BANGKOK BALCONY Baiyoke Sky Hotel ชั้น 81

เริ่มเข้าหน้าหนาวแล้ว หลังจากฝนมายาวๆ เราก็ต้องหาสถานที่สวยๆเพื่อได้ทานทั้งอาหารอร่อยๆและบรรยากาศดีๆ เราจึงได้มาที่นี่ค่ะ สำหรับห้องอาหารที่เราเลือก เป็นห้องอาหาร Bangkok Balcony อยู่ที่ชั้น 81 ของโรงแรมใบหยกสกาย (Baiyoke Sky Hotel) หรือตึกใบหยก 2 นั่นเอง อยู่ใจกลางเมือง เดินทางมาสะดวกค่ะ ใครไม่มีรถ ก็มีรถเมล์หลายสาย ลงตรงหน้าอินทราสแควร์ แล้วเดินเข้าซอยราชปรารภ 3 ก็จะเห็นตึกสูงๆตึกนี้ได้ไม่ยากค่ะ หรือใครมีรถ ก็สามารถขับเข้ามาจอดในตึกได้เลย ซึ่งชั้น 6A ยังมีโซน Lady ด้วยนะคะ เมื่อมาถึงแล้ว เราก็ต้องขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 18 ก่อนค่ะ ซึ่งเป็นชั้นล้อบบี้ของโรงแรม เพื่อไปเอาบัตรรับประทานอาหารก่อนขึ้นไปรับประทานที่ชั้น 81 ค่ะ สำหรับใครที่มาเร็ว หรือใครที่มาแล้วอยากชมวิวสูงสุดของตึก อย่าลืมขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 83 ด้วยนะคะ จะมีสถานที่ถ่ายรูปวิวและจำหน่ายของที่ระลึก แต่ๆ เราต้องไปต่ออีกนิดนะคะ เดินบันไดกันต่อค่ะ กับกำแพงที่เป็นรูปอวกาศ (แอบน่าตื่นเต้นเล็กน้อย อิอิ) เพื่อไปยังชั้น 84 เป็นดาดฟ้าพื้นหมุนค่ะ ซึ่งพื้นจะเลื่อนอัตโนมัติไปรอบๆอย่างช้าๆ เพื่อให้เราสามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯได้ 360 องศาเลยค่ะ จะ selfie จะถ่ายรูปวิวก็เพลินสุดๆเลยค่ะ พอครบรอบ เราก็กลับทางเดิม จะลงลิฟท์หรือบันไดก็ได้ตามสะดวก เพื่อไปห้องอาหารที่ชั้น 81 กันค่ะ ห้องอาหาร Bangkok Balcony จะมีที่นั่ง 2 ส่วนค่ะ ซึ่งราคาและอาหารจะแตกต่างกันเล็กน้อย 1 ส่วนที่อยู่ด้านในกระจก จะเป็นโซนบุฟเฟห์นานาชาติ ราคา 840 บาท จำกัดเวลา 2 ชั่วโมง ทานหมดมี Cash back 100 บาทด้วย ซึ่งโซนนี้ทางโรงแรมแจ้งว่ามีประมาณ 180 ที่นั่งเลยค่ะ 2 ส่วนที่เป็น Open Air ราคา 1,450 บาท ไม่จำกัดเวลาทานค่ะ จะบริการอาหารพิเศษที่เป็นอาหารกริลล์ และซีฟู้ดบุฟเฟห์นานาชาติ เพิ่มเติม ยังมีอาหารให้แต่ละท่านได้เลือกด้วยตั้งแต่ ซุป อาหารจานหลัก ของหวาน และไวน์ โดยเมนูที่เป็นเซตพิเศษจะเสริฟทุกโต๊ะ ทานได้ประมาณ 4-5 ท่าน แต่ถ้าใครยังไม่อิ่ม ก็สามารถไปทานโซนบุฟเฟห์ด้านในได้ด้วยค่ะ และพิเศษสุดๆอีกคือมีบริการจากพนักงานประจำทุก Balcony แค่ยกมือ ก็ยิ้มแย้มพร้อมบริการเราอย่างประทับใจสุดๆค่ะ โซน Open Air นี้ จะแบ่งออกเป็น 