Ohana Shokudou

คงมีคนรีวิวถึงในช่วงเวลากลางวันที่เป็นเมนูอาหารเซตกันไปบ้างแล้ว ผมจึงขอแชร์รีวิวในแบบฉบับอาหารญี่ปุ่น A La Carte (ตามสั่ง) ในยามค่ำแทนมั่ง พิกัดร้านตั้งอยู่ในซอย ทางเดียวกันกับที่จะไปร้านมุมอร่อย หรือโรงบาลสมิติเวช แต่อันนี้ถึงก่อน อยู่ด้านหน้าถัดจากตรงประตูทางเข้าโรงแรมศรีราชาลอดจ์ เปิดบริการ2ช่วงคือ 11.00-14.00 มีอาหารเซตมื้อกลางวันขาย ส่วนรอบ17.00-22.00 น. เป็น A La Carte ไม่มีอาหารเซตนะครับ ที่นั่งมี2โซนให้เลือก คือ โซนหลักที่เป็นห้องแอร์ กับโซนด้านหลัง เป็นระเบียงต่อยื่นออกไปจากตัวอาคารเล็กน้อย แบบโอเฟ่นแอร์ มีวิวทะเลให้เห็น (แต่มากลางคืนก็มองไม่เห็นหรอกนะ) #สิ่งที่สั่งในวันนี้# @ Ohana Okemori (599 บาท) มันคืออะไร? ...มันคือเซตปลาดิบซาซิมิ ประกอบไปด้วย ท้องปลาแซลมอน กุ้งโบตั๋น หอยเชลล์ ปลาทูน่าขาว แล้วก็หนวดปลาหมึกยักษ์ ยกเสริ์ฟมาเป็นถังอลังการดี รสชาติสดใหม่ ที่เข้าท่าที่สุดเห็นจะเป็น...ส่วนของท้องปลาแซลมอน อืมมมม... มันอร่อยง่ะ @ Kaki Ponzu สั่งมา2ตัว (198บาท) มันคือ... หอยนางรมสดเนี้ยแหล่ะ ราดด้วยซอสโชยุ แน่นอนว่าเขากินดิบๆกัน รสชาติธรรมดาครับ มันก็สดดี แต่ส่วนตัวผมผมว่า...กินแบบสไตล์ไทยแลนด์ น้ำจิ้มซีฟู้ด+หอมเจียว+ยอดกระถิน อร่อยกว่าสไตล์ยุ่นนะ 5555 @ Ika Yaki (239บาท) มันคือ BBQ. Squid หรือปลาหมึกย่างซอสบาบีคิวนั่นล่ะ หมึกสดเนื้อดี ย่างสวย รสชาติอร่อยฉ่ำซอส เหมาะกับลิ้นคนไทยครับ กินเพลินๆ แกล้มเก๊กฮวยมีฟอง @ Enoki Bacon Kushiyaki (89บาท) ไม่ได้อยากกินสักเท่าไร แต่เห็นรีวิวน้อง Ampmiess ว่าเป็นเมนูเด็ด ก็เลยลอง...(เกี่ยวมัย?) มันคืออะไร?...มันคือ เห็ดเข็มทองพันเบคอนย่างเกลือ ความอร่อย...ธรรมดาทั่วไปนะจ๊ะ @ Erigi Kushiyaki (69บาท) จานสุดท้าย ไม่ได้อยากกินอีกเช่นกัน อาศัยว่าหาเมนูราคาถูกๆประหยัดๆเอาไว้กินเล่นแกล้มเครื่องดื่มที่ยังดื่มไม่หมด (...ประมาณนั้น) มันคือ เห็นออรินจิย่างเกลือ รสชาติ...ไม่ค่อยอร่อย เค็มเข้าเนื้อปายยยนะ เหอๆๆ สรุปว่า... แต่ก่อนสรุปขอนอกเรื่องสักนิด เผอิญว่าวันที่ผมไปนั่งกินรู้สึกเหมือนเป็นตัวประหลาดยังไงไม่ทราบได้ ไล่ตั้งแต่จะนำรถเข้ามาจอดหน้าร้าน ไอ้เราเปิดกระจกมาถามว่าจอดตรงไหนได้ พี่ผจก.?หรือรปภ.? โรงแรมก็ไม่ทราบ ตัวบึกๆใหญ่ๆใส่ชุดซาฟารีสีน้ำเงิน มองกระผมด้วยสายตาที่...แบบว่า...หนังหน้าอย่างผมเนี้ยนะจามากิน? (สภาพ Gu คงดูโลโซมากล่ะมั๊งนะ) ลงจากรถพี่แกยังเดินมาถาม ...เอ่อ..มากินอาหารชิมิครับ? (อ้อ ครับๆ) มันก็จบกันไป (แต่เด่วมีภาคต่ออีก) เข้าไปข้างใน แนะแนวก่อนเลยนะครับ ยามค่ำนี่...หาคนไทยได้น้อยมาก พี่ยุ่นซะเยอะ และที่นั่งด้านในก็เต็มผมจึงได้นั่งตรงระเบียงแทน ส่วนเมนูที่นี่ภาษาอังกฤษล้วนๆ อาศัยว่าเคยสอบซ่อมวิชานี้บ่อยเลยพอเอาตัวรอดไปได้ เหอๆๆ แล้ว...ระหว่างรออาหาร ลมมันก็เย็นเนอะผมก็เลยเดินออกไปเอาเสื้อคลุมในรถ ...พี่รปภ? คนเดิมก็เดินมาถามผมซ้ำอีกว่า... กินอาหารร้านนี้ชิมิ? ...ครับ! (ชักจะเริ่มมีอารมณ์นิดๆล่ะ จะถามทำไมซ้ำซากเหมือนคนความจำเสื่อมวะ ก็น่าจะเห็นอยู่นะว่าเดินเข้าไปในร้านอาหารอ่ะ) พี่แก...คงไม่รู้จะแก้เกี้ยวยังไง เลยพูดว่า อ้อๆ เอ่อ พี่ช่วยขับรถไปอีกล็อกหนึ่งได้มัย? (แล้ว...รถ Gu ไปขวางทางตรงไหนวะ?? ก็เมิงเองนั่นล่ะเป็นคนโบกให้ Gu มาจอดตรงนี้ แถมมันก็ไม่ได้ติดหรือขวางคันไหนด้วยนะ ...ช่างกวน...ีนดีจังเนอะ) ...ผมพยายามจะมองโลกในแง่ดีนะว่า คงมีคนมามั่วจอดในโรงแรมบ่อยล่ะมั๊ง แต่...ถ้าแหกตาดูก่อนถาม จะดูเหมือนมีสมองมากกว่ามัย? อันนี้ก็อยากจะฝากท่านรปภ? ให้ไปทบทวนมารยาทด้วย สรุปเกี่ยวกับอาหารล่ะ คือ มันก็อร่อยนะ สดใหม่ดี บริการจากน้องๆด้านในก็ยอดเยี่ยม แต่ราคาแบบ A La Carte ค่อนข้างสูงไปสักหน่อย ถ้าเปรียบเทียบความชอบแบบร้านในโรงแรมในย่านนี้ ผมชอบร้าน Ou-yasu มากกว่าครับ