แต้จิ๋วโภชนา(潮汕小炒)

ถ้าในเรื่องของอาหารแต้จิ๋วแล้ว จะมีรสชาติหลักๆเลยคือ เค็มและมันๆ ดังนั้นอาหารแต้จิ๋วอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักกับเพื่อนๆชาววงในหลายๆคน แต่สำหรับผม Pednoii AhHa แล้ว ผมค่อนข้างประทับใจมากถึงมากที่สุดตั้งแต่ได้ทานที่ร้านเกี๊ยวจีน(ซัน-มูน) ในซอยงามดูพลี แต่ร้านนั้นจะหนักในด้านอาหารเป็นจานๆมากกว่า แต่สำหรับร้านนี้ จะหนักไปในด้านสุกี้เป็นหลัก แต่ในวันนี้เป็นวันแรกที่ได้มีโอกาสมาทาน จึงขอลองเป็นเมนูจานๆจะดีกว่าครับ สำหรับร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยพระยามนธาตุเส้นถนนบางบอนที่จะข้ามไปยังเขตบางขุนเทียนชายทะเล ทางเข้าสามารถเข้าออกได้หลายทางมากครับ ไม่ว่าจะมาจากทางกาญจนาภิเษกหรือเส้นบางบอนเองก็สะดวกเช่นกัน ร้านนี้จะเป็นตึกแถว 2 ห้อง มีที่นั่งรับประทาน 2 ชั้น ในวันนี้ผมมาเป็นโต๊ะแรกเลยเลือกนั่งด้านล่างดีกว่า ด้านนอกร้านจะมีตู้ปลา ที่มีปลาเก๋า กุ้งแชบ๊วย(ไว้เสียบไม้ต้มเป็นสุกี้) ปลากะพง และปลาอีกชนิดที่ผมไม่ทราบชื่อ ก่อนที่เราจะมาไล่เมนูอาหาร ผมอยากบอกให้รู้ว่า ร้านนี้จะเป็นร้านที่คนจีนส่วนมากมาทาน(เหมารถตู้มากินเฉพาะเลยก็มี) หรือว่าจะเป็นกลุ่มคนที่ชอบทานเหล้าเป็นหลัก ถ้าไม่ไปแถวสีลมก็จะมาที่นี่แทนนั่นเอง ส่วนเมนูอาหารที่เราจะมาเรียบเรียงกันวันนี้ มีอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ 1. เม่ยฉ่ายโค้วโย่ว หรือ หมูเคาหยก หรือหมูสามชั้นกับไช้กัว ราคา 180 บาท: ก่อนที่เราจะมารู้เรื่องรสชาติ เรามารู้จักไช้กัวก่อน ไช้กัวคือผักดองที่เอาไปตากแห้งนั่นเองครับ ถ้าให้เลือกว่าทานระหว่างผักดองกับไช้กัว ผมชอบรสชาติของไช้กัวมากกว่าครับ และไช้กัวเหมาะที่จะมาทานกับหมูสามชั้นที่เอาไปต้มพะโล้ เพราะรสชาติมันจะตัดกัน ยิ่งได้ทานตอนที่ร้อนๆ จะมีความประทับใจมาก เพราะว่าความเค็มของหมูจะตัดกับรสชาติของไช้กัวออกจืดๆเค็มๆได้ลงตัวพอดีเลยครับ ถือเป็นเมนูแรกที่น่าประทับใจมากๆครับ 2. ห่านย่าง: ปกติแล้ว ในเมืองไทยไม่ค่อยเห็นร้านไหนขายห่านย่างกันสักเท่าไร อาจจะเป็นเพราะว่าห่านมันดุมากจนไม่มีใครกล้าไปแหยม แต่สำหรับร้านนี้แล้ว เค้าจะนำห่านมาย่างให้หนักกรอบ ส่วนเนื้อจะนุ่มและปนกระดูกหน่อยๆ เวลาเคี้ยวจะมันๆ เหมาะกับเป็นกับแกล้มอย่างดีเลยครับ นอกจากนี้ทางร้านจะมีน้ำจิ้มหวานและน้ำพะโล้แยกมาให้ ซึ่งเราสามารถเลือกจิ้มอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าจิ้มหวาน จะได้ความหวานเหมือนเวลาทานของทอด เพราะหนังมันกรอบมาก T_T หรือจะจิ้มน้ำพะโล้เพื่อให้ได้ความเค็มเป็นหลัก แต่ถึงจะจิ้มอันไหนก็อร่อยมากครับ ที่สำคัญ ต้องรีบทานนะครับ ไม่งั้นสักพักนึงมันจะเริ่มเหนียว 3. เอ็นหมูตุ๋นน้ำแดง ราคา 180 บาท: ถ้าหากว่าไปร้านอาหารจีนแล้วมีแต่หูฉลามหรือปลิงหรือกะเพาะปลาน้ำแดง เราลองมาเปลี่ยนเป็นเอ็นหมูก็แปลกดีนะครับ เอ็นหมูร้านนี้จะเป็นเอ็นหมูแบบที่แช่ยาอะไรสักอย่างที่ทำให้นุ่มมาแล้วก่อนต้ม(มีขายทั่วไปในเยาวราช) ส่วนยานี้จะเป็นอะไรนั้นผมก็ไม่ทราบแต่รู้ว่าทานได้ สิ่งที่ประทับใจในเมนูนี้คือเรื่องของความนุ่มกับความลงตัวของน้ำซุปที่เข้ากัน น้ำซุปก็หวาน เอ็นก้อนิ่มจนแทบจะละลายในปาก ห้ามพลาดครับ 