ใครว่าหน้าฝนต้องมัวแต่หลบฝนอยู่บ้าน อยู่ใต้ฟ้าจะกลัวฝนไปอีกทำไม แพ๊กกระเป๋าแล้วออกไปตะลุยฝนกันเลยดีกว่า! วันนี้ Wongnai จะมาวางแผนเที่ยวให้เพื่อน ๆ กับ เขาค้อ-ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน เที่ยวหน้าฝนก็ไปได้ ออกไปตะลุยฝนโดยไม่ต้องหวั่นให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันไปเลย บอกเลยว่าที่เที่ยวเขาค้อ-ภูทับเบิกหน้าฝนเนี่ย เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุดแล้วกับการได้เห็นทะเลหมอกที่ลอยผ่านวิวธรรมชาติสีเขียวสด พร้อมได้สัมผัสไอละอองฝนชุ่มฉ่ำ พร้อมกับอากาศเย็น ๆ บอกเลยว่าฟินจ้า~ อย่ามัวรอช้าไปเลย เรามาเตรียมตัวกันให้พร้อม วางแผนที่เที่ยว ลิสต์ที่กินที่พัก แล้วออกเดินทางกันเถอะ!
การเดินทาง เขาค้อ-ภูทับเบิก
รถยนตร์ - การเดินทางมา เขาค้อ-ภูทับเบิก นั้น หากเพื่อน ๆ มีรถยนต์ส่วนตัวมาจะสะดวกสบายกว่ามาก
- ให้ใช้ เส้นทางมุ่งหน้าจากเพชรบูรณ์ เข้าสู่ถนนสาย 12 สายหล่มสัก-พิษณุโลก บอกเลยว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นที่วิวสวยงามมาก ๆ เลย
รถสาธารณะ - หากเพื่อน ๆ ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็สามารถใช้บริการรถสาธารณะได้เหมือนกัน
- รถทัวร์ เริ่มต้นที่หมอชิต 2 เป็นรถทัวร์บริการของ บริษัทพิษณุโลกยานยนต์ ใช้เส้นทาง กรุงเทพฯ-เขาค้อ นั่งยาว ๆ ไปลงที่ทุ่งสมอ จากนั้นก็หาบริการรถสองแถว ที่นั้นก็จะมีให้บริการแบบเหมาทั้งวัน ส่วนเรื่องราคานั้นก็แล้วแต่ตกลงเลยค่ะ
(ภาพแผนที่เขาค้อ - ภูทับเบิก)
Day 1 : เขาค้อ
เขาค้อ - วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว - อนุสรณ์สถานเขาค้อ - พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก - จุดชมวิวกังหันลม
เดินทางมุ่งหน้าสู่ เขาค้อ ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ จากเดิมเป็นพื้นที่สงครามในสมัยก่อน แต่เมื่อยุคสงครามสิ้นสุดลง เขาค้อก็กลายเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เพื่อให้บุคคลทั่ว ๆ ไปมาเที่ยวและชมความสวยงามของเขาค้อกัน บอกเลยว่าสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณเขาค้อนั้นมีอยู่เยอะพอสมควรเลยละ อย่ารอช้า เอาเป็นว่าเรามาเริ่มต้นที่เที่ยววันแรกกันเลยดีกว่า หากเพื่อน ๆ เดินทางมาถึงเขาค้อกันแล้ว เราแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปไหว้พระ ขอพร เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนดีกว่าที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ที่นี่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์ก เพราะเพื่อน ๆ คงจะเคยเห็นพระพุทธรูป 5 องค์ที่ตั้งตระหง่านซ้อนกัน เป็นภาพที่สวยงดงาม ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้แวะกลับมาสักการะ และถ่ายภาพกันอยู่ตลอด และความโดดเด่นด้วยสีสันของโบสถ์ บอกเลยว่าตระการตาเลยจริง ๆ
ต่อมาไปกันที่ อนุสรณ์สถานเขาค้อ ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เป็นแหล่งให้ความรู้ประวัติศาสตร์ในอดีต เอาไว้ให้มาท่องเที่ยวและระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต และที่สำคัญที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่งที่ดีมากเลยละ
แถมไปไหว้พระสักการะกันอีกที่ดีกว่า ที่ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก เจดีย์สีขาวขนาดใหญ่ ที่ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปจำนวนมาก ด้วยบรรยากาศภายในพระบรมธาตุเจดีย์ฯนั้นสงบมากเหมาะแก่การมาปล่อยจิตใจให้โล่งสบาย
อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่ จุดชมวิวกังหันลม อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิต ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยบอกเลย และไฮไลต์ของที่นี่ก็คือเราจะพาเพื่อน ๆ ไปนั่งชิงช้าม้งเล่นกัน ไกวชิงช้าพร้อมชมวิวทุ่งกังหันลมสุดชิล~ กระซิบบอกเลยว่าฟินกว่านี้ไม่มีแล้วละ อากาศเย็นสบายกำลังดี และขอแนะนำว่าให้มาช่วงเย็น ๆ จะเป็นอะไรที่ดีมาก สำหรับที่นีมีค่าเข้า ผู้ใหญ่ 60 บาท/คน ส่วนเด็ก 1-10 ปี เข้าชมฟรีจ้า
Day 2 : ชมทะเลหมอกวิวเขาค้อ-ภูทับเบิก
ชมทะเลหมอก - น้ำตกศรีดิษฐ์ - สวนสัตว์เปิดเขาค้อ - ภูทับเบิก
เช้าวันสดใส รีบตื่นให้เช้าแล้วออกมาสูดอากาศธรรมชาติ ยืนมองทะเลหมอกให้มันฟิน ๆ กันไปเลย หาน้ำอุ่น ๆ กาแฟร้อน ๆ สักแก้วว เอาไว้จิบกินขณะดูทะเลหมอก บอกเลยว่าสุดยอด~ ขอย้ำบอกเพื่อน ๆ อีกทีว่า หน้าฝนที่เขาค้อเนี่ย หมอกดีมากเลยจริง ๆ หละ สาย ๆ ของวันหน่อย อยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ เดินทางไปที่ น้ำตกศรีดิษฐ์ กัน น้ำตกชั้นเดียว ที่มีวิวม่านน้ำตกขนาดใหญ่ พร้อมไว้เป็นแบ๊กกราวนด์ให้เพื่อน ๆ ได้ถ่ายรูปกัน
หากใครไปเที่ยวแบบครอบครัว และพอมีเวลาว่าง บอกเลยว่าสถานที่นี้น่าจะเป็นสถานที่โปรดปรานของเด็ก ๆ เลยก็ว่าได้ กับที่ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ สวนสัตว์แห่งเดียวใน จ.เพชรบูรณ์ ที่มีเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่รอให้น้อง ๆ หนู ๆ มายลโฉม ถ่ายรูปกัน รับรองว่าเด็ก ๆ ก็เที่ยวได้ผู้ใหญ่ก็เที่ยวดีเลยละ
ช่วงเย็นก่อนที่ตะวันจะลับของฟ้า เราขอแนะนำให้เพื่อน ๆ มุ่งหน้าไปสู่ ภูทับเบิก เพื่อที่จะได้เตรียมตัวสำหรับการดูทะเลหมอกบนภูทับเบิกกัน เราแอบขอแนะนำว่า หากเพื่อน ๆ ไม่อยากเสียค่าที่พักแพงก็หาที่กางเต็นท์เอาก็ได้ บอกเลยว่านอนเต็นท์ตื่นเช้ามาสัมผัสทะเลหมอก ฟินมากจ้า~
Day 3 : สูดบรรยากาศธรรมชาติให้เต็มปอดที่ภูทับเบิก-ชมวิวไร่กะหล่ำ
ทะเลหมอกภูทับเบิก - ไร่กะหล่ำ
ดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกที่ภูทับเบิก ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวอีกที่เลยก็ว่าได้ เพราะวิวภูเขาพร้อมทุ่งกะหล่ำปลียักษ์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิวที่ไม่เหมือนกับที่ไหน ๆ บอกเลยว่าชมทะเลหมอกช่วงหน้าฝนที่ภูทับเบิก ก็ฟินได้ไม่แพ้ที่ไหนเลย ๆ
หากเพื่อน ๆ มาเที่ยวภูทับเบิกแล้ว แน่นอนว่าเพื่อน ๆ ก็จะได้เห็นทุ่งกะหล่ำปลียักษ์ แบบสุดลูกหูลูกตา ที่ชาวบ้านบนภูทับเบิกเนี่ยปลูกไว้ค้าขายกันอีกด้วย ใครอยากจะถ่ายรูปก็ได้ตามสบาย แต่อย่าเผลอไปเหยียบโดนกะหล่ำปลีของชาวบ้านเข้าให้ล่ะ
ร้านอาหารเขาค้อ-ภูทับเบิก
ร้านอาหารเขาค้อ
ร้านแรกที่เราขอแนะนำนั่นก็คือ ร้าน The Piney Bistro Cafe ร้านคาเฟ่วิวสวย พร้อมบรรยากาศน่ารัก ๆ บอกเลยว่าที่นี่มีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มเพียบ มีที่นั่งโซนด้านในและด้านนอก ให้เพื่อน ๆ ลิ้มลองอาหาร พร้อมชมวิวหลักล้านของเขาค้อได้เลย
และอีกร้านที่เราแนะนำนั่นก็คือร้าน Jolly Cafe by Cup Mellow ร้านคาเฟ่น่ารัก ตกแต่งโรงนาสีขาว ที่มีบรรยากาศอบอุ่น ได้ฟีลเหมือนอยู่โรงนาในต่างประเทศ มีเสิร์ฟทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มพร้อม จะมองมุมไหน หรือจะถ่ายรูปท่าไหนก็ดูสวยน่ารักไปหมดเลยจริง ๆ
