กลับมาพบ “แวน เฮ้วซิ่ง” กับเที่ยวตามสั่ง ที่จะพาทุกคนไปบุกที่เที่ยวกาญจนบุรี นั่งรถไฟสุดชิลไปเที่ยวเมืองกาญ เที่ยวครั้งนี้แวนเลือกนั่ง รถไฟนำเที่ยวขบวน 909 ซึ่งขบวนนี้เป็นขบวนที่จะพาทุกคนสัมผัสกับเส้นทางรถไฟสายมรณะ ดื่มด่ำกับวิวเขา และสะพานข้ามแม่น้ำแคว แวะเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย เพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และทริปนี้ไม่ธรรมดา เพราะแวนขอเช่ารถเที่ยวต่อ ลุยกินร้านเด็ดแบบจัดเต็ม ทำกิจกรรมล่องแพเปียกสุดมัน พักที่พักแคมปิงสไตล์สุดหรู และจะสนุกสุดฟินสักแค่ไหนไปดูกันเลยค่า~

1สถานีรถไฟกรุงเทพฯ
และสถานีแรกที่เรานัดพบกันตั้งแต่เช้ามืดวันนี้คือ “สถานีรถไฟกรุงเทพฯ” หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “สถานีรถไฟหัวลำโพง” ซึ่งเช้านี้แวนซื้อตั๋วรถไฟขบวนนำเที่ยวกาญจนบุรี หมายเลขขบวน 909 เป็นขบวนไปเช้าเย็นกลับ ในราคา 204 บาท ซึ่งใครที่จะมาขึ้นรถไฟขบวนนี้ที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ ต้องจองล่วงหน้านะคะ ที่สำคัญ เป็นเที่ยววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้นค่ะ ส่วนวันธรรมดา ต้องไปขึ้นที่สถานีรถไฟธนบุรีค่า~


ภายในขบวนเนี่ยกว้างขวางมาก ๆ รถที่แวนเลือกเป็นรถไฟชั้น 2 ห้องปรับอากาศค่ะ แอร์เย็นสบาย มองเห็นวิวด้านข้างได้ด้วย มีพื้นที่วางขา ใครขายาวไม่ต้องกลัวเมื่อย มีช่องเก็บสัมภาระ และช่องวางเครื่องดื่มและอาหาร สำหรับใครที่อยากสัมผัสวิวลมโกรกแบบธรรมชาติ แนะนำให้นั่งห้องโดยสารชั้น 3 แบบพัดลมเลยค่ะ รับรองว่านอกจากจะได้เห็นวิวแบบเต็มอิ่มจุใจแล้ว ยังได้สูดอากาศธรรมชาติสดชื่นอีกด้วย ทริปนี้ถือเป็นทริปที่เที่ยวคุ้มมากค่ะ เพราะสามารถเที่ยวได้ตั้งแต่นั่งอยู่บนขบวนรถไฟเลย

2วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร
และสถานีแรกที่รถไฟนำเที่ยวกาญจนบุรี ขบวน 909 แวะเป็นที่แรก คือ สถานีรถไฟนครปฐม ซึ่งที่นี่จะจอดแวะสักประมาณ 20-40 นาที ใครที่อยากไปเดินซื้อของที่ตลาด หรือแวะไหว้สักการะพระปฐมเจดีย์ที่ “วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร” ก็สามารถเดินไปได้เลยค่ะ ใกล้มาก ๆ หลังจากแวนเดินผ่านตลาดเห็นของกิน ขนมหวาน และอื่น ๆ อีกมากมาย หน้าตาน่ารับประทานไปหมด ก็อดไม่ได้ ซื้อ “ขนมสอดไส้” (ราคา 10 บาท) และ “ขนมถ้วย” (ราคา 20 บาท) ห่อใส่กล่องเก็บไว้กินบนรถไฟสักหน่อย ก่อนที่จะเดินเข้าไปไหว้สักการะพระปฐมเจดีย์ที่บริเวณหน้าวัด และกลับขึ้นขบวนรถไฟ เพื่อออกเดินทางต่อค่ะ~

3สะพานข้ามแม่น้ำแคว
สถานีต่อมา “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” สถานียอดฮิต ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมาชมวิวสะพาน และแม่น้ำแคว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สำคัญที่ใครแวะมาก็ต้องมาถ่ายรูปเช็กอินลงโซเชียล บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยว มีเด็กนักเรียนมาดีดกีตาร์ร้องเพลงให้ฟัง เรียกได้ว่ามากาญจนบุรีทั้งทีก็ต้องแวะมาเที่ยวที่นี่ค่ะ และแน่นอน แวนมาถึงทั้งทีต้องไม่พลาด เดินถ่ายรูปเพลินกันจนเกือบลืมเวลาขึ้นรถไฟกันเลยทีเดียว ฮ่า ๆ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงประกาศให้ขึ้นรถไฟแล้วค่า~


4ถ้ำกระแซ
นั่งรถไฟชมวิวธรรมชาติกันมาตลอดทางได้สักพัก ก็ผ่าน “ถ้ำกระแซ” ซึ่งตั้งอยู่บนทางรถไฟสายมรณะ ที่นี่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เรียกได้ว่า นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกด้วยค่ะ บรรยากาศรอบ ๆ เห็นวิวเขาและหินผาสวยงาม ด้านหนึ่งเป็นผา อีกด้านเป็นแม่น้ำ โดยมีรางรถไฟและรถไฟกั้นระหว่างกลาง สวยงามจริง ๆ ค่ะ และใครที่อยากออกมาถ่ายรูปที่หน้าต่าง ก็ต้องไม่พลาด เพราะจุดที่ขบวนรถไฟเลี้ยวโค้งตามรางนั้น เป็นจุดที่ถ่ายออกมาสวยที่สุด แต่ว่าต้องปฏิบัติตามกฎของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดนะคะ เนื่องจากบริเวณนี้อันตรายมากค่ะ

5น้ำตกไทรโยคน้อย
หลังจากลงรถไฟมา แวนก็ได้แวะ เช่ารถกับเพื่อนที่อยู่กาญจนบุรีเพื่อขับรถเที่ยว (ราคา 1,200 บาท) หลังจากขับรถได้ไม่นานก็เดินทางมาถึง “น้ำตกไทรโยคน้อย” ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นมากค่ะ หลังเดินเข้ามาไม่นานก็เจอกับน้ำตกขนาดใหญ่ ที่ด้านบนเป็นธารน้ำไหลลงมา สวยงามมาก ๆ ระหว่างทางที่ผ่านมาจะเห็นนักท่องเที่ยวนั่งแช่น้ำ คลายความร้อน เด็กเล็กเด็กน้อยก็ต่างเล่นน้ำ แช่น้ำกันอย่างสนุกสนาน

สำหรับด้านในจะเป็นตัวน้ำตกขนาดใหญ่ บริเวณนี้จะไม่อนุญาตให้ลงเล่นค่ะ เนื่องจากมีความอันตรายและบางจุดอาจทำให้ลื่นหกล้มได้ ซึ่งบริเวณด้านบนสวยงามมาก ๆ เจ้าหน้าที่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปถ่ายรูปกันได้ค่ะ แต่ต้องระมัดระวังอย่างมาก แนะนำว่าให้ถอดรองเท้าเดินดีกว่าค่ะ จะได้สัมผัสได้ว่าตรงส่วนไหนลื่นบ้าง ขอบอกเลยว่าข้างบนเนี่ย บรรยากาศดีมาก วิวสวย น้ำตกใหญ่มาก และมีมุมสวย ๆ ไว้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ น้ำที่เราเหยียบอยู่ก็เย็นสดชื่น เรียกได้ว่าได้บรรยากาศของการพักผ่อนจริง ๆ เลย

6ไอซ์โภชนา
เที่ยวกันมาจนจุใจ ก็ได้เวลาหาอะไรลงท้องสักหน่อย แวนแวะที่ “ไอซ์โภชนา” ร้านเด็ดเมืองกาญ ที่บรรยากาศดี ร้านมีพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวกว้างขวางมากค่ะ และที่สำคัญเมนูเด็ดที่ห้ามพลาด “ยำเห็ดโคน” (ราคา 400 บาท) “ผัดฉ่าปลาคัง” (ราคา 180 บาท) “ผัดผักกูด” (ราคา 100 บาท) และ “ไข่ไอซ์” (ราคา 80 บาท) เมนูนี้เนี่ยเป็นเมนูแนะนำทางร้านเลย เป็นไข่ยางมะตูมที่นำไปชุบกับหมูสับแล้วนำไปทอด รสชาติดีมาก ๆ มื้อนี้เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มมาก ๆ เลยค่ะ และเมื่อเติมพลังกันแล้วก็พร้อมออกเดินทางต่อไปกันโลด~

เติมพลังงานให้คนกันแล้ว ก็ต้องแวะเติมพลังงานให้รถกันบ้าง แวนเลือกแวะ “ปั๊มน้ำมันบางจาก” (พรีเมียม Oil กาญจนบุรี) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่มีสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบางจากด้วยค่ะ แวนถูกใจมาก ๆ เพราะมี บัตรสมาชิกบางจาก Limited Edition 4 ภาค Design by Kapi ที่มีลายน่ารัก ๆ ให้เลือกถึง 4 ลายด้วยกัน



ขับรถเที่ยวกับบางจากวันนี้ รับสิทธิพิเศษมากมายทั่วไทยกับ “คิด...แล้วไปให้ถึง เที่ยวเมืองไทยใช้บางจาก” รับสิทธิพิเศษ Special Deal จาก โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย กว่า 200 รายการ และรับสิทธิ์ใช้คะแนนสะสมของสมาชิก แลกซื้อ Flash Sale ที่พักและแหล่งท่องเที่ยวสุด Exclusive ในราคาหลักร้อย รวม 60 สิทธิ์ อาทิ ศรีพันวา ภูเก็ต (ราคา 900 บาท) ดุสิตธานี กระบี่ รีสอร์ท (ราคา 900 บาท) เคป นิทรา หัวหิน (ราคา 900 บาท) วีรันดา ไฮ รีสอร์ท เชียงใหม่ (ราคา 800 บาท) โฟร์ซีซัน รีสอร์ท เชียงใหม่ (ราคา 900 บาท) โรงแรม ยู พัทยา (ราคา 800 บาท) รวมไปถึงสินค้าและบริการในสถานีบริการน้ํามันบางจากในราคาพิเศษอีกด้วยค่ะ เติมน้ำมันที่นี่คุ้มมาก ๆ และเมื่อเติมพลังงานให้ทั้งคนและรถแล้ว ก็พร้อมออกเดินทางต่อกันแล้วค่า~

7ล่องแพเปียก
และที่เที่ยวกาญจนบุรีที่ต่อมา ใครที่มาเที่ยวเมืองกาญ ต้องห้ามพลาดสิ่งนี้ “ล่องแพเปียก” เมืองกาญนี่ขึ้นชื่อเรื่องกิจกรรมทางน้ำอย่างการล่องแพชมวิวมากเลยค่ะ แวนของเราเตรียมพร้อมมาอย่างดี พกชุดพร้อมเปียกกันเลยทีเดียว แพที่นี่จะสามารถจุคนได้ไม่เกิน 15 คนค่ะ การออกแพแต่ละที 1 ลำ ราคา 1,000 บาท เท่านั้นเอง ถ้ามากัน 10 คน ก็ตก คนละ 100 บาท ค่ะ คุ้มมาก ๆ ได้ล่องแพชมวิวแม่น้ำแคว แถมยังสามารถโดดลงเล่นน้ำได้ด้วยนะ แวนไม่รอช้า โชว์ท่ากระโดดน้ำแบบมืออาชีพให้ดูเลยค่ะ เรียกได้ว่างานนี้เปียกจนถึงหัวกันเลยทีเดียว ฮ่า ๆ เล่นน้ำล่องแพกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงโห่ร้องเฮฮา และเต็มไปด้วยรอยยิ้มจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวล่องแพเปียก ขอบอกเลยว่าการมาล่องแพเปียกครั้งนี้ไม่ผิดหวังเลยค่ะ~

8หินตก ริเวอร์แคมป์
เล่นน้ำกันมาเหนื่อย ๆ ก็แวะเข้าที่พักกันสักหน่อยค่ะ คืนนี้แวนพักที่ “หินตก ริเวอร์แคมป์” ที่พักหรู เต็นท์ติดแอร์ เอาใจคนรักสไตล์แคมปิง ที่นี่บรรยากาศดีมาก เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เรียกว่า ช่องเขาขาด สไตล์การตกแต่งยามเย็น โรแมนติกมาก ๆ รอบ ๆ ที่พักมีพื้นที่ให้ผู้เข้าพักได้พักผ่อนหย่อนใจมากมายหลายจุด และที่สำคัญสายชอบถ่ายรูปถ้าได้มาพักที่นี่รับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ เพราะมีมุมให้ได้ถ่ายรูปหลายจุดมาก ๆ เรียกได้ว่าสะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และที่สำคัญเป็นที่พักที่สวยมาก ๆ เลยค่ะ