4. แกงจืดลูกชิ้นหมู+เกี๊ยวหมู+ผักน้ำ ราคา 200 บาท: เมนูนี้เป็นเมนูที่ทางผมสั่งให้ทำเพิ่มเอง ไม่ได้มีอยู่ในสมุดเมนูหรืออะไรครับ จะเป็นแกงจืด(จืดจริงๆ) แต่จะมีรสชาติของน้ำซุปกระดูกหมู ผักน้ำ(รสชาติจะออกหวานธรรมชาติ)อยู่เต็มๆ อาจจะมีเติมเค็มมานิดหน่อยแต่แทบสัมผัสไม่ได้ ที่ประทับในเมนูนี้คือตัวลูกชิ้นหมู และเกี๊ยวหมู เพราะลูกชิ้นหมูนี้เป็นลูกชิ้นหมูแท้ๆ 100% อาจจะมีผสมแป้งหน่อยๆเพื่อให้ขึ้นรูปได้ จะเป็นลูกชิ้นแผ่นใหญ่ๆแผ่นเดียวและนำมาหั่นเป็นชิ้นๆพอดีคำ (ไม่เหมือนของคนไทยที่จะเป็นแป้งเกือบ 80% และปั้นเป็นลูกกลมๆ) และเกี๊ยวหมูที่แผ่นที่นำมาห่อคล้ายๆกับเกี๊ยวปลาแต่รสชาติของไส้พิเศษจริงๆครับ ไม่เคยสัมผัสรสชาติแบบนี้มาก่อนครับ ถ้าเพื่อนๆทานเมนูสุกี้แล้ว อย่าลืมลองสั่งเกี๊ยวหมูมาลองต้มดูนะครับ 5. ผัดหมี่ฮ่องกง: เมนูแนะนำของร้านอีกเมนูที่มีความมันอย่างมาก โดยเส้นที่นำมาผัดจะมีความนุ่มไม่เหมือนเส้นบะหมี่ทั่วๆไป ใส่คะน้าหั่นซอย เห็ดหอม และหมูกรอบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆถึงเล็กมาเพื่อทำให้หอมนั่นเอง ถ้าทานเลยจะมีความเลี่ยนระดับ 100 แต่ทางร้านก็หาวิธีแก้มาให้คือ นำซอสพริกจีนมาให้ เพื่อทำให้มีความเค็มตัดกับความมันเพื่อไม่ให้เลี่ยนจนเกินไปนั่นเอง 6. เต้าหู้ทอด ราคา 150 บาท: สำหรับการกินเต้าหู้ทอดของคนจีนนั้น จะไม่เหมือนกับของคนไทยที่ชอบนำไปจิ้มกับน้ำจิ้มหวาน ของคนจีนแท้ๆนั้นจะจิ้มกับน้ำเกลือใส่ผักกุยช่ายซอยหรือกระเทียมขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละคน(ร้านนี้เป็นผักกุยช่าย) เพื่อนๆลองนำเต้าหู้มาจิ้มกับน้ำเกลือที่ทางร้านเตรียมมาให้แล้วทานเข้าปาก จะได้ความกรอบแบบกรอบจนถึงกลางชิ้นเต้าหู้และนุ่มเนื้อเต้าหู้ด้านในครับ และรสชาติจะออกเค็มแบบมีรสชาติของเครื่องเทศหน่อยๆครับ เนื่องจากว่าตัวเต้าหู้มันจืดอยู่แล้ว คนจีนเลยชอบจิ้มกับอะไรที่เค็มๆมากกว่าที่จะจิ้มกับน้ำจิ้มหวานซึ่งจะทำให้เลี่ยนไปกว่าเดิมนั่นเอง แต่ถ้าจิ้มกับซีอิ๊วมันจะเค็มเกินไป ดังนั้นน้ำเกลือจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดนั่นเองครับ ถ้าใครมาทานร้านนี้แล้ว เมนูนี้ต้องห้าม “พลาด” อย่างเด็ดขาดครับ 7. เต้าหู้ผัดซอส : เมนูปิดท้ายที่เต็มไปด้วยความเลี่ยน เพราะเมนูที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเลี่ยนออกไปทางเลี่ยนมากเพราะเจอเมนูนี้เป็นเมนูสุดท้ายผมก็เกือบจอดเช่นกัน สำหรับรสชาติแล้วเป็นเต้าหู้นิ่มที่นำมาผัดกับซอสพริกจีน(ชื่อจริงๆก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไร) เห็ดหอมและโรยด้วยต้นหอม เหมาะเป็นเมนูที่นำไปคลุกกับอย่างอื่นเพื่อสร้างประสบการณ์รสชาติที่แตกต่างออกไปครับ :) สรุปการรีวิวแสนยืดยาวและเต็มไปด้วยน้ำ ผมให้ 5 เต็มครับเพราะเรื่องของรสชาติและราคาที่รับได้(ถูกกว่าไปกินบุฟเฟ่) เพียง 1,420 บาทเท่านั้นเอง(ราคานี้รวมน้ำชาแล้ว) เรื่องของบรรยากาศ ความสะอาดถือว่าโอเครมากเลยครับ และบริการก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ถ้าใครจะไปร้านนี้ แนะนำว่าให้ไปช่วงเย็นๆก่อนค่ำ เพราะว่าถ้าไปช่วงสองสามทุ่มคนจะค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว