บรรยากาศดี ๆ แบบนี้ แถมยังมีวันหยุดยาวไม่เปลืองวันลา Wongnai ขอแนะนำทริปที่เที่ยวไต้หวัน เส้นทาง กิน / เที่ยว / ช็อป ที่เที่ยวไทเป 2 วัน แบบไม่ซ้ำใคร เอาใจคนชอบเที่ยวแบบชิลล์ ๆ ไม่เบียดกับคนเยอะ ๆ เกือบทั้งหมดในลิสต์คนไทยไม่ค่อยไปกันเท่าไหร่ แต่ที่จริงมันเดินทางสะดวกมาก แถมยังมีกิจกรรมให้ลงมือทำเองด้วยนะ ว่าแล้วมาเริ่มกันเลยย
1Loco Food
ก่อนจะออกสตาร์ตเที่ยวที่ไหน ๆ เราขอพาแวะร้าน “Loco Food”ก่อนเลย ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสถานีรถไฟฟ้า Songjiang Nanjing กับ Nanjing Fuxing พอดีเป๊ะ ต้องเดินประมาณ 15 นาที แต่รับรอง...คุ้ม! เพราะที่นี่เขาเสิร์ฟอาหารเช้าสไตล์ไต้หวันที่ขึ้นชื่อ จำพวกตั้นปิ่ง แซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์ต่าง ๆ มาในรูปแบบฟิวชัน ที่ลองสั่งมาเป็นตั้นปิ่งไส้เห็ดกับชีส แป้งกรอบ ๆ ด้านนอกกับไส้ด้านในให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กำลังกินพิซซ่า ส่วนสมูธตีเบอร์รีก็เสิร์ฟมาในแพ็กเกจถุงพลาสติกซีลน่ารัก ให้เราดึงออกก่อนจะเจาะหลอดลงไป instagramable มาก ๆ



คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Loco Food
2Miniatures museum of Taiwan (พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว)
ที่เที่ยวไทเปจุดแรกที่จะไปกันคือ “Miniatures museum of Taiwan” หรือ พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว การเดินทางง่ายมาก ๆ คือหลังจากกินอาหารจานคิวต์ที่ Loco Food อิ่มแล้ว ก็เพียงเดินเลียบไปทางถนนใหญ่ ทางที่จะมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟฟ้า Songjiang เมื่อเจอสี่แยกให้ข้ามถนนแล้วเลี้ยวซ้าย พิพิธภัณฑ์ของจิ๋วจะซ่อนอยู่ในตึกหน้าตาเหมือนอาคารสำนักงาน แต่ขอให้เชื่อใน Google Maps เข้าไว้
เจอตึกแล้วให้สังเกตหาป้ายชี้บอกทางไปยังชั้นใต้ดิน ตรงนั้นแหละเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์

ค่าเข้าชมที่นี่มี 3 ราคา คือ 200 NTD สำหรับผู้ใหญ่ 160 NTD สำหรับเด็กอายุ 13 - 18 ปี และ 140 NTD สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี พอเข้ามาปุ๊บ แค่ห้องแรกก็ตกใจกับความอลังการของบ้านตุ๊กตาขนาดใหญ่ที่วางไว้ตรงกลางห้องเลย คือมันก็หน้าตาเหมือนบ้านตุ๊กตาสมัยเราเด็ก ๆ นั่นแหละ แต่ใหญ่กว่าประมาณ 100 เท่าได้ แถมทุกห้องมีรายละเอียดที่ละเอียดจริงจัง ไม่ว่าจะห้องครัว ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว มีเฟอร์นิเจอร์และตุ๊กตาที่เหมือนว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่จริง ๆ

นอกจากบ้านตุ๊กตาใหญ่ ๆ ที่ว่านี้แล้ว รอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยตุ๊กตากับบ้านจิ๋ว เมืองจิ๋ว ที่วางอยู่บนชั้นด้วย

เดินมาสักพักก็จะถึงโซนแฟนตาซี...ซึ่งชื่อโซนนี้เราเรียกเอง ฮา! เพราะว่ามันเต็มไปด้วยของจิ๋วที่สร้างขึ้นมาจากนิทาน เรื่องเล่าปรัมปราต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งจินตนาการของศิลปิน ในบริเวณนี้เราจะเห็นทั้งสโนว์ไวท์ พินอคคิโอ กัลลิเวอร์ผจญภัย ไดโนซอร์แลนด์ ฯลฯ เยอะมากบรรยายไม่หมด แถมทุกชิ้นก็มีรายละเอียดให้เราค่อย ๆ เดินดูได้ไม่เบื่อเลย



ไฮไลต์อีกชิ้นหนึ่งของที่นี่ อยู่บริเวณทางออกพิพิธภัณฑ์ มันคือพระราชวังวินด์เซอร์ย่อส่วน ซึ่งอลังการมาก ๆ ดูจากรูปข้างล่างนี้สิ! ขนาดเป็นแค่ของจิ๋วยังขนาดนี้ แล้วของจริงจะขนาดไหน แอบนึกถึงรายการทีวีแชมเปี้ยนตอนแข่งทำของจิ๋ว สมัยก่อนเราได้แต่นั่งดูอยู่หน้าจอทีวี แต่ที่นี่คือมีของจิ๋วให้เราได้สำรวจดูไม่รู้กี่พันกี่หมื่นชิ้น แถมยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่คนไม่ค่อยพลุกพล่าน สามารถใช้เวลาได้ตามที่ต้องการเลย

คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Miniatures museum of Taiwan (พิพิธภัณฑ์ของจิ๋ว)
3Suho Memorial Paper Museum
เป้าหมายถัดไปคือ “Suho Memorial Paper Museum” ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก Miniatures Museum of Taiwan ถัดไปประมาณ 4 บล็อกถนน พิพิธภัณฑ์นี้ว่าด้วยเรื่องกระดาษในไต้หวัน มีการโชว์งานกระดาษทำมือและงานฝีมือจากกระดาษเปิดให้เข้าชมฟรี



พิเศษ!! ใครอยากลงไม้ลงมือทำกระดาษเองบ้างก็ได้นะ เพียงจ่ายค่าเวิร์กช็อป 150 NTD แล้วบอกพนักงานตรงเคาน์เตอร์ เขาจะพาขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้าที่มีอุปกรณ์ไว้ให้พร้อม ทีนี้ก็ละเลงผลงานได้เลย

คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Suho Memorial Paper Museum
4Hsing Tian Kong (วัดสิงเทียนกง)
สถานที่สุดท้ายของวัน เรานั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี Xingtian Temple เพื่อจะไปวัด “Hsing Tian Kong” หรือวัดสิงเทียนกงนั่นเอง จริง ๆ วัดนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงมาก พอ ๆ กับวัดหลงซานเลย แต่สิงเทียนกงนี้จะขึ้นชื่อด้านธุรกิจการค้าโดยเฉพาะ คนส่วนใหญ่ที่มาขอพรก็เลยมักจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า หรือเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ แต่ถึงใครไม่มีธุรกิจ ก็ไปชมความสวยงามของวัดได้ โดยเฉพาะประตูสีแดงโดดเด่นดูทรงพลัง เสาด้านข้างก็แกะสลักได้ละเอียดจริง ๆ


เอาล่ะ! เข้าไปไหว้ขอพรสักหน่อยดีกว่า ถึงแม้จะไม่มีธุรกิจอะไรเป็นของตัวเอง แต่ก็ไหว้ขอเงินทองแล้วกันเนอะ

คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Hsing Tian Kong (วัดสิงเทียนกง)
5Chiang Kai-Shek Chilin Residence
เริ่มลุยที่เที่ยวไทเปวันที่ 2 หลังจากกินมื้อสายง่าย ๆ แล้ว เราก็ตรงไปที่สถานีรถไฟฟ้า Shilin เลย แน่นอนว่าเวลานี้จุดมุ่งหมายของเรายังไม่ใช่ Shilin Night Market เพราะไปตอนนี้ก็ยังไม่มีร้านอะไรเปิดขาย เป้าหมายของเราคือ “Chiang Kai-Shek Chilin Residence” ซึ่งเป็นที่พักเก่าของอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็กกับภริยา และก่อนหน้านั้นเคยเป็นโรงเรียนสอนจัดสวน จัดดอกไม้ต่าง ๆ ปัจจุบันไม่มีใครอยู่แล้ว ก็เลยกลายเป็นสวนขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนไต้หวัน และนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ระหว่างที่เราเดินอยู่ก็เจอกรุ๊ปทัวร์จากสองประเทศแรกเยอะมาก การเดินทางก็ไม่ได้ลำบาก จากสถานีรถไฟฟ้าเดินต่อไปเพียงประมาณ 10 นาทีเอง

ในพื้นที่ของ Chiang Kai-Shek Chilin Residence มีหลายอย่างน่าสนใจ สิ่งแรกเลยคือร้านขายของที่ระลึก ซึ่งมีบาร์เครื่องดื่มเล็ก ๆ และมีไอศกรีมแท่งหน้าตาน่าดึงดูด ราคา 80 NTD พอเห็นแบบนั้น จากที่กำลังเตรียมพร้อมเที่ยว จู่ ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาซะอย่างนั้น เราเลยต้องซื้อมานั่งกินเติมพลัง (อะไรนะ อ้างแบบนี้ไม่ขึ้นเหรอ?)

กินไอศกรีมหมดแล้วก็ได้เวลาเดินต่อ โซนแรกที่มาถึงคือสวนกุหลาบ ซึ่งเป็นสวนเก่าของคุณนายเจียงนี่เอง ว่ากันว่าสมัยก่อนมีกุหลาบอยู่ในสวนนี้กว่า 200 สายพันธุ์ แต่เดี๋ยวนี้เหลือแค่ประมาณ 150 สายพันธุ์เท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็ยังมีมุมให้เลือกถ่ายรูปกันได้อย่างจุใจ เดินไปอีกหน่อยเป็นสวนแบบจีนและแบบยุโรปที่ตั้งประจันหน้ากัน ฝั่งหนึ่งมีน้ำพุ อีกฝั่งมีเก๋งจีน ก็เข้าท่าดีอยู่นะ มาที่เดียวก็ได้ครบจบเลย




อีกฝั่งของสวนแบบจีนมี Victory Chapel เป็นโบสถ์ส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดี และเอาไว้ต้อนรับแขกวีไอพีในอดีต ไม่เปิดให้เข้าชมแต่สามารถมองเข้าไปได้ สภาพยังสวยสมบูรณ์เหมือนใหม่อยู่เลย ส่วนตึกถัดไปเป็นเรือนกระจกและศาลากล้วยไม้ ที่เราอาจจะมาผิดฤดูไปหน่อยเลยไม่ได้เห็นอะไรมาก

ถัดจากสวนทั้งหมดก็มาถึงไฮไลต์ของที่นี่แล้ว นั่นก็คือตัวบ้านพักซึ่งอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็กเคยอาศัยอยู่นานถึง 26 ปี ภายในเปิดให้เข้าชม แต่ต้องเสียค่าเข้าและห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด...เด็ดขาดในระดับที่จะมีเจ้าหน้าที่คอยคุมอยู่ในทุก ๆ ห้องทีเดียว ข้างหน้าตรงนี้มีทัวร์หลายเจ้ามาหยุดถ่ายรูป เป็นบริเวณที่คนเยอะที่สุดของสวนเลยก็ว่าได้ ส่วนข้างในเงียบสงบเหมือนโดนตัดออกจากโลกภายนอก มีการจัดแสดงของใช้ของอดีตประธานาธิบดี พร้อมกับรูปภาพประวัติศาสตร์เก่า ๆ สำหรับคนที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ห้ามพลาดเลย

คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Chiang Kai-Shek Chilin Residence
6Shilin Night Market
เสร็จจาก Chiang Kai-Shek Shilin Residence ฟ้ายังไม่มืดเท่าไหร่ แต่เราตัดสินใจจะไปเดิน “Shilin Night Market” ต่อทันที เพราะถ้าไปตั้งแต่ตอนนี้ก็จะยังไม่ต้องเบียดคนมาก เดินช็อปเดินกินได้สบาย ๆ แถมยังเหลือเวลาไปลุยไนต์มาร์เก็ตที่อื่นที่คนน้อยกว่าต่อได้ด้วย ว่าแล้วก็เดินข้ามถนนไปรอรถเมล์โลด นั่งรถเมล์สาย 111 ประมาณ 10 นาทีรถก็ไปจอดส่งให้ถึงหน้าตลาด โซนช็อปปิงร้านเยอะ แต่นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะ ส่วนโซนของกินเริ่มพลุกพล่านหน่อยแล้ว ค่อย ๆ เดินซื้อสตรีตฟู้ดกินบ้าง แวะหยอดกาชาปองบ้าง แป๊บเดียวฟ้าเริ่มมืด จากเดินชิลล์ ๆ กลายเป็นเบียด ได้เวลาย้ายตัวเองไปลุยต่อที่อื่นต่อแล้ว!



คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Shilin Night Market
7Shida Night Market
เรานั่งรถไฟฟ้าวาร์ปไปสถานี Taipower Building เพื่อจะไป “Shida Night Market” เป้าหมายของเราที่นี่ไม่ใช่การกินอีกต่อไป แต่คือการช็อปปิง! ด้วยความที่ไนต์มาร์เก็ตแห่งนี้อยู่ใกล้มหา’ลัย ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นวัยรุ่นชิค ๆ เสื้อผ้าที่ขายในตลาดนี้เลยดีไซน์ชิคตามไปด้วย ที่สำคัญราคาไม่แพงเลย เหมาะมาก ๆ สำหรับปิดท้ายทริปเที่ยวไทเปสั้น ๆ ของเรา




คลิกเพื่อดูแผนที่ >> Shida Night Market
สรุปการเดินทาง 2 วัน 1 คืน
วันแรก
Loco Food >> Miniatures museum of Taiwan >> Suho Memorial Paper Museum >> Hsing Tian Kong
วันที่ 2
Chiang Kai-Shek Shilin Residence >> Shilin Night Market >> Shida Night Market

สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าที่พัก 2 คืน 3,000 NTD
ค่ากิน
Loco Food - 300 NTD
ร้านใน Chiang Kai Shek Shilin Residence - 80 NTD
Shilin Night Market - 200 NTD
ค่าช็อป Shida Night Market - 700 NTD
รวม 4,280 NTD (1 THB เท่ากับประมาณ 1.07 NTD)

ทริป กิน / เที่ยว / ช็อป ที่เที่ยวไทเป 2 วัน แบบไม่ซ้ำใคร สายชิลล์เที่ยวเองน่าจะชอบ จะไปไหนก็แค่เดิน โดยสารรถไฟฟ้า หรือนั่งรถเมล์ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว ทริปสั้น ๆ อีกอันที่อยากแนะนำคือ เที่ยวไต้หวันแบบทรหด!! ปีน 3 เขา ล่าวิวสวย ส่วนถ้าใครมีเวลาเยอะ อยากไปเที่ยวหลาย ๆ ที่ โหลดแผนที่ไปดูกันเล้ยย เซฟไว้ได้ใช้แน่! รวมแผนที่กินเที่ยวไต้หวัน 10 ย่านฮิต นอกจากนี้ เรื่องกินเรื่องใหญ่ไว้ใจ Wongnai ร้านในต่างประเทศเราก็ไม่พลาด มีมาแนะนำเหมือนกัน 20 ร้านอาหารเจ้าเด็ด ต้องเช็กอินเมื่อไปไต้หวัน ที่เที่ยว ที่กิน อื่น ๆ มีอะไรอีก ติดตามกันได้ทางเพจ Wongnai Travel ค่าา