สำหรับที่พักที่นี่จะมีให้เลือกหลากหลายห้อง และหลากหลายราคาด้วยกัน ซึ่งในส่วนของราคาจะแตกต่างไปตามฤดูกาล เทศกาล หรือโปรโมชั่นในเวลานั้น ๆ ค่ะ ส่วนห้องพักที่แวนเลือก เป็นห้อง Deluxe Tented Room with Dinner + Breakfast (ราคา 2,830 บาท) โดยสามารถจองผ่านเว็บไซต์ www.hintokrivercamp.com ได้เลยค่ะ ซึ่งราคานี้เป็นราคาต่อคืน และต่อห้อง ซึ่งจะได้อาหารถึง 2 มื้อด้วยกัน คือมื้อเย็น และมื้อเช้าค่ะ ที่พักสวย ๆ ราคาคุ้มค่ามาก ๆ ใครที่มาเที่ยวกาญจนบุรี อยากนอนที่พักสไตล์แคมปิงสุดชิล ขอแนะนำที่นี่เลยค่า วันนี้ออกเดินทางท่องเที่ยวกันมาทั้งวันแล้ว ขอกลับไปนอนพักผ่อนเอาแรงกันสักหน่อย แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้ค่า ~

บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก ๆ แวนขอตื่นแต่เช้าออกมาสูดบรรยากาศด้านล่าง ซึ่งข้าง ๆ กับห้องอาหารจะมีบันไดเล็ก ๆ ที่สามารถเดินลงไปด้านล่างได้ค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะมีท่าน้ำ และมีศาลาให้นั่งพักผ่อน และที่สำคัญวิวบริเวณนี้สวยมาก ๆ มีหมอกจาง ๆ ตรงทิวเขา และความเย็นฉ่ำจากไอน้ำที่ลอยขึ้นมาเหนือผืนน้ำ ผ่อนคลายมาก ๆ ใครที่อยากมาถ่ายรูปหรือมานั่งชมวิวพักผ่อนก่อนรับประทานอาหารเช้าก็แวะมาที่จุดนี้ได้ค่ะ
9เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสลักพระ
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อย ก็ออกเดินทางเที่ยวกันต่อ ซึ่งกิจกรรมนี้ แวนบอกว่าภูมิใจนำเสนอมาก ๆ เพราะเป็นกิจกรรมทำโป่งเทียม และกิจกรรมยิง Seed Bomb เพื่อเป็นอาหารให้สัตว์ป่า เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และรักษาระบบนิเวศของพืชและสัตว์ให้คงอยู่คู่จังหวัดกาญจนบุรีต่อไป กิจกรรมนี้แวนตื่นเต้นมาก ตั้งใจฟังวิทยากร หรือหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอย่างตั้งอกตั้งใจเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจสามารถมากับครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้ค่ะ ซึ่งจับกลุ่มกันมา ไม่เกิน 10 คน จะอยู่ที่ราคา 1,000 บาท จะตกคนละ 100 บาทเท่านั้น ซึ่งราคานี้จะเป็นค่าอุปกรณ์ค่ะ ส่วนค่าเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น จะเสียคนละ 20 บาท และถ้านำรถมาด้วยจะเสียค่าเข้าคันละ 30 บาทค่ะ และถ้าใครมาเป็นองค์กร หรือบริษัท ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนคนค่ะ

เมื่อเรียนรู้ข้อควรระวังจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ก็พร้อมออกไปยิง Seed Bomb กันแล้วค่า ระหว่างทางเดินเข้าป่า ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดมาก ๆ เห็นมูลช้างตามทาง เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี่เป็นทางช้างผ่านด้วยนะคะ แต่ช้างมักจะออกมาเวลากลางคืน ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ และที่สำคัญคือ ทุกคนที่มาทำกิจกรรมต้องระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองค่า~


สถานีแรก “Seed Bomb” วิธียิงง่ายมาก ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมหนังสติ๊ก สำหรับยิง และลูก Seed Bomb ซึ่งภายในจะบรรจุเมล็ดพันธุ์พืชเอาไว้ค่ะ ด้านนอกจะหุ้มด้วยดินเหนียว เมื่อเรายิงออกไป Seed Bomb จะตกลงบนพื้นและเมื่อฝนตก เมล็ดพันธุ์จะงอกเงยมาเป็นอาหารของสัตว์ป่าต่อไปค่ะ

