8.30 น. ถึงด่านฯ ชำระค่าธรรมเนียมอุทยาน คนละ 40฿ รถยนต์ ถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง
9.00 น. ขนสัมภาระ ลงทะเบียนจอดรถค้างคืน / ซื้อประกันอุบัติเหตุ 10฿/คน / ชำระค่าพื้นที่กางเต็นท์ 30฿/คน/คืน / ชำระค่าเช่าเต็นท์ 200 บ฿/คืน
9.24 น. ลงชื่อขึ้นภูกระดึง แล้วก็เดิน!!!! แวะทั้งทาง จอดทุกซำ
15.35 น. ถึงหลังแป (คนนึงอย่างดีด คนนึงอย่างหงอย) นั่งพัก ถ่ายรูป แล้วเดินต่อไปอีก 2 กม. มุ่งหน้าสู่ลานวังกวาง [ขาพลิกที่ช่วงนี้]
16.45 น. โดยประมาณ ถึงลานวังกวาง หนึ่งคนติดต่อเช่าแผ่นรอง 20฿/ผืน/คืน + ผ้านวมโตโต้ 50฿/ผืน/คืน หนึ่งคนรีบเดินไปเบิกผ้านวม เพราะจะปิดตอน 17.00 น. หนึ่งคนหิ้วแผ่นรอง ไปเจอกันที่หน้าเต็นหมายเลข 294 แถวสุดท้ายเลย // เก็บสัมภาระ ปูแผ่นรอง ชวนกันไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหมากดูก
เริ่มเดิน 17.40 น. มี จนท. บอกว่าไม่น่าจะไปทันพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก เลยจะไปดูกันที่พระพุทธเมตตา ห่างจากลานวังกวาง 500 ม. กำลังเดินไป จนท. พร้อมรถยนต์ ก็ขับมาชะลอพร้อมกับถามว่าจะไปไหนกัน แล้วก็บอกว่า ไปกับผม ... เฮ ได้ดูพระอาทิตย์ที่ผาหมากดูกแน่นอนแล้ว ไงก็ทัน!
18.00 น. ถึงผาหมากดูก คนไม่เยอะ พระอาทิตย์ยังอยู่ดี ก็ถ่ายรูป เก็บบรรยากาศกันไป จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ก็มาชิมกาแฟร้อน 25฿+ชาดำเย็น50฿ (ที่ผาหมากดูก มีร้านขายอาหารเครื่องดื่ม 2ร้าน) พูดคุย สอบถามกันพอประมาณได้ความว่า เมเปิ้ลร่วงหมดแล้ว
18.30 น. เดินทางกลับลานวังกวาง เพื่ออาบน้ำ กินข้าว พักผ่อนต่อไป
19.30 น. ถึงลานวังกวาง ไปเอาเสื้อผ้า อุปกรณ์อาบน้ำ แล้วไปกินข้าวก่อนนั่งย่อยพักใหญ่ ถึงไปอาบน้ำ
21.30 น. เข้าเต็นท์ เตรียมสัมภาระสำหรับไปผาหล่มสักวันรุ่งขึ้น แผนคือ ตื่นตี5 ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น กลับมาก็กินข้าวแล้วไปดูเมเปิ้ลกัน แล้วยาวไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหล่มสัก // ปิดไฟฉาย นอนพักร่าง
เช้ามืดวันอาทิตย์ เช้านี้ 10 องศา
04.30 น. ตื่นไปล้างหน้า แปรงฟัน หยิบหมวกแล้วเดินไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ
05.00 น. จนท.อุทยานฯ เดินนำไปยังผานกแอ่น
05.50 น. หาทำเล มุม ที่นั่งรอดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ผานกแอ่น
07.00 น. พระอาทิตย์ขึ้น แดดเริ่มร้อน เดินกลับลานวังกวางกันจ๊ะ
08.00 น. แวะเต็นท์เก็บของ ไปกินข้าว พร้อมไปเดินป่าอันไกลโพ้นต่อไป
09.30 น. เดินไปน้ำตกวังกวาง เมเปิ้ลร่วงหมดแล้ว น้ำตกไม่เหลือให้เห็น .... เดินกลับลานวังกวาง
10.00 น. ตั้งเป้าหมายใหม่ ไปผาหล่มสัก เส้นทางคือ ไปทางผาหมากดูก เลาะริมหน้าผา ไปจนถึงผาหล่มสัก แดดเริ่มแรงขึ้น แรงขึ้น ระยะทางก็ไกลมาก 9กม. นิดๆ เจ็บเท้า เหม็นกลิ่นเผาหญ้าแห้งข้างหน้าผาตลอดทั้งทาง
14.50 น. ถึงผาหล่มสัก ... สักที เราก็ต้องแวะไปอุดหนุนร้านกาแฟของพี่ท่านหนึ่ง ที่เราแอบไปส่องอุณภูมิที่ผาหล่มสักทุกวัน @ร้านกาแฟ ชมพู่มะเหมี่ยว จัดไปคนละแก้ว แล้วหิ้วเสื่อไปปูนอนพักร่างใต้ต้นไม้ รอดูพระอาทิตย์ตก // ด้วยหนึ่งคนก้าวช้า อิดออด งอแง จึงตกลงกันว่า จะกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดิน 6โมงเย็นออกเดินทางกลับลานวังกวาง พร้อมแผนการอาบน้ำก่อนค่อยกินหมูกะทะกัน
20.30 น. ถึงลานวังกวาง ทำไมมืด? เครื่องปั่นไฟของอุทยานฯ เสีย ร้านข้าวทยอยปิด ต้องพลิกแผน กินข้าวก่อนค่อยไปอาบน้ำ
21.30 น. ห้องอาบน้ำหญิงเต็ม กัลยาข้ามไปอาบห้องอาบน้ำชายจ๊า จะไปอาบไกล ก็กลัว 555
22.00 น. เข้าเต็นท์ นอนฟังเสียงคนคุยกันรอบเต็นท์ .. ไม่เหนื่อยกันหรอ? ทำไมไม่นอนกัน? // แผนวันสุดท้ายคือ ตื่นแล้วกินข้าว ลงภูแต่เช้า
เช้าวันจันทร์ อุณภูมิ 9 องศา
6.30 น. หนึ่งคนปลุก หนึ่งคนอิดออด แต่ก็ลุกไปล้างหน้า แปรงฟัน
07.00 น. คืนผ้านวม แผ่นรอง ถ่ายรูปกับเมเปิ้ล วิวด้านบนที่ยังไม่ได้เดินดู
07.30 น. มุ่งหน้าออกจากลานวังกวาง เพื่อลงภู // การเดินทางทุลักทุเลตลอด เพราะมีคนอิดออด + เจ็บเท้า
12.55 น. ถึงทางขึ้นภู หน้ามีแต่ดิน ปวดฉี่ หิวน้ำ ขาแข็ง เหนื่อยสุด
13.30 น. ล้อหมุนกลับกรุงเทพฯ
19.50 น. ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
ทริปนี้ เงินสด 5,000฿ เหลือๆ
ส่งหัวใจและแชร์ทริปนี้เพื่อเป็นกำลังใจแก่เจ้าของบทความ















