Shabu Baru Central Embassy

คราวที่แล้วไปทานสาขา centralwOrld แล้วประทับใจถึงแม้จะเป็นแค่ Mini รอบนี้เปลี่ยนมาลองที่ Central Embassy ซึ่งคนจะน้อยหน่อย แต่พอมาถึงแล้ว ลูกค้าก็แอบเยอะพอสมควร การตกแต่งร้านสาขานี้จะดูอลังการกว่า ธีมไม้ๆ ทั้งผนัง โต๊ะ เก้าอี้ ที่นั่งเยอะกว่า หากมากันหลายคน จะมีโต๊ะนั่งตรงข้ามกันด้วย ครัวเนื้อสัตว์และผักจะทำอยู่ด้านนอกเลย เห็นกันเลยว่าสดขนาดไหน เมนูอาหาร จะเลือกเหมือนเดิม ตั้งแต่ซุป สาหร่าย หรือจะเป็นสุกี้ยากี้ที่จะเพิ่มเงินอีก 100 บาท ต่อกันด้วยเนื้อสัตว์ ซึ่งเรตราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 450 ไปจนถึง 2000 เลยทีเดียว และสุดท้ายคือเลือกจานเสริม ซึ่งมีให้เลือกเยอะพอสมควร แนะนำว่าให้ทานเซ็ตหลักก่อน แล้วค่อยสั่งเพิ่มถ้ายังไม่อิ่ม ส่วนใครรู้สึกว่าเนื้อที่ให้ยังน้อยไป ก็สั่งแบบ Extra เพิ่มได้ ขอรีวิวในส่วนของเนื้อสัตว์ก่อน วันนี้ได้ลอง 3 ตัว จะมี - Genmai Kuro Ushi Ribeye / Striploin ราคา 900 บาท รู้สึกว่าไขมันของตัวนี้จะไม่เท่ากับ Chunk แต่จะได้ในเรื่องของความลีน เหมาะกับคนที่ชอบโปรตีน ได้เคี้ยวนิดๆ และมีความละลายในปาก อันนี้ต้มกับแบบไหนก็ได้ เข้ากันทั้งคู่ โดยเฉพาะจิ้มกับไข่คืออร่อยเลย - Kagawa Chunckroll ราคา 600 บาท หน้าตาดูดี เนื้อดูเลื่อมๆ มีไขมันแทรกทุกอณู เป็นเนื้อที่เราจะเห็นได้ในร้านหรูๆ หรือบุฟเฟ่ที่ค่าหัวแพง ก็จะเจอตัวนี้ อันนี้เหมาะกับสุกี้ยากี้ เพราะจะเพิ่มความหวานได้ถึงจุด จิ้มกับไข่ก็พอแล้วอันนี้ - Akahata Fish ราคาท 500 บาท ตัวนี้สั่งเป็นแบบ Extra ราคาเลยจะถูกกว่า ถือเป็นไฮไลท์ของวันนี้เลยก็ว่าได้ ตอนแรกจะสั่งคินเมไดแต่ของหมด ทางร้านแนะนำให้ลองตัวนี้แทน ชื่อญี่ปุ่นอาจจะฟังงงๆ แต่ถ้าบอกว่ามันคือเนื้อปลาเก๋าทุกคนจะเข้าใจทันที เสิร์ฟแบบสำหรับต้ม ถ้าลองทานดิบๆ เนื้อจะออกแข็งๆ หวานเบาๆ (ต้องแล่ให้บางเหมือนกระดาษถึงจะเหมาะกับทานดิบ) ถ้าใครสั่งมาทานกับสุกี้ยากี้จะเข้ากันมากๆ เพราะเนื้อปลาจะมีความคาวๆ สักหน่อย ตัวน้ำซุปสุกี้ยากี้จะปิดความคาวได้ดี จิ้มกับไข่อีกทีคือฟิน เหมือนเราเอาเนื้อปลาจิ้มแม็กกี้แบบนั้นเลย ตัวนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นทางเลือกเผื่อไม่อยากทานเนื้อวัว ส่วนต่อมาคือซุป