วังจักรพงษ์

นับเป็นโอกาสอันนี้ที่ชายไช้ได้แวะมาทานอาหารที่วังจักรพงษ์พร้อมมิตรสหายเนื่องในวันเกิดของเพื่อนในกลุ่ม ก่อนที่จะทำการรีวิวรสชาติและบรรยากาศของวังแห่งนี้ ชายมีข้อแนะนำเกี่ยวกับจองห้องอาหารริมน้ำแห่งวังจักรพงษ์ดังนี้ครับ 1) ควรเผื่อเวลาในการจองพอสมควร เพราะห้องอาหารไม่สามารถรองรับคนได้จำนวนมากๆ ในคราวเดียว ห้องอาหารริมน้ำจะรับแขกได้ประมาณ 12-20 คน 2) ถ้าคุณโชคดีอาจหาวันว่างได้ภายใน 1 สัปดาห์ อย่างช้าอาจต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน 3) ร้านอาหารปิดทำการทุกวันจันทร์ 4) คุณสามารถเลือกเมนูอาหารตามที่ร้านอาหารกำหนดให้ และต้องการสรุปรายการล่วงหน้าผ่านทางอีเมล์ 5) ต้องโอนเงินค่ามัดจำให้ร้านอาหารล่วงหน้า เฉลี่ยแล้ว 2,250 บาท/หัว (ไม่รวมเครื่องดื่มพิเศษ) 6) ควรเดินทางถึงที่หมายก่อน 6 โมงเย็น เพื่อชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ควรมีหนึ่งสัปดาห์ขึ้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับจักรพงษ์วิลล่า Jakrabongse Villa: นอกจากวังจักรพงษ์จะเปิดรับรองลูกค้าภายนอกให้สามารถทานอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาในบรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติคแล้ว ยังมีบริการที่พักภายในวังด้วย ถ้าทำไม่ผิดมีเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น ที่อยู่: 396/1 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 (อยู่ห่างจากวัดเชตุพนหรือวัดโพธิ์ไม่ไกลนัก ใกล้ๆกับโรงเรียนราชินี) เบอร์โทร: 02-622-3356-8, 02-622-2622 เอาล่ะครับ มาเข้าสู่เรื่องของเรากันดีกว่า ผมใช้เวลากว่าชั่วโมงในการขับรถฝ่ารถติดมาถึงที่หมายทันเวลาพอดี แต่น่าเสียดายถ้ามาก่อนหน้านี้สัก 30 นาที จะได้ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มๆ กว่านี้ ก่อนอื่นต้องออกตัวว่าวันนี้ยังถ่ายรูปไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ชายเท่าไหร่ เพราะแสงในห้องอาหารและแสงด้านนอกไม่เอื้อต่อการถ่ายภาพสักเท่าไหร่ เมนูที่ได้ทำการจองไว้สำหรับมื้อค่ำนี้มีดังนี้ครับ อาหารทานเล่น 1.ทอดมันกุ้ง 2.ช่อม่วง 3.เมี่ยงคำ เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตเล็กๆ แบ่งสำรับมาให้แต่ละคนได้ทานเพื่อเรียกน้ำย่อย โดยรวมถือว่าอร่อยมากครับ แต่ว่าน้อยไปหน่อย อาหารจานหลัก 4.ยำถั่วพลู 5.ต้มยำกุ้ง 6.แกงกะทิเนื้อปูใบชะพลู 7.ปลากะพงทอดสมุนไพร 8.บ๊อคฉ่อยน้ำมันหอย สำหรับเมนูอาหารคาวนั้นจะเสิร์ฟมาเป็นจานกลางแบ่งกันทาน ในปริมาณที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ในกับข้าว 5 อย่างนี้ ผมติดใจปลากะพงทอดสมุนไพรมากที่สุดครับ เนื้อปลานุ่มในกรอบนอกทานกับน้ำจิ้มพริกเข้ากันพอดิบพอดี ส่วนแกงปูนั้นรสชาติอาจจะแปล่งไปนิดด้วยกลิ่นสมุนไพรอย่างตะไคร้และใบชะพลู แต่ว่าเนื้อปูงี้แน่นและให้มาในปริมาณที่เยอะจนทานไม่หมดทีเดียว สำหรับต้มยำกุ้งนั้น กุ้งก็ตัวโตมาก ได้มาคนละ 2 ตัวต่อถ้วย แต่ว่ารสชาติอาจจะค่อนข้างอ่อนไปนิด เข้าใจว่าเป็นรสชาติที่ทำให้ฝรั่งทาน ถ้าเกิดอยากได้แบบแซบแสบลิ้นกว่านี้ สามารถแจ้งล่วงหน้าได้ครับ ส่วนผัดผักของที่นี่ยังดูธรรมดาไปหน่อย โดยเฉพาะยำถั่วพลูได้ใส่มะพร้าวคั่วและกะทิตามแบบฉบับที่เราคุ้นเคย อาจจะอร่อยกว่านี้ครับ ของหวาน 9.ไอศกรีมกะทิ กับกล้วยทอด 10. ผลไม้รวม ไอศกรีมทำจากน้ำมะพร้าว หอมหวานบางเบา อร่อยถูกปาก ส่วนกล้วยหอมทอด คาดว่าทอดทิ้งไว้สักพัก เลยทำให้ไม่กรอบเท่าที่ควร นอกจากเครื่องดื่มที่เป็นน้ำเปล่าแล้ว ชายยังได้สั่ง mango smoothie มาเพิ่ม (250 บาท) อร่อยดีไม่หวานมาก โดยรวมถือว่ารสชาติอาหารให้ 8/10 (คือแบบว่าอร่อยได้มากกว่านี้ และละเมียดกว่านี้ แต่ถือว่าส่วนใหญ่ก็ถูกปากนะ) บรรยากาศของสถานที่ให้ 7/10 (ถ้าให้เดินชมวังด้วยจะเจ๋งมากเลยครับ) ความคุ้มค่าให้ 5/10 (อันนี้ค่อนข้าง subjective สำหรับบางคนก็นับว่าคุ้ม แต่สำหรับผมคิดว่ามันแพงมากไปหน่อย ตกต่อหัวเบ็ดเสร็จประมาณ 2,700 บาท คุณพระช่วย) การบริการ 6/10 (สิ่งที่ทำให้อรรถรสในการทานที่นี่ลดไปเยอะ เพราะคุณภาพการบริการ แม้พนักงานไม่ได้บกพร่องในหน้าที่ แต่ดูจะขาดจิตวิญญาณของนักบริการ พูดจากดูห้วน ปราศจากรอยยิ้มและความกระตือรือร้นเมื่อถูกร้องขอ ประเด็นนี้ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะคนที่ได้มาทานในวัง ล้วนมีความตื่นเต้นและคาดหวังสูง เคยได้ยินว่าเคยดีกว่านี้มาก เสียดายจริงๆ ครับ) ประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการรับประทานอาหารในรั้ววังจักรพงษ์ก็เป็นด้วยประมาณละฉะนี้ ขอได้รับความขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบบรรทัดนี้ครับ