ร้านอาหารและคาเฟ่ในเขาค้อยังมีอีกเยอะแยะเลย หากยังไม่จุใจเพื่อน ๆ สามารถตามไปดูกันต่อได้ที่ 10 ร้านอาหารสวยในเขาค้อ วิวเด็ดกระชากใจ! เอาไว้เป็นลิสต์ฝากท้องยามหิวกัน
ที่พักเขาค้อ
หากเพื่อน ๆ มาเที่ยวที่เขาค้อแล้วนั้น เราขอแนะนำที่นี่เลย แอททรี รีสอร์ต เขาค้อ (At Tree Resort) รีสอร์ตน่ารัก ๆ ที่ตั้งอยู่ที่เขาค้อ เพื่อน ๆ จะได้เห็นวิวดี ๆ พร้อมทะเลหมอกสุดลูกหูลูกตา โดยที่เพื่อน ๆ สามารถนอนมองจากบนเตียงนอนเลยก็ได้ บอกเลยว่าเป็นอะไรที่ฟินสุดยอดดด~
และอีกสถานที่พักที่เราแนะนำเสมือนพาเพื่อน ๆ ไปอยู่ต่างประเทศกันเลยทีเดียว กับ เดอะบลูสกายรีสอร์ตแอทเขาค้อ หากเพื่อน ๆ ได้ไปพักที่นี่แล้ว ลืมไปได้เลยว่าอยู่เมืองไทย เพราะการตกแต่ง วิวที่ได้เห็น เหมือนได้วาร์ปไปอยู่เมืองนอกเลยทีเดียวละ
ยังมีที่พักเขาค้ออีกมากมายให้เพื่อน ๆ ได้เลือก สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ 9 ที่พักเขาค้อบรรยากาศดี ใกล้ชิดทะเลหมอก ตามไปหาที่พักที่ใช่ บรรยากาศดี ๆ วิวสวย ๆ กันได้เลยย~
ที่พักภูทับเบิก
กางเต็นท์ที่ภูทับเบิก การนอนเต็นท์ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต่างมาทำกันที่ภูทับเบิก เพราะเพื่อน ๆ นั้นจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และได้ชมทะเลหมอกแบบแทบไม่ต้องลุกออกไปไหน หากเมื่อเพื่อน ๆ ได้เห็นวิวทะเลหมอกที่ภูทับเบิกแล้วนั้น แทบจะละสายตาไปจากวิวตรงหน้าไม่ได้อีกเลย
ลานกางเต็นท์วิสาหกิจชุมชน
- หากนำเต็นท์มาเอง เสียค่าบำรุงสถานที่ คนละ 50 บาท/เต็นท์/คืน
- ราคาเต็นท์เช่า 500 บาท/คืน
- ราคาผ้าห่มผืนละ 100 บาท
- หมอนใบละ 30 บาท
- ผ้าใบผืนละ 50 บาท
- ให้บริการเช่าเต็นท์เล็ก พักได้ 2 ท่าน พร้อมเครื่องนอน ราคา 500 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
- เต็นท์ใหญ่ พักได้ 4 ท่าน พร้อมเครื่องนอน ราคา 800 บาท (ไม่รวมอาหารเช้า)
หรือหากเพื่อน ๆ ไม่อยากพักแบบกางเต็นท์ เราก็มีรีสอร์ตมาแนะนำเหมือนกัน เพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ 15 ที่พักภูทับเบิก ชมทะเลหมอกยามเช้า นับดาวตอนกลางคืน
ค่าใช้จ่าย
- ค่าฝากรถทุ่งกังหันลม 20 บาท/คัน
- ค่าเข้าทุ่งกันหันลม ผู้ใหญ่ 60 บาท/คน เด็กอายุ 1-10 ปี เข้าชมฟรี
- ค่าเข้าชมน้ำตกศรีดิษฐ์ 30 บาท/คน
- ค่าที่จอดรถวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว 20 บาท/คัน
- ค่าเต็นท์ พร้อมอุปกรณ์ ประมาณ 800 บาท/คืน
หมายเหตุ : ราคาและค่าใช้จ่ายอาจมีการเปลี่ยนแปลง
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยกับ เขาค้อ-ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน เที่ยวหน้าฝนก็ไปได้ จุก ๆ กันไปเลยจ้า บอกแล้วว่าเราสรรหาที่เที่ยว ที่กิน ที่พัก มาให้เพื่อน ๆ แบบครบเครื่องสุด ๆ กันไปเลย แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ ยังไม่จุใจ ก็ไปเราก็ยังมี 40 ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ เที่ยวไม่หมดไม่ต้องกลับบ้าน! ที่เที่ยวเน้น ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเที่ยวแบบเต็มที่ และเราก็ขอฝากเพจ Wongnai Travel เอาไว้อัปเดตข่าวสาร หากมีที่เที่ยวที่ไหนฮิต ที่ไหนสวย ๆ ให้เพื่อน ๆ ได้ติดตามกันไว้จะได้ไม่ตกเทรนด์กัน และสุดท้ายนี้เที่ยวหน้าฝน ก็ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ ขับขี่ปลอดภัย ไม่ประมาทกันเด้อ
ติดตามบทความเจ๋ง ๆ เกี่ยวกับเขาค้อ - ภูทับเบิกได้อีกที่