ส่วนตัวยังเทใจให้ซุปดั้งเดิม ใสๆ ลีนๆ เวลาต้มเรื่อยๆ จะหวานธรรมชาติไม่หนักท้อง แต่ถ้าใครอยากได้เนื้อหวานๆ เลย ต้องไปสุกี้ยากี้ ข้อดีของร้านนี้คือ ซุปซดได้เลย ไม่เค็มอย่างที่คิด ความแตกต่างที่สังเกตได้คือ ถ้าสั่งซุปสุกี้ยากี้ จะได้ผักที่เป็นผักกาดขาวเกือบทั้งหมด ซึ่งจะเหมาะกับต้มในซุปน้ำดำมากกว่า แต่ถ้าซุปชาบูจะได้ผักหลากหลายสุดๆ โดยเฉพาะผักบุ้ง กวางตุ้ง และอื่นๆ ส่วนของน้ำจิ้ม ถ้าชาบูชาบูจะได้ถึง 2 ตัวคือ น้ำจิ้มงา และพอนสึ ส่วนสุกี้ยากี้ได้เป็นไข่ดิบแทน เพราะซุปมันหวานอยู่แล้วไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มก็อร่อยแล้ว ส่วนของที่สั่งเพิ่มเติม จะมีเส้นราเมนซับโปโร ราคา 80 บาท ปริมาณจะไม่ได้เท่ากับแบบราเมนปกติ แต่เป็นเส้นสดเหมือนกัน Texture ออกนุ่มหนึบ หรือนุ่มเหนียว ขึ้นอยู่กับว่าเราลวกนานขนาดไหน ทางร้านจะมีตะกร้อและคู่มือการลวกมาให้ด้วย อีกอย่างที่อยากแนะนำให้สั่ง ก็คือ วุ้นเส้น ถ้าใครสั่งชาบู จะได้อยู่แล้ว เนื้อออกหนึบๆ ใสๆ ลีนๆ กินแล้วสบายท้อง คลุกกับซอสพอนสึนิดหน่อยเพิ่มความสดชื่น หรือจะสั่งมาต้มในสุกี้ยากี้ จะได้รสชาติหวานๆ ไปอีกแบบ ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่สั่งมาต่างหากกับ Yuzu Honey Frizz ราคา 89 บาท หน้าตาเรียบง่าย มี 2 เลเยอร์ ด้านบนเป็นยูซึโซดา ด้านล่างเป็นน้ำผึ้ง คนยากสักหน่อย แต่ถ้าผสมเข้ากันแล้ว จะให้รสชาติออกไปทางสดชื่น ชุ่มคอกำลังดี แนะนำว่าให้มีช้อนคนหรือหลอดแก้วมาคนเพิ่มด้วยจะดีมาก สิ่งที่ร้านนี้ต้องการนำเสนอ คือความดีงามของวัตถุดิบ ที่ไม่ต้องผ่านการปรุงอะไรเพิ่มเติม โชว์รสชาติแท้ๆ ในแบบที่ของชิ้นนั้นเป็น ใครหวังรสชาติหวือหวาไม่ต้องมาร้านนี้ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ใหญ่เห็นมาทานกันเยอะมาก ทั้งมาเดี่ยวๆกับมาเป็นคู่ๆ การบริการรวดเร็ว พนักงานแนะนำอาหารได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วไม่มีผิดหวังสำหรับร้านนี้ #Wongnai2024 💚 สามารถตามติดชีวิตการกินของเป็ดน้อยต่อได้ที่ 💚 👇🏻👇🏻 🍭Fan Page : https://www.facebook.com/PednoiiPakin 🍭IG : PednoiiPakin || pednoii_ahha *กรณีต้องการนำรูปไปใช้งานให้ขออนุญาตและให้เครดิตทุกครั้ง มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์