเป็นแบบรสเผ็ด หมูสับแบบระเอียด ถึงเครื่องรสปรุง หอมกลิ่นไหม้กระทะเล็ก ๆ เป็นเมนูขายดีที่เฮียทำไม่ได้พักเลยจริง ๆ ต่อด้วย “ข้าวหมูกระเทียม” (10 บาท) หมูชิ้นใหญ่ นุ่มกำลังดี ถูกปรุงรสด้วยกระเทียม กลิ่นปรุงไทยและเครื่องปรุงซึมเข้าถึงเนื้อหมูทุกนู กัดแล้วรู้สึกฉ่ำเนื้อและรสมาก ใครอยากลองทั้งสองในห่อเดียวก็ได้ด้วยนะ



นอกจากนี้ยังมี “ราดหน้า” (10 บาท) แสนโอชาที่ให้หมูมาคุ้มราคา พร้อมผักกรอบ ๆ และเส้นที่หอมกลิ่นไหม้ของกระทะ นอกจากนี้ที่ร้านยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมายให้ได้ลอง เมนูที่ไม่มีในป้ายและเราลองสั่งคือ “ผัดซีอิ๊ว” (20 บาท) ที่รสชาติเกินราคาไปมาก ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


เราประทับใจอาหารฝีมือเฮียทูไม่น้อย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่าสิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือสิ่งที่เฮียทำมาตลอด 50 ปี จากบริกรในห้องอาหารสุดหรู สู่การทำอาหารดี ๆ ในราคาย่อมเยา เฮียไม่เคยสนใจใครจะว่าเฮียว่าอะไร ทำไมถึงยังขายราคานี้ เพราะสิ่งเดียวที่เฮียสนใจคือ จะทำอย่างไรให้ร้านอยู่ได้นาน และเป็นที่ต้องการของคนในทุกสถานการณ์ และตอนนี้เฮียทำให้เราเห็นแล้วว่า ความตั้งใจของเฮีย ไม่เคยทำให้เฮียผิดหวังเลยสักครั้งเดียว

พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว อยากให้ได้ลองกันสัดครั้ง ราคาช่างเหมาะกับช่วงนี้จริง ๆ ถึงตอนนี้จะนั่งที่ร้านไม่ได้แต่เฮียยังมีเป็นห่อขายกลับบ้านนะ โดยวสามารถสั่งเดลิเวอรีได้ ที่นี่ ส่งอาหารดี ๆ ถึงหน้าบ้านคุณ
ติดตามบทความน่าสนใจได้ที่




