Eureka Nitro Coffee (ยูเรกา) หัวหิน-ปราณบุรี

ที่ตามมาลองที่นี้เพราะมีน้องหมามาด้วย เลยมีตัวเลือกค่อนข้างน้อย ร้านปิด 1 ทุ่ม ปิดรับออเดอร์ 18:15 ครับ พอดีมาถึงหกโมงนิดๆ ก็ต้องสั่งรวดเดียวทั้งหมดเลยครับ ซึ่งก็พอเข้าใจได้ เพราะมาช้าเอง แต่บอกเลยว่าทางเข้าค่อนข้างทุลักทุเลถนนเป็นหลุมบ่อค่อยข้างเนอะจนไม่คิดว่าจะมีร้านแบบนี้ในนั้น พอมาถึงก็ฟ้ามืดพอดี เท่าที่ดูร้านนี้เหมาะสำหรับสายถ่ายรูปครับ แต่พอมาถึงตอนฟ้ามืดก็ไม่มีอะไรให้ถ่ายแล้ว แต่สายกินอย่างผมก็ไม่ซีเรียสครับ มารอชิมรสชาติอาหารอย่างเดียว อาหารที่สั่งมามี 3 อย่างตามนี้ครับ สปาเกตตี้หอยเชลล์ซอสครีมทรัฟเฟิล - ถือว่าเป็นจานที่ดีที่สุดใน 3 อย่างนี้ แต่ก็ไม่ได้อร่อยขนาดว้าวครับ รสชาติถือว่าธรรมดามาก ที่ดีที่สุดคงเป็นเพราะว่าสามารถทานหมดจานได้ หอยเชลล์สุกเกินไปหน่อยแต่ไม่ถึงกับแห้งเหนียว พิซซ่าปรานบุเรี่ยน - เป็นพิซซ่าหน้าก้อนปลาแซลม่อนกับปลาหมึกแดดเดียว เป็นพิซซ่าที่หน้าหร็อมแหร็มมาก มีก้อนแซลม่อน6ก้อนตามชิ้นพิซซ่า ปลาหมึกน่าจะสองเท่าเพิ่มมาอีกหน่อย หน้าน้อยมากครับถ้าเทียบกับราคาสี่ร้อยกว่าบาท แถมที่น่าผิดหวังคือฐานพิซซ่าน่าจะเป็นฐานแบบแช่แข็งตามซุปเปอร์ทั่วไปแล้วเอามาแต่งหน้าเอา ราคาขนาดนี้ไม่น่าจะเป็นแบบนี้ครับ ก้อนแซลม่อนก็มีกินคาวครับ ก็ทานหมดได้โดนเขี่ยก้อนแซลม่อนออกเอา พล่าแซลม่อน - ตอนแรกก็ตะหงิดใจแล้วว่าในเมนูไม่มีพวกแซลม่อนสด แล้วพล่านี้จะรอดไหม ผลออกมาคือเป็นแซลม่อน(ไม่ค่อย)สด ที่สามารถเอามาทำพวกพิซซ่าหรือเมนูสุกได้ ทานแล้วแซลม่อนมีกลิ่นคาวตามเล็กน้อย น้ำยำไม่จัดจ้านเท่าไหร่ แล้วในที่สุดคือคนทานมีอาการแพ้ครับ ผมว่ามาจากของที่ไม่สดจริง เพราะพวกพล่านี้แซลม่อนควรเป็นของสดจริงครับ ไม่งั้นค่อนเสี่ยงมาก เครื่องดื่ม เป็นพวกส้มยูซุกับเยลลี่มะม่วงอะไรสักอย่าง ก็ผิดหวังทั้งคู่ ตอนเสิร์ฟเหมาะกับเอามาถ่ายรูปมากครับ แต่ถ้าเอาไม่ดื่มเอารสชาติก็เฉยๆครับ ไม่อร่อย ไม่สดชื่น สรุปคือ ถ้าเป็นสายถ่ายรูป ไปช่วงฟ้าสวยๆคงจะฟินไปตามๆกันครับ สำหรับสายกินอย่างผมแล้วหาที่ที่เอาสุนัขไปได้ด้วย แนะนำให้ทานในโรงแรมที่ท่านพักเถอะครับ ราคาอาจจะพอๆกัน ผมพัก Hyatt ราคา room service ก็จานละ 300-500 บาท รสชาติการันตีว่าดีกว่าแน่นอน อย่าเสียเวลาขับไปเลยครับ แต่ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศก็ไม่ว่ากันครับ นี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น