“พัทลุง” เมืองเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยสัมผัสคือจังหวัดที่เต็มไปด้วยที่เที่ยวหลากหลาย ทั้งแบบธรรมชาติ วิถีชีวิต อาหารพื้นบ้าน หรือแม้กระทั่งคาเฟ่สมัยใหม่ ก็มีให้เลือกไปเช็กอินตามสไตล์ของตัวเองได้ รอบนี้พวกเรา Wongnai Travel เลยจะมาแนะนำที่เที่ยวหลายจุดในเมืองพัทลุง
ครั้งนี้เรานั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินหาดใหญ่ แล้วต่อรถตู้ไปที่พัทลุง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น โดยการเที่ยววันแรกเราขอไปชม ชิลล์แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และวันที่สองเราก็ออกมาลุยกิจกรรมมัน ๆ แล้วไปกินมื้อหนักแน่น ๆ ซื้อของฝากแล้วกลับเมืองหลวง ตามโปรแกรมนี้เลย
DAY 1
1เขาอกทะลุ
เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองพัทลุงได้ไม่นานก็สังเกตเห็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองลุงที่ “เขาอกทะลุ” ถ้าเรียกแบบสำเนียงทองแดงคนใต้ก็ออกเสียง “เขาอกลุ” ซึ่งมีลักษณะเป็นเขาหินปูน มีจุดเด่นคือตรงบริเวณส่วนยอดของเขาจะมีช่องขนาดใหญ่ทะลุผ่านตัวภูเขา ซึ่งน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของสายลุยผู้มีหัวใจอันแข็งแกร่งสู้ไม่ถอย เพราะต้องเดินขึ้นขั้นบันไดสูงถึง 1,066 ขั้น ไหวไหมบอกมา! แต่เราไม่ไหว ขอถ่ายรูปอยู่ไกล ๆ ก็พอแล้วจ้า
2หัตถกรรมกระจูดวรรณี VARNI
ไปชื่นชมเส้นสายลายสาน สร้างสรรค์จากกระจูดกับใบลานที่ “หัตถกรรมกระจูดวรรณี” หลายคนอาจสงสัยว่ากระจูดคืออะไร? กระจูดเป็นพืชตระกูลกกที่แพร่พันธุ์รวดเร็ว และขึ้นเยอะมากในพื้นที่ภาคใต้ จุดเริ่มต้นของหัตถกรรมกระจูดวรรณียุคใหม่เริ่มมาจากคุณ ณัช-มนัทพงค์ เซ่งฮวด ทายาทรุ่นใหม่ที่สืบทอดการสานกระจูดมาจากครอบครัว นำวิธีการสานแบบดั้งเดิมมาผสมผสานกับการดีไซน์สมัยใหม่ให้เข้ากันอย่างลงตัวและเพิ่มมูลค่าได้อย่างมาก และที่นี่ก็มีส่วนของ Workshop (200 บาท) ที่เราสามารถลองสานกระจูดด้วยตัวเองใช้เวลาไม่นานประมาณครึ่งชมก็เสร็จและที่นี่ก็ให้กระจูดทำเป็นกระเป๋ากลับไปใช้เองหรือเป็นของฝากได้ด้วย
3ขนมหวานป้ากี้
เรามาพัทลุงทั้งทีจะไม่มาร้านนี้ไม่ได้ “ร้านขนมหวานป้ากี้” ร้านขายขนมไทยที่คนพื้นที่แนะนำให้กิน มีเมนูของหวานสไตล์โฮมเมดให้ได้เลือกมากมายทั้ง กล้วยเชื่อม ข้าวเหนียวดำ สาคูสด มันเชื่อม ฟักทองเชื่อม เชื่อไหมว่าทุกเมนูราคา 10 บาทเท่านั้นเอง! รสชาติหวานหอม กลมกล่อมแบบที่หากินยากแล้วในกรุงเทพฯ เผลอแป๊บเดียวกินหมดไม่รู้ตัว และที่ร้านมีขนมสูตรพิเศษอย่าง เต้าคั่วเจหรือเต้าคั่วแขก (25 บาท) เป็นเต้าหู้ทอดราดด้วยน้ำจิ้มสูตรพิเศษของป้ากี้ โรยด้วยถั่วคั่ว แตงกวาง ผักบุ้งลวก ที่เวลาพอกินรวม ๆ กันแล้วเวรี่กู้ด!
4สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา
ระหว่างทางที่เราเดินทางไปที่เที่ยวพัทลุงต่อไปก็ผ่าน “สะพานเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา” หรือ “สะพานเอกชัย” ที่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าชื่อสะพานเอกชัยก็เพราะว่าในวันเปิดสะพานคุณเอกชัย ศรีวิชัย นักร้องลูกทุ่งชื่อดังก็ได้ร่วมงานด้วย คนแถวนั้นจึงเรียกกันติดปากว่าสะพานเอกชัย
โดยสะพานนี้ถือว่าเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในเมืองไทย (5.4 กม.) เชื่อมกันระหว่างสงขลากับพัทลุง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวชื่อดังที่เหมาะกับหลายช่วงเวลาทั้งเช้าสามารถชมฝูงนก ควายน้ำ หรือตกเย็นก็สามารถนั่งชิลล์ ๆ มองพระอาทิตย์ตกดินได้
5สวนพฤกษศาสตร์พนางตุง
ใกล้กันนั้นก็ยังมีอีกจุดที่เที่ยวพัทลุงน่าสนใจ ก็ยังมี ”สวนพฤกษศาสตร์พนางตุง” เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติโบราณที่ยังอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีอาณาเขตกว้างถึง 6,100 ไร่ มีเส้นทางที่ให้เดินศึกษาธรรมชาติสภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าพรุน้ำจืดที่พบพันธุ์ไม้หลายประเภทอย่าง ลำพู เสม็ดขาว กระจูด เตย จิก สมอทะเล ฯลฯ เหมาะแก่การมาเดินเล่นพักผ่อนสบาย ๆ หรือถ้าใครสนใจชอบพันธุ์ไม้ก็เหมาะแก่การเดินศึกษาธรรมชาติได้อย่างดี
6บ้านต้นลำพู ท่าเรือปากประ
“บ้านต้นลำพู” ที่พักใกล้ชิดติดธรรมชาติ ที่ทุกอย่างเน้นไปทางออร์แกนิก และวิถีชีวิตในรูปแบบดั้งเดิมห้องพักที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาท บอกเลยว่าบรรยากาศสุดชิลล์และมีกิจกรรมล่องเรือในราคา 1,200 บาท
ที่ให้เราได้ตื่นเช้าชมบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นมีต้นลำพูเป็นฉาก ชมวิถีชีวิตการหาปลาด้วยการยกยอ ดูนกอพยพกว่า 100 ชนิด ล่องเรือชมทุ่งดอกบัวแดง ดูควายน้ำ พร้อมเต็มอิ่มอาหารเช้าที่มีผักพื้นบ้านและอาหารใต้ให้ได้กินอย่างจุใจ
DAY 2
7The Finn Cafe'
หลังจากกินอาหารเช้าเต็มที่จากที่พัก ร่างกายเราก็ร้องเรียกต้องการขนมหวานบ้าง เราเลยหาร้านคาเฟ่ฮิป ๆ ก็เจอร้าน “The Finn Cafe“ เมืองพัทลุงถูกตกแต่งในสไตล์ โมเดิร์น-ลอฟต์ มีเมนูให้เลือกหลายอย่าง “ช็อกโกแลตปั่น” (60 บาท) ที่รสชาติไม่หวานจนเกินไปแถมกลิ่นช็อกโกแลตห้อมฟุ้งไปทั่วทั้งปาก และสำคัญที่สุดร้านนี้ทำเค้กเองทุกขั้นตอน "บราวนีชีสเค้ก" (85 บาท) ทีเด็ดที่ชีสเค้กผสมผสานกับบราวนีได้อย่างลงตัว "Lemon Curd" (75 บาท) รสสัมผัสนุ่ม รสชาติหอมเลมอนกินแล้วสดชื่น หรือ "บิงชูสตรอเบอรี" (159 บาท) ชามโตที่กินแล้วสดชื่นพร้อมจะลุยกิจกรรมต่อไป บอกเลยฟินสมชื่อร้านจริง ๆ
8ล่องแก่งหนานมดแดง