เมื่อสำเร็จภารกิจแรกก็เดินทางไปที่สถานีต่อไป “การทำโป่งเทียม” ซึ่งสถานีนี้เป็นการสร้างอาหารให้กับสัตว์ป่า เป็นการขุดดินเปิดหน้าดินให้โป่งและเทเกลือแกงพร้อมคลุกดินที่กองไว้ด้านข้าง ผสมกัน ถ้าเป็นก้อนเกลือแร่ควรทุบให้ละเอียดก่อนค่ะ เพื่อที่สัตว์ป่าจะได้กินได้สะดวก นำเกลือไดแคลเซียมฟอสเฟตเทลงไป แล้วคลุกผสมต่อให้ทั่วทั้งโป่ง จบด้วยเกลี่ยดินจากด้านข้างทับเป็นชั้นบาง ๆ พร้อมตักน้ำบริเวณใกล้เคียงราดลงไปพอชุ่ม จะช่วยให้มีกลิ่นของเกลือกระจายออกไปดึงดูดสัตว์ป่าให้มากินค่ะ กิจกรรมทั้งสองกิจกรรมนี้เรียกเหงื่อได้เป็นอย่างดี แต่ถึงอย่างนั้นก็อิ่มทั้งใจอิ่มทั้งบุญ ที่ได้ช่วยเพิ่มแหล่งอาหารของสัตว์ป่า ขอบอกเลยว่าประทับใจมาก ๆ
10คีรีมันตรา
และก็มาถึงที่เที่ยวกาญจนบุรีที่สุดท้ายของวันนี้ เราแวะมากินอาหารร้านเด็ดกันก่อนกลับ ได้ยินมาว่าที่นี่นอกจากจะอาหารรสชาติดีแล้ว วิวก็ดีไม่แพ้กันเลย เมื่อเดินทางมาถึงแวนก็ไม่รอช้า สั่ง “ปลาช่อนคีรี” (ราคา 380 บาท) “ต้มข่าทะเล” (ราคา 380 บาท) และ “ไก่พันตะไคร้” (ราคา 120 บาท) ทุกเมนูหน้าตาน่ารับประทานทั้งหมดเลย และที่สำคัญรสชาติดีเยี่ยม หอมกลิ่นเครื่องเทศ รสชาติจัดจ้านถึงใจ มื้อนี้อิ่มแปล้กันเลยทีเดียว และหลังจากท้องได้ทำงานหนักไปแล้ว ขอตัวไปเดินย่อยกันสักหน่อยแล้วกันค่ะ ฮ่า ๆ~

สำหรับที่นี่มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีจักรยานให้ปั่นชมวิวกันด้วยนะ ส่วนด้านในร่มรื่นมากค่ะ มีต้นไม้รายล้อม มีสระน้ำขนาดใหญ่ ประดับด้วยน้ำพุสวยงาม มีท่าน้ำสำหรับให้อาหารปลาด้วยนะ เรียกได้ว่า รับประทานอาหารกันจนอิ่มแล้วก็มาเดินย่อยชมวิวสวย ๆ บรรยากาศดี ๆ ได้เลยค่ะ มาที่เดียวแต่คุ้มมาก ๆ เดินออกมานิดหน่อยก็มีร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ และมีของกินเล่นตั้งขายกันอยู่ใกล้ ๆ กับลานสนามหญ้า ใครที่แวะมารับประทานอาหาร อย่าลืมมาแวะเดินเล่นกันนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับทริป นั่งรถไฟลุยที่เที่ยวกาญจนบุรี แวะสะพานข้ามแม่น้ำแคว ล่องแพเปียกสุดมัน ทริปนี้แวนใช้เงินไปเพียง “6,690 บาท” เท่านั้น ทริปนี้แวนจัดเต็มมาก ๆ กินอย่างหรู อยู่อย่างแพงเลยนะ ได้เที่ยวครบทุกสไตล์ ได้ทำกิจกรรมสุดมัน เที่ยวครบ แถมได้ทำบุญให้น้อง ๆ สัตว์ป่ากันด้วย และทริปนี้ แวนก็ต้องขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และปั๊มน้ำมันบางจากที่มีน้ำมันดี ๆ พร้อมมีสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบางจากอย่างแวน ใครที่คิดถึงเมืองไทย อย่าปล่อยให้ความคิดถึงเป็นแค่ความรู้สึก คิด...แล้วไปให้ถึงนะคะ ใครที่อยากติดตามทริปสนุก ๆ แบบนี้ก็อย่าลืมติดตามเพจ Wongnai Travel ทริปนี้ลาไปก่อน เจอกันใหม่ทริปหน้าสวัสดีค่า~