สวัสดีครับ ผม “แวน เฮ้วซิ่ง” วันนี้พาทุกคนไปบุกที่เที่ยวอุดรธานี เมืองที่เคยรุ่งเรืองและหลอมรวมวัฒนธรรมนานาชาติในอดีต เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี ชิมอาหารขึ้นชื่อกันแบบเต็มอิ่ม เช็กอินเป็ดยักษ์ชื่อดัง และไม่พลาดที่เที่ยวยอดฮิตอย่างทะเลบัวแดง ครั้งนี้พิเศษตรงที่นอกจากจะได้นั่งเรือชมบัวแล้ว ยังได้ไปไหว้สักการะพระอุโบสถดอกบัวกลางน้ำ Unseen มาก ๆ และที่สำคัญที่สุด ที่พักดี ๆ อย่าง Hop inn อุดรธานี ที่พักดีราคาโดน ที่คงระดับมาตรฐานไว้เหมือนกันทุกสาขา มาพักกี่ครั้ง ผมก็ยังประทับใจเหมือนเดิมทุกครั้งเลยครับ และทริปนี้จะสนุกขนาดไหน เราไปเที่ยวพร้อม ๆ กันดีกว่าครับผม~

1สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
ทริปนี้ผมเดินทางด้วยรถไฟขบวน 133 กรุงเทพฯ - หนองคาย ราคา 205 บาท ผมมาขึ้นรถไฟที่ “สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ” ซึ่งใช้เวลาเดินทางจาก 3 ทุ่มกว่า ๆ ถึงจังหวัดอุดรธานีก็ราว ๆ 7 โมงเช้าพอดีครับ เดินทางสะดวก เราสามารถหลับบนขบวน และตื่นเช้าพร้อมกินอาหารเช้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานีได้เลย

2สถานีรถไฟอุดรธานี
เดินทางมาถึง “สถานีรถไฟอุดรธานี” ผมก็โทรเรียกรถเช่า ที่ผมได้จองเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ใครที่อยากเที่ยวด้วยรถมอเตอร์ไซค์แบบผม แนะนำให้จองผ่านเว็บไซต์ได้เลยครับ มีหลายเจ้าให้เลือก ผมเช่ารถขับเป็นเวลา 2 วัน ราคา 600 บาท ตกวันละ 300 บาท เรียกได้ว่าคุ้มมาก ๆ ใครที่อยากตามรอยผมก็แนะนำให้ขับขี่กันอย่างปลอดภัยด้วยนะครับ

3ราชาไข่กระทะ
หลังจากทำธุระเรื่องรถเรียบร้อย ก็พร้อมออกเดินทางหาอาหารลงท้องก่อนเริ่มเที่ยว ผมเลือกร้าน “ราชาไข่กระทะ” ร้านอาหารเช้าชื่อดังของจังหวัดอุดรธานี ใครที่มาต้องไม่พลาดร้านนี้ แนะนำให้มาเช้า ๆ เลยนะครับ เพราะถ้ามาสาย ๆ อาจจะหมดก่อน บรรยากาศร้านยามเช้านี้คนแน่นมาก ๆ อาจจะต้องรอคิว แต่รอไม่นานครับ


ผมเลือกสั่งอาหารขึ้นชื่อของทางร้าน นั่นคือ “ไข่กระทะ” (ราคา 30 บาท) “ขนมปังยัดไส้” (ราคา 10 บาท) และ “กาแฟร้อน” (ราคา 20 บาท) นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ข้าวไข่เจียวที่กรอบฟู ดูน่ารับประทาน ผมที่เห็นโต๊ะอื่นสั่งก็ต้องแอบมองตาม ฮ่า ๆ ใครที่อยากกินอาหารเช้าเจ้าเด็ด ผมขอแนะนำที่ร้านนี้เลยครับผม
4พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
และที่เที่ยวแรกของเราในวันนี้ “พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี” เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดให้เยี่ยมชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ เมื่อเดินทางมาถึงที่นี่ ทุกคนก็จะเห็นตึกสีเหลืองที่คนอุดรฯคุ้นกันดีในชื่อ “ตึกราชินูเก่า” รูปแบบของอาคารที่เป็นอาคารแบบโคโลเนียล ถูกนำมาประยุกต์เพื่อจัดแสดงงานศิลปะและบอกเล่าเรื่องราวซึ่งเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ที่อธิบายถึงความเป็นไปเป็นมาของจังหวัดอุดรธานีครับ



อยากบอกว่าภายในนี้ถูกออกแบบไว้อย่างดี สวยงาม และทันสมัยมาก ๆ ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้ทำให้แสง สี เสียง และบรรยากาศภายในน่าสนใจ ผมว่าเด็ก ๆ ที่มาเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้แห่งนี้จะต้องชอบมากแน่ ๆ ส่วนตัวผมนั้นขอบอกเลยว่าประทับใจมากครับ
5ร้านส้มตำเจ๊ไก่อุดร
หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์มา พี่เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้มาที่ “ร้านส้มตำเจ๊ไก่อุดร” เห็นว่าเป็นร้านเด็ดที่ใคร ๆ ก็รู้จัก เห็นทีมื้อนี้ผมต้องฝากท้องไว้ที่นี่ซะแล้ว บรรยากาศภายในร้านคึกคักมากครับ ลูกค้าแน่นร้าน มีกันทุกเพศทุกวัย


และเมนูที่ผมเลือกสั่งคือ “ตำปูปลาร้า” (ราคา 50 บาท) “ไก่ย่างครึ่งตัว” (ราคา 65 บาท) และ “ข้าวเหนียว” (ราคา 10 บาท) หลังจากที่ได้ลอง ต้องบอกเลยว่ารสชาตินี่ทำให้ผมคิดถึงบ้านเลยครับ กับอีสานแท้ปลาร้าแซ่บนัว ใครที่แวะมาแถวนี้ก็มาลองกันได้เลยครับ
6สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม
สุขกายสบายพุงกันแล้ว ผมก็อยากเดินย่อยสักหน่อยที่ “สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม” ที่นี่ถือเป็นแลนมาร์กของคนอุดรฯเลยก็ว่าได้ครับ เพราะชาวอุดรฯมักจะมาเดินเล่น ทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกันช่วงเย็น และที่สำคัญที่นี่ก็ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์ นั่นก็คือการมาถ่ายรูปคู่กับเจ้าเป็ดยักษ์สีเหลือง ที่ไม่ว่าใครแวะมาที่นี่ก็ต้องเซลฟีกัน ผมเองก็ไม่รอช้า ขอถ่ายรูปกับเจ้าเป็ดสักรูป

7Hop Inn อุดรธานี
เดินเล่น ออกกำลังกายจนเหนื่อย ผมก็ขอเข้าที่พัก “Hop Inn อุดรธานี” ครับ ผมเลือกพักที่นี่เป็นประจำเพราะทำเลดี เดินทางสะดวก ไม่ต้องห่วงเรื่องบริการเลย ที่นี่มีพนักงานพร้อมต้อนรับตลอด และที่สำคัญ มีการยกระดับมาตรการรักษาความสะอาดและความปลอดภัยด้วย เรียกได้ว่าครบมาก ๆ ทำให้ทุกคนที่พักที่นี่รู้สึกอุ่นใจมากครับ และที่ผมชอบมากที่สุดคือราคาที่คุ้มค่าที่สุด ผมจ่ายเพียง 600 บาท แต่ได้บริการครบครัน สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ประทับใจเหมือนทุกครั้งเลยครับ




ห้องพักของผมสะอาดมาก เพราะมีพี่พนักงานคอยทำความสะอาดตามมาตรการของที่พัก และที่ผมชอบที่สุด ก็ตรงที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งทีวี ตู้เย็น โต๊ะทำงาน มีพร้อม แถมห้องน้ำสะอาด และมีหน้าต่างเปิดรับแสงทำให้ห้องน่าอยู่ ไม่แออัด ใครอยากใช้ไดร์หรือเตารีด ที่นี่ก็มีไว้คอยบริการด้วยครับ เพียงแจ้งยืมที่พนักงานต้อนรับเท่านั้นเอง ส่วนใครที่กังวลเรื่องอาหารก็สบายใจได้เลย เพราะมีตู้จำหน่ายอาหารและขนมขบเคี้ยวไว้คอยให้บริการ พร้อมน้ำร้อนและไมโครเวฟ เรียกได้ว่าหิวเมื่อไรก็มีอาหารไว้บริการแน่นอน และขาดไม่ได้เลยครับ ใครที่ต้องจิบกาแฟก่อนยามเช้า ที่นี่ก็มีบริการเครื่องทำกาแฟและโกโก้อัตโนมัติไว้คอยให้บริการลูกค้า HOP INN ฟรี! เรียกได้ว่า วันดี ๆ จะเกิดขึ้นได้ที่นี่ Have A Good Day จริงๆครับ ตอนนี้ผมต้องขอตัวไปพักผ่อนก่อน แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ
8ร้านข้าวเปียก
เช้า ๆ แบบนี้ก็อยากจะกินอะไรร้อน ๆ เพิ่มพลังสักหน่อย ผมเลือก “ร้านข้าวเปียก” อาหารเช้าสไตล์เวียดนาม ผมเลือกสั่ง “ข้าวเปียกเส้น” (ราคา 60 บาท) ร้านนี้แตกต่างจากร้านอื่นตรงที่ เส้นข้าวเปียกจะเป็นเส้นใหญ่ กินได้เต็มปากเต็มคำ มีกระดูกหมู และหมูยอมาพร้อมกับน้ำซุปเข้มข้นรสชาติดี ซดแล้วคล่องคอมาก ๆ


9อุโบสถดอกบัวกลางน้ำ
เติมพลังยามเช้ากันไปแล้ว ผมก็มาขับรถมาต่อที่ “วัดสันติวนาราม” เพราะที่วัดนี้มีไฮไลต์ที่น่าสนใจคือ “อุโบสถดอกบัวกลางน้ำ” เป็นพระอุโบสถทรงดอกบัวสีขาวหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ภายในมีภาพวาดฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ มีองค์พระประธานสีขาวโดดเด่นอยู่ภายในอุโบสถ และบริเวณโดยรอบอุโบสถยังโอบล้อมไปด้วยบึงน้ำขนาดใหญ่อีกด้วย ทำให้ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่ง Unseen เมืองอุดรฯที่ทุกคนห้ามพลาดเลยครับ



10ทะเลบัวแดง
และที่สุดท้ายที่ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวกันก็คือ “ทะเลบัวแดง” ที่อำเภอกุมภวาปี ขอบอกเลยว่าที่นี่เป็นที่เที่ยวยอดฮิตมาก ๆ ของที่นี่ ทุกคนที่มาจะได้นั่งเรือชมวิวทะเลบัวแดงจำนวนมหาศาล มองไปตรงไหนก็เห็นบัวแดงมากมายไปหมด เหมาะกับการมาเช็กอินถ่ายรูปมาก ๆ ครับ สำหรับราคาจะอยู่ที่ คนละ 150 บาท ครับผม



และเวลาที่แนะนำให้มาชมบัวจะเป็นช่วงเช้าตรู่ถึงประมาณ 11.00 น. ครับ เพราะถ้าสายมากกว่านี้บัวจะเริ่มหุบแล้ว และช่วงที่บัวบานมากที่สุดจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมยาวไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ครับ

เป็นยังไงบ้างครับ กับทริป เช็กอินเป็ดยักษ์ แวะอุโบสถดอกบัวกลางน้ำ ชมทะเลบัวแดงที่เที่ยวอุดรธานี ทริปนี้แวนใช้เงินไปเพียง “2,095 บาท” เท่านั้น ทริปนี้เที่ยวกันแบบจัดเต็มมาก ๆ เอาใจทั้งคนชอบถ่ายรูป คนชอบเข้าวัด หรือคนรักงานศิลปะ ที่สำคัญต้องขอขอบคุณโรงแรม Hop Inn มาก ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับผม เพราะนอกจากห้องพักจะโลเคชั่นดี ราคาสุดคุ้มแล้ว ยังอุ่นใจในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยอีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบเดินทางไปท่องเที่ยวหรือเดินทางไปทำงานครับ และนอกจากนี้ โรงแรม Hop Inn ยังมีอีกหลายสาขาทั่วประเทศ รอให้บริการพวกเราในราคาประหยัด ไปเที่ยวที่ไหน ไปทำงานที่ไหน อย่าลืมเช็กอินที่ Hop Inn นะครับ สำหรับใครที่อยากติดตามทริปสนุก ๆ แบบเที่ยวตามสั่ง ก็อย่าลืมติดตามเพจ Wongnai Travel แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ~












