ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองโดยสายการบินน้องเสือ วันที่ 15 ธันวาคม 2017 เครื่องออกจากดอนเมืองประมาณ 20.45 ในใจลั้นลามาก หวังไว้ว่าจะได้เจอ F4 ตัวจริง ชุดก็จะแนวพร้อมนอน
ไปถึงก็ราวๆเที่ยงคืนพอดี ส่วนของตม.ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีไวจริงๆ อาจจะเป็นเพราะเราไปถึงเที่ยงคืนแล้วด้วย จากนั้นเราก็เดินหาที่นอนได้แถวๆตรงที่จะขึ้นบัส แต่เสียงดังมาก ถ้าใครไปก็ไปหานอนที่อื่นจะดีกว่า
ตื่นมาประมาณตีสามล้างหน้าแปรงฟันก็จะเข้าไทเป ต้องกดซื้อตั๋วที่เครื่องซื้อตั๋ว โดยใช้ Easy Card จ่ายได้ เราใช้บริการรถบัสสาย 1819 มาขึ้นที่ชานชาลา 5 จะวิ่งไปสุดปลายทางที่ Taipei Station ตอนแรกเราไม่ได้กดตั๋วมาด้วยความคิดว่า Easy card ครองไต้หวันแปะที่ไหนก็ได้ ก็เลยต้องย้อนกลับไปกดใหม่ ตกรถรอบแรกไปแบบงงๆ
ราคาบัส : 125 NT
เวลาในการเดินทาง : 50 - 60 นาที
พอขึ้นบัสมาพบว่าในรถเบาะนั่งสบายกว่าเบาะเครื่องบินล้านเท่า บนรถมีที่เสียบสายชาร์ตแบต มีทีวีให้ดู แต่ถ้าใครลงเครื่องเช้าก็ใช้บริการ MRT ได้นะ เปิดประมาณ 6 โมงเช้า ถ้าอยากรีบก็หาขบวน express
เมื่อถึง Taipei เราต่อรถไฟฟ้าไปลงที่ Ximen เนื่องจากเราจองที่พักไว้ที่นั่น ใช้บริการโรงแรม Lio Hotel Ximen ซึ่งค่อนข้างประทับใจในตัวโรงแรม และพนักงานต้อนรับทุกคน ห้องพักสะอาดเรียบร้อย ขนาดไม่แคบจนเกินไป
สถานที่แรกที่อยากไปมากที่สุดคือ "วัดหลงซาน" ไม่ไปไม่ได้จริงๆ ไปขอพรขอเนื้อคู่กันนะจ๊ะ
การเดินทาง : ออกสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Longshan Temple Station สายสีน้ำเงิน ให้ออกที่ทางออก Exit 1 จะเจอกลุ่มคนมานั่งเล่นหมากรุกกัน เดินไปทางนั้นเลยจร้า หน้าวัดมีป้ายไฟใหญ่มาก เห็นครั้งแรกถึงกับผงะ คิดว่ามาถูกหรือเปล่า ไม่ต้องตกใจนะมาถูกแล้ว ข้างในมีน้ำตกสวยงาม และถ้าเห็นตรงไหนคนเยอะๆก็ช่ายเลยจ๊ะ ตรงนั้นขายเครื่องราง คนไทยทั้งนั้น
เวลาเปิด-ปิด: 06:00 – 22:00 น.
อันนี้สำคัญมาก งานไฮไลท์ วิธีการขอเนื้อคู่จากเทพเฒ่าจันทรา
1. จุดธูปสักการะที่กระถางธูปทั้งเจ็ด
2. เมื่อจุดถึงกระถางธูปใบที่เจ็ด ซึ่งตั้งอยู่หน้าศาลเจ้าเทพเฒ่าจันทรา ให้บอกวันเกิด, ชื่อ – นามสกุล, ที่อยู่ และเจตนา (หรือผู้ชาย / ผู้หญิงในสเปค) กับท่าน
3. ขอด้ายแดงจากท่านเพื่อนำพาให้เจอเนื้อคู่
4. โยนไม้เสี่ยงทาย โดยต้องออกคว่ำ หงาย 3 รอบจึงจะหยิบด้ายแดง 1 เส้น
5. นำด้ายแดงเดินวนกระถางธูป 3 รอบ
6. เดินครบแล้วให้ไปที่หน้าศาลเจ้าและบอกวันเกิด, ชื่อ – นามสกุล, ที่อยู่ และเจตนาอีกครั้ง
ระหว่างจะเดินทางต่อไปได้แวะชิมน้ำเต้าหูปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้รสชาติพังพินาศมาก ไม่ขอรีวิวเพิ่มเติมใดๆว่าที่ไหนยังไง
ยังไม่พอกับสายบุญ ไปต่อกันที่ วัดขงจื้อไทเป อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน MRT Yuanshan สายสีแดง ทางออก Exit 2 ให้ข้ามถนนแล้วเดินตรงไปตามถนน Kulun Street อีกประมาณ 400 เมตรจะเห็นวัดอยู่ทางขวามือ นอกจากวัดแล้วบรรยากาศรอบวัดก็สวยมากๆ
เวลาเปิดปิด: หยดุทุกวันจันทร์ เปิด 08:30-21:00
พอแล้วกับสายบุญวันนี้ เดินทางต่อไปยัง Tamsui กะว่าไปเดินริมทะเลชิวๆ แต่ไม่จ๊ะ ฝนเทหนักเลยจ๊ะ โอเครงั้นหาของกิน 555+
ไปต่อกันที่ Xinbeitou ชมบ่อน้ำพุร้อน
วิธีการเดินทาง : นั่ง MRT มาลงสถานี Beitou สายสีแดง แล้วเปลี่ยนสายเป็นสายสีชมพูไปลง Xinbeitou
เมื่อมาถึง Beitou Park จะอยู่ฝั่งขวามือ เดินตรงต่อมาเรื่อยๆก็จะเป็น Taipei Public Library Beitou Branch ซึ่งวันนี้เราเดินหาเจอแค่ห้องสมุด ส่วนน้ำพุร้อนเราหาไม่เจอ ประกอบกับฝนตก เราเลยกลับก่อน
พิพิธภัณท์พระราชวังแห่งชาติกู้กง (National Palace Museum)
เดินทาง : ลง MRT Shiling Station สายสีแดง ออกที่ทางออก 1 จากนั้นให้ต่อด้วยรถบัสสาย R30 จะมาส่งที่ป้าย National Palace Museum
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 250 NT
เวลาเปิด-ปิด: เปิดบริการทุกวัน วันอาทิตย์ถึงวันพฤหัสบดี 08:30-18:30 วันศุกร์และวันเสาร์ 08:30-21:00
ตอนมาถึงฟ้าฝนไม่ค่อยเป็นใจเลยจร้า มืดมากๆ ฝนก็ตกตลอดแบบปรอยๆ เราไม่ได้เข้าไปชมข้างในเพราะเขาบรรยายจีน เข้าไปก็ฟังไม่ออก ขออินแค่รูปลักษณ์ภายนอกละกัน
ตอนกลางคืนไปเดินเล่นต่อที่ Shilin Night Market ของกินเยอะมากกก แต่เราอิ่ม แงๆ ได้กินแต่เฟรนฟราย
ตื่นแต่เช้าไปขึ้นกระเช้า Maokong Gondola เพราะกลัวว่าสายแล้วคนจะเยอะ
เดินทาง : ลง MRT Taipei Zoo Station สายสีน้ำตาล ให้ออกที่ทางออก 2 เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตามถนนไปเรื่อยๆ ประมาณ 200 เมตร
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-21:00 หยดุทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม: จำราคาไม่ได้แต่ใช้ Easy Card ก็แปะที่เครื่องแล้วเข้าได้เลยไม่ต้องซื้อตั๋ว
ลงมาจากกระเช้าท้องก็ร้อง เราจึงออกเดินทางไปตลาดปลา เพื่อหาข้าวกลางวัน
เดินทางต่อไปยัง อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ด็อกเตอร์ ซุนยัดเซน (National Dr. Sun Yat-Sen Memorial Hall) สถานที่แห่งนี้ไม่เสียค่าเข้าชม เปิดทุกวันตั้งแต่ 9.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : ลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT Sun Yat-Sen Memorial Hall Station สายสีน้ำเงิน ออก Exit 4
เมื่อออกมาแล้วปรากฎว่าเราหลงทาง เดินวนเข้าไปในมหาลัยแห่งหนึ่ง เลยแวะถ่ายรูป
เป้าหมายอีกอย่างของเราคือไปหาซื้อรองเท้า และของฝากที่คาร์ฟู ยืนยันว่ารองเท้าเยอะและถูกจริงๆ มีทั้ง Nike, adidas, New balance ฯลฯ
การเดินทาง : ลงสถานี Xianse Temple Station ทางออกที่ 2
เที่ยวจนเหนื่อยแล้วเลยกลับซีเหมินมาหาของกินที่ตลาด เราไม่พลาดบะหมี่เจ้าดัง บะหมี่อาจง อร่อยมากๆ ดูไม่ค่อยมีอะไรแต่รสชาติดีงาม
ยืนเถียงกับเพื่อนอยู่สักพักว่าควรกิน Hot Star ไหมเพราะที่ไทยก็มี แต่สุดท้ายก็สอยมาจนได้ 555 กรอบนอกนุ่มในฟินที่สุด
วันนี้เรามีนัดกับคนขับรถที่เราเหมาไว้ แต่ทริปนี้ไปกันแค่ 2 คน เหมารถเที่ยว 1 วันสำหรับ 6 คน ราคา 4000 NT เราจึงหาแนวร่วมผ่านทาง Facebook ได้พี่สาวอีกสามคนมาร่วมด้วย ซึ่งพี่เขาเป็นคนหารถให้ วันนี้เลยได้เที่ยวกัน 5 คน คนขับรถของเราชื่อคุณ Tony
ก่อนเข้าเราคุยกันว่าเราต้องเข้าไหมเนื่องจากฝนตกหนักมาก แต่คุณ Tony ก็ส่งเสื้อกันฝนมาแล้วบอกให้เข้าไปชม
อย่างที่เห็น กลายเป็นทริปชุดคลุมฝนเลย
ระหว่างทางไปจิ่วเฟิน เราได้แวะทะเลหยินหยาง ทะเลจะแยกเป็นสองสีอย่างเห็นได้ชัด สวยมากๆ
น้ำตกทองคำ (Golden Waterfall) เราไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากน้ำไม่ปลอดภัย จึงมีรั้วกั้นเอาไว้ ถ่ายรูปในบริเวณที่จัดไว้
ในที่สุดก็มาถึงจิ่วเฟิน ฝนก็ยังไม่หยุด เปียกกันไปตลอดทางในการเดินตลาด ไปถึงเราได้แวะชิมอาหารมากมาย และส่วนมากฟรี เพราะคุณ Tony คนขับรถของเราแนะนำว่า ทุกร้านเราสามารถชิมได้ก่อนที่จะซื้อ ถ้าไม่ชอบไม่จำเป็นต้องซื้อ
และแล้วก็ได้เวลากลับ เราแวะไปเที่ยวตลาดกงกวนด้วย แต่ไม่ได้อะไรกลับมา เพราะเราแยกรองเท้าของจริงกะของปลอมไม่ออกเลยไม่กล้าซื้อเท่าไหร่
วันสุดท้ายในไต้หวัน ที่แรกที่ไปคืออนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค
เดินทาง : นั่ง MRT ไปลงสถานี Chiang Kai-Shek Memorial Hall แล้วออกทางออก 5
เวลาเปิด-ปิด: 09:00-18:00 พิธีเปลี่ยนเวรทหาร ซึ่งจะมีทุกๆต้นชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10:00-16:00
กว้างขวางใหญ่โตอลังการมากเลย ไปในช่วงมีเปลี่ยนเวรพอดี โชคดีมาก ข้างในมีพิพิธภัณฑ์สามารถเดินชมได้
และที่พลาดไม่ได้คือมาชิมชานมไข่มุกเจ้าแรก แต่เราก็พลาดเพราะมาเช้าเกินไป ร้านปิด แล้วเราก็ไม่สามารถรอได้เนื่องจากเราจะตกเครื่อง
เราเดินทางกลับโดยใช้บริการ MRT Airport ไปขึ้นที่ Taipei Main Station ขอเตือนไว้ก่อนว่าเดินไป MRT ไกลมาก จากที่อิ่มๆอยู่เดินจนหิวได้เลยนะ
เมื่อไปถึงสนามบินไวกว่าที่คาดไว้ เราก็ทำการช้อปปิ้ง หมดตัวแล้วกลับไทยได้
สรุปการเดินทางมาไต้หวันครั้งนี้ ไม่มีวันไหนฝนไม่ตกแนะนำให้ใส่เสื้อที่มีฮูดจะสะดวกที่สุด พอฝนตกก็คลุมฮูด พอหยุดก็เอาออก รองเท้าที่ใส่ ใส่แบบหนังจะดีกว่าผ้า เพราะฝนตกรองเท้าจะเปียกถ้าใส่แบบผ้า ในบางวันที่ฝนแรงมากๆ ร่มก็ไม่ช่วยอะไรต้องใส่เสื้อกันฝน และเท่าที่เราเห็นคนที่นั่นชอบใส่เสื้อกันฝนสีเหลือง งงมะ ไปแล้วด้วยแบบงงๆ บรัย...........
Unchalin Ruengsirapimol
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