4 Balcony ซึ่งทางโรงแรมตั้งชื่อตามทิศทั้ง 4 ทิศค่ะ ก็คือ เหนือ, ใต้, ออก และตก ซึ่งแต่ละทิศจะมีวิวที่ต่างกัน บางทิศจะเห็นทางด่วนที่ตัดกับตึกอย่างสวยงาม บางทิศก็จะเห็นพระอาทิตย์กำลังตกดินสวยๆค่ะ และกลางคืนเก้าอี้ยังเปิดไฟให้มีสีสันสวยงามด้วยค่ะ แต่โซนนี้จะมีที่นั่งน้อยค่ะ ซึ่งแต่ละ Balcony จะบรรจุได้ประมาณ 20 ที่นั่งค่ะ และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องเลือก จอยจ้าขอเลือก… โซน Open Air ค่ะ อิอิ แต่วันที่เราไป เค้าปิดไป 2 โซนเลย เราก็เลยเลือกมานั่งทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่เห็นพระอาทิตย์ตก แต่วันที่ไป เมฆเยอะจนบังลูกสีแดงๆ เลยได้แต่ภาพแสงอาทิตย์สู้กะเมฆแทน ดูเหมือนมีพลังบางอย่างบุกโลกเลย! (เราดูการ์ตูนมากไปใช่เปล่า :P) ถึงจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แต่วิวก็สวยงาม และโชคดีที่ฝนไม่ตกค่ะ มาถึงอาหารกันดีกว่า เกริ่นมายาวมากกกกก แต่อยากให้เพื่อนๆที่จะไป จะได้รู้ว่ามีอะไรมั่งอ่ะเนอะ อ่านเราต่อเถอะนะ จะเข้าเรื่องกินแล้วจ้า ^_^ โซน Open Air จะมีอาหารสุดพิเศษที่เสริฟทุกโต๊ะ และอาหารที่ให้เราเลือกค่ะ ซึ่งเราไปกันหลายคน เลยได้ทานหลายอย่างเลยค่ะ ซึ่งจอยจ้าขอเขียนเป็นข้อๆนะคะ อาหารสุดพิเศษที่เสริฟทุกโต๊ะ (ไม่ได้เป็นบุฟเฟห์นะคะ) 1. Grilled Seafood (ทะเลเผา) เซตพรีเมี่ยมกริลล์ซีฟู้ด เสริฟมาจานใหญ่ ทานได้ประมาณ 4-5 ท่าน ซึ่งจะมีทั้ง ปูม้า, กุ้งแม่น้ำ, กั้ง, หอยเชลล์ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หยิบกั้งก่อนเลยค่ะ 55 เพราะของโปรด และก็ประทับใจค่ะ เนื้อสดอร่อย ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันดีค่ะ และก็ต่อด้วยกุ้ง ปู หอย เนื้อนุ่มหวานสด อร่อยปลื้มค่ะ 2. Sushi Sashimi (ซูชิ ซาชิมิ) สีสันน่าทานที่มีทั้งปลาดิบ และซูชิ ชอบอะไรก็คีบเลยค่ะ จอยจ้าก็แซลมอนก่อนเลย อิอิ ทานกับน้ำจิ้มนิดวาซาบิหน่อย อร่อยอิ่มพุงกันเลยค่ะ 3. Smoked Salmon (ปลาแซลมอนรวมควัน) สวยงามกับดอกกุหลาบสวยๆ เสริฟพร้อมโคลคัท แซลมอนเนื้อนุ่มๆเค็มๆนิดๆหอมๆรมควันหน่อย อร่อยดีค่ะ โคลคัทก็หนุบๆทานเพลินๆหยิบไปกี่ชิ้นไม่รู้ค่ะ >.< 4. สุกี้ญี่ปุ่น หรือชาบูหม้อไฟ โดยมีให้เลือกทั้ง เนื้อ หมู และ ซีฟู้ด เมนูนี้ไม่ได้สั่งค่ะ เพราะว่าที่เลือกทานไปก็เยอะแล้ว ต้องเผื่อท้องไว้ขนมในไลน์บุฟเฟห์ ก็เสียดายค่ะ ยังไงฝากเพื่อนๆที่จะไป ทานเผื่อเค้าหน่อยนะ 5. Caesar Salad (ซีซาร์สลัด) เป็นออเดริฟ เสริฟให้ทุกท่านค่ะ ต่อด้วย เมนูที่ให้เลือกทานค่ะ 6. ซุป จะเลือกได้ท่านละ 1 ซึ่งมี 3 เมนูค่ะ - Lobster Bisque (ซุปกุ้งล็อปเตอร์) อร่อยมากกก รสหอมๆกุ้ง มีเนื้อกุ้งด้วย ปลื้มมากค่ะ - Shark Fin Soup (ซุปหูฉลาม) รสชาติละมุน มีเนื้อหูฉลามเคี้ยวกรุบๆ อร่อยอีกถ้วยค่ะ - Seafood Tom Yum (ต้มยำทะเลรวม) เข้มข้นมาก ชอบค่ะ ใครที่ชอบทานต้มยำ ต้องชอบถ้วยนี้แน่นอนค่ะ มีเนื้อกุ้งมาให้ทานซดกะต้มยำเพลินๆด้วยค่ะ ขอข้าวสวยร้อยๆสักถ้วยเลยได้ป่ะ >.< 7. อาหารจานหลัก เลือกได้ท่านละ 1 เมนูค่ะ - New Zealand Lamb Chop (สเต็กซี่โครงแกะนิวซีแลนด์) เสริฟมา 2 ชิ้น ราดซอสมาชุ่มๆ เสริฟพร้อมมันบด อร่อยๆค่ะ เนื้อแกะไม่มีกลิ่นให้ขัดใจ เนื้อนุ่มหนุบ อร่อยๆ แนะนำเลยค่ะ และมันบดอร่อยมากกกก เนื้อนุ่มละเอียด อยากได้มาเบิ้ลๆเลยค่ะ - Australian Tenderloin Steak (สเต็กเนื้อสันในออสเตรเลีย) สามารถสั่งระดับความสุกได้นะ เนื้อนุ่มๆหนุบๆ ไม่มีกลิ่นเลยค่ะ เราเป็นคนไม่ได้สาวกคนทานเนื้อเท่าไหร่ ยังรู้สึกว่าทานได้เลยค่ะ อร่อยจนทานไปหลายคำเลยค่ะ อิอิ - Crispy Duck Leg in Tamarind Sause (สะโพกนางฟ้า) เสริฟพร้อมข้าวสวยค่ะ ชอบค่ะ หนังบางกรอบโดนใจ เนื้อเป็ดนุ่มๆหนุบๆ มีรสหวานนิดๆ เป็นอีกเมนูที่อยากให้ลองค่ะ - Salmon Steak (สเต็กแซลมอน) วางชั้นมาสวยๆ ด้านบนเป็นปลาแซลมอน ต่ออีกชั้นด้วยผักโขม และด้านล่างสุดเป็นมันบด เนื้อปลานุ่มๆดีค่ะ ทานกับครีมซอสเข้ากันดี ผักโขมอร่อย นุ่มๆชอบจัง และมันบดเนื้อนุ่มๆละเอียด แนะนำว่าทานรวมๆกันหมด หลับตาพริ้มฟินไปค่ะ 8. เครื่องดื่ม จะมีทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง 9. ตบท้ายด้วยชาหรือกาแฟ ท่านละ 1 แก้วด้วยค่ะ ซึ่งมีให้เลือกเป็น ชาจีน ชาเขียว และกาแฟค่ะ หลังจากที่อิ่มโซนนี้แล้ว เราไปกันต่อที่โซนบุฟเฟห์ด้านใน หาอะไรเพิ่มกันอีกนิดหน่อยดีกว่าค่ะ 1. ซีซาร์สลัด มีเจ้าหน้าที่คอยบริการทำให้ ซึ่งเป็นจานเดียวกับออเดริฟที่เราทานค่ะ 2. หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส เนื้อหอยชิ้นใหญ่ หอมๆชีส รสเค็มๆมันๆ 3. มันฝรั่งทอด อยู่ข้างๆหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส ทอดมากรอบด้านนอก ด้านในนุ่มๆ เค็มๆมันๆ ทานเพลินๆดีค่ะ 4. พิซซ่าฮาวายเอี้ยน 