มาต่อกันที่กิจกรรมเร่งอะดรีนาลีนกันบ้าง เราเลยพากันมาที่ล่องแก่งที่คลองห้วยน้ำใสซึ่งน้ำใสสมชื่อ คลองแห่งนี้ได้ต้นน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส เป็นจุดล่องแก่งที่สามารถมาล่องได้เกือบตลอดทั้งปี เราเลือกไปที่ "ล่องแก่งหนานมดแดง" ซึ่งเป็นเจ้าเก่าแก่ที่เปิดมานานถึง 9 ปี ล่องด้วยเรือคายัค สามารถนั่งได้ 2 คน ราคาคนละ 200 บาท/คน มี Staff มาดูแลด้วย 1 คน ใช้ระยะเวลาล่องประมาณ 2 ชม. ผ่านเกาะแก่งมากมาย ระยะทางกว่า 6 กม. ทั้งสนุกและสดชื่นมาก น้ำใสจนสามารถลงไปเล่นได้เลย ใครที่มีเวลาเหลือ เราแนะนำให้มาล่องแก่งที่นี่มาก ๆ
9หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์
หลังจากลุยกิจกรรมมาหนักใช้แรงเยอะ เริ่มหิวหนักมาก เราเลยมาจัดหนักกันที่ร้าน "หลานตาชูสเต็กเฮ้าส์" ร้านอาหารเจ้าดัง มาที่ห้ามพลาดเมนูทีเด็ดอย่าง บาร์บีคิวหมูพริกไทยดำ (200 บาท) ที่ถูกจัดเสิร์ฟมาอย่างอลังการงานสร้าง แถมรสชาติก็สมกับที่เคยได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Thailand Championship BBQ Cooking Contest 2009 พักด้วย สลัดหลานตาชู (140 บาท) ที่ใช้ผักสด ๆ กรุบกรอบราดด้วยน้ำสลัดสูตรของร้านกินเพลินดีจริง ๆ
ตามต่อด้วยขาหมูทอดสูตรหลานตาชู (340 บาท) ที่ผิวนอกกรอบลึกล้ำ ภายในกลับอ่อนนุ่มราวสำลีแถมยังชุ่มฉ่ำครบรส อีกเมนูที่ชอบส่วนตัวคือ ซี่โครงหมูผัดซอสหลานตาชูจานร้อน (160 บาท) เป็นซี่โครงหมูกลิ่มหอมเนื้อนุ่มผัดซอสสูตรทางร้านเข้ากันเป็นอย่างดี ตบท้ายด้วยขนมลูกตาล (60 บาท) ล้างปากจากอาหารคาวได้หมดจด รสชาติคล้ายขนมตาลแต่มีความนุ่มหนึบหนับจับใจกินแล้วเพลินจริง ๆ
10บ้านขนมลุง
ก่อนกลับบ้าน เราแวะไปที่ร้านเบเกอรีของฝากยอดนิยมที่ "บ้านขนมลุง" ร้านนี้เปิดมานานถึง 15 ปี ขนมที่นี่ทำเองทุกอย่างใช้สูตรลับเฉพาะในครอบครัวที่มีถึง 100 กว่าชนิดและยังมีขนมใหม่ออกมาเรื่อย ๆ ให้ได้ลิ้มลองกัน ห้ามพลาดพัฟฟ์ที่มีหลากหลายไส้ ฝอยทอง ชาเขียว สังขยา ข้าวโพด ไก่ กล้วยหอม มะพร้าว แต่ที่เราติดใจมากเลยก็คือ พัฟฟ์ไส้ฝอยทอง (กล่องใหญ่ 60 บาท,กล่องเล็ก 30 บาท) ที่กรอบนอกนุ่มในแถมกัดไปไส้ทะลักออกมาเรียกว่าไม่มีกั้กไส้กันเลย
และมีทั้งขนมอื่น ๆ อย่าง ขนมเปี๊ยะบัวหิมะ (60 บาท) สีสันน่ารัก รสชาติสัมผัสนุ่มนิ่มกลิ่มหอมกินเข้ากับชาเป็นอย่างดี ขนมหน้าแตก (40 บาท) กรอบเคี้ยวเพลินกินหมดไม่รู้ตัวและ พายเค้ก (60 บาท) ที่มีไส้เยอะแยะมากมายให้ได้กิน ความพิเศษอีกอย่างคือ หลังครัวของบ้านขนมลุง เมื่อเอาส่วนไข่แดงเป็ดมาทำขนมแล้ว ส่วนไข่ขาวก็ยังส่งมอบให้ทาง รพ. เพื่อใช้ทำอาหารอีกด้วย ใครที่แวะมาเที่ยวพัทลุง อย่าลืมแวะมาที่บ้านขนมลุง ซื้อของฝากติดมือกลับบ้าน หรือจะนั่งทานก็มีโซนคาเฟ่ให้ได้นั่งชิลล์อีกด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายสำหรับทริปเที่ยวพัทลุง 2 วัน 1 คืน
เห็นไหมครับเมืองเล็ก ๆ ที่ใครหลายคนคงคิดว่ามีที่เที่ยวพัทลุงคงไม่เยอะ แต่ถ้าเราลงไปในพื้นที่มีหลากหลายแนวให้ได้เลือกเที่ยวกันอย่างเต็มอิ่มนอกจากนั้นเราก็ยังมีที่เที่ยวแนะนำในภาคใต้เช่นกันอย่าง เยือนเมืองระนอง ท่องทะเลพม่า 3 วัน 2 คืน ให้เป็นตัวเลือกกันอีกด้วยครับ ติดตามเรื่องเที่ยวสนุก ๆ กับเราได้ที่ Wongnai Travel เลยน้า