5. ลาบไก่, ยำหมูย่าง, เนื้อสันนอก และแซลมอนรมควัน วางเป็นถ้วยเล็กๆ ถูกใจสุดๆสำหรับเรา เพราะว่าเยอะกว่านี้คงทานไม่ไหว เลยหยิบมาลองสักหน่อย ลาบไก่มีเครื่องในด้วย ได้รสเผ็ดนิดๆเปรี้ยวๆเค็มๆ โอเคเลยค่ะ 6. กุ้งค็อกเทล เสริฟมาในถ้วยใสน่ารัก เราก็เลยหยิบมาชิมอย่างน่ารัก กับกุ้งเนื้อเด้งๆดีค่ะ 7. นาเบะ ซึ่งเราสามารถเลือกว่าอยากจะทานอะไรได้ตามชอบเลยค่ะ เริ่มจากเลือกเส้น เลือกลูกชิ้น เลือกใส่กุ้ง ปลาหมึก หรือปลาแซลมอน หรือใส่ทุกอย่างก็ได้เลยค่ะ และก็ผักต่างๆค่ะ 8. สลัด ที่อลังมากๆค่ะ ถ้าเลือกใส่หมด คาดว่าอิ่มได้เลยค่ะ 8. ขนมปังต่างๆ 9. ซุป มีซุปล็อปเตอร์ และซุปสไตล์อิตาเลี่ยน 10. อาหารจานเดียวต่างๆ ที่มีให้เลือกทานคู่ข้าวไรซ์เบอรี่ หรือข้าวสวยค่ะ 11. สปาเก็ตตี้และพาสต้า ซึ่งมีทั้งซอสเนื้อ, ซอสครีมเบคอนเห็ด หรือซอสมะเขือเทศ 12. บาร์บีคิว มีทั้งแบบเนื้อ และไก่ 13. สเต็ก มีหมู, เนื้อสันใน, ปลาแซลมอน และซี่โครงแกะ 14. มันฝรั่งบด อร่อยๆ เนื้อนุ่มละเอียด 15. อาหารทะเลย่าง มีกุ้ง และปลาหมึก ซึ่งเราได้ทานปลาหมึกย่าง อร่อยค่ะ เนื้อไม่เหนียวเลย แนะนำสำหรับคนชอบทานค่ะ 16. ผัดไทย รสชาติเข้มข้นซอสอร่อยดี จะออกหวานนำหน่อย พอบีบมะนาวเพิ่ม รสชาติพอดีเลยค่ะ 17. อาหารทะเลนึ่ง จะมี ปูม้า, กุ้งขาว, หอยตลับ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ (โซนนี้ไม่มีกั้งค่ะ เพราะกั้งจะเป็นเมนูพิเศษสำหรับลูกค้าที่ทานแบบ Open Air เท่านั้นค่ะ) 18. หมูสันนอกอบ, เนื้อเชอร์ลอยด์อบ และพายปลา โซนนี้จะมาเป็นชิ้นใหญ่ ซึ่งพนักงานจะแล่เป็นชิ้นบางๆให้เราทานค่ะ เราได้เลือกทานหมูสันนอกอบ เนื้อหมูนุ่มๆเค็มๆมันๆอร่อยค่ะ ส่วนหนังแอบเคี้ยวยากไปนิดนึง เมนูนี้ไม่อ้วน(น้อย)ค่ะ อิอิ 19. โซนญี่ปุ่น ที่มีทั้งปลาดิบ ซูชิ ข้าวปั้น ข้าวหน้าต่างๆ ปูอัด หน้าตาสีสันสวยงาม แทบเลือกคีบไม่ถูกเลยค่ะ และยังมีซุปด้วยค่ะ 20. เทมปุระผักทอด, ไก่เทอริยากิ และกระเจี๊ยบพันเบคอน แนวทอดแอบอมน้ำมันไปนิดค่ะ 21. ผลไม้นานาชนิด ทั้งแตงไทย มะละกอ แอ๊บเปิ้ล แก้วมังกร 22. เยลลี่ผลไม้ สีสันน่าทาน 23. ฟองดูว์ช็อคโกแลต จะมีผลไม้เสียบไม้ไว้ ให้จิ้มทานกับช็อคโกแลตค่ะ 24. เบรดพุดดิ้งผลไม้ 25. เค้ก พาย และคัสตาร์ด ซึ่งมีทั้งเค้กชิ้นใหญ่ให้ตัดแบ่ง, เค้กชิ้นเล็กๆเป็นคำๆ และใส่ถ้วยน่ารักน่าทานค่ะ 26. ขนมไทย แบบทานพอดีคำ เช่น ขนมต้ม ถั่วแปบ ข้าวต้มมัด วุ้นกะทิ ลูกชุบ และอื่นๆอีกเยอะเลยค่ะ 27. ขนมไทยแบบตักใส่ถ้วย เช่น เต้าทึง, ครองแครงกะทิ, เต้าส่วนมะพร้าวอ่อน และกล้วยเชื่อม 28. เครปซูเซตต์ จะมีท้อปปิ้งมากมายให้เราเลือก และพนักงานจะทำให้ค่ะ แนะนำเลย กล้วยคาราเมลค่ะ และราดช็อคโกแลตด้านบน ทานคู่ไอศกรีมอร่อยๆค่ะ 29. ไอศกรีม จะเป็นแบบกดเอง มีรสวานิลา กับช็อคโกแลต หรือแบบทูโทนค่ะ สามารถเลือกทานกับโคนวาฟเฟิลหรือใส่ถ้วยก็ได้ค่ะ 30. สาคูน้ำกะทิทุเรียน และข้าวเหนียวมะม่วง สุดเลิฟเลยค่ะโซนนี้ กะทิเข้มข้นหวานมันเค็ม ทุเรียนเนื้อนุ่มๆหวานหอมฟุ้งๆ ส่วนมะม่วงก็หวานหอมเช่นกัน ทานกับข้าวเหนียว 3 สี โรยหน้าด้วยถั่วอบเค็มๆมันๆบอกเลยว่าใครชอบทุเรียนและมะม่วงไม่อยากให้พลาดโซนนี้ค่ะ ส่วนเครื่องดื่มประเภทอื่นๆก็มีหลากหลายเมนูค่ะ จะมี Cocktail, Vodka, Beer, Soft Drink, Non-Alcohol Cocktail, Hot&Cold Beverage, Juice, Smoothie, Frozen Cocktail, Whisky พวกเราเลยเลือกทานเพิ่มกันด้วยค่ะ - Baiyoke Punch 120 บาท (ประเภท Non-Alcohol Cocktail) ซึ่งเมนูนี้จะไม่ปั่น แต่เราขอแบบปั่น ทางร้านก็ทำมาให้ค่ะ สีสวย ถูกใจค่ะ บอกเลยสั่งเพราะชื่อเดียวกับชื่อโรงแรมค่ะ อิอิ รสจะออกหวานๆ หอมนิดๆ มีรสเปรี้ยวเบาๆ แต่จะหวานนำกว่าค่ะ แก้วนี้สดชื่นดีค่ะ ทานกับอาหารคาวแล้วเข้ากันดีนะคะ - Apple Strawberry 120 บาท (ประเภท Smoothie) เป็นแอ๊ปเปิ้ลแดงกับสตอเบอรี่ที่ปั่นรวมกันมาอย่างน่าทาน สีแดงสดใสเลยค่ะ แก้วนี้จะมีทั้งรสเปรี้ยวและหวานค่ะ - Tequila Sunrise 150 บาท (ประเภท Classic Cocktail) สวยน่าทานค่ะแก้วนี้ สีส้มสดใส กับการตกแต่งด้วยหมวกสีแดงที่หนูน้อยหมวกแดงทำหล่นไว้ (เหรอ!) เมนูนี้ผสมเหล้าเตกีล่า เพิ่มความเปรี้ยวหวานสดชื่นจากน้ำส้มแท้คั้นสด และน้ำเชื่อมทับทิม คนเบาๆ จนน้ำเชื่อมกระจายตัวเสมือน Sunrise ที่เปรียบดั่งพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า บรรยายซะขนาดนี้ คอแอลกอฮอล์สนใจสั่งแก้วนี้เลยจ้า -Raspberry Mojito 200 บาท (ประเภท Signature Cocktail) แบ่งชั้นอย่างน่าทาน ด้านล่างเป็นผลไม้กับมิ้นท์ผสมกัน ด้านบนเป็นโซดา ทำให้มีทั้งรสหวานอมเปรี้ยวและซาบซ่าค่ะ ที่นี่เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 – 23.00 น. แนะนำว่าโทรมาซื้อและสำรองที่นั่งก่อนจะดีกว่าค่ะ โทรได้ที่เบอร์ 02-656-3456 กด 4 และ 02-656-3939 ค่